- 06 มิ.ย. 2562
รายการเที่ยงตรงกับสนธิญาณ ได้นำเสนอในตอน ๕๐๐เสียง เลือกลุงตู่ แต่ ส.ส.แค่๒๕๑ รัฐบาลจะไปยังไง ?? ติดตามอิทธิฤทธิ์ นักการเมืองน้ำเน่าได้ ณ บัดนี้
รายการเที่ยงตรงกับสนธิญาณ ได้นำเสนอในตอน ๕๐๐เสียง เลือกลุงตู่ แต่ ส.ส.แค่๒๕๑ รัฐบาลจะไปยังไง ?? ติดตามอิทธิฤทธิ์ นักการเมืองน้ำเน่าได้ ณ บัดนี้ ซึ่งคุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ระบุว่า เมื่อวานนะครับเหมือนกับที่ผมเรียนล่ะครับ คนไทยก็จับจ้องอยู่ที่หน้าจอโทรทัศน์ แต่ดังที่ได้เรียนไปแล้วว่าไม่ต้องลุ้น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอนนะครับ บรรยากาศเมื่อวานก็เรียกได้ว่าเป็นบรรยากาศการชำแหละพลเอกประยุทธ์ จากพรรคว่าที่ฝ่ายค้านทั้งหลายนะครับ
สิ่งที่สะท้อนออกมาในรัฐสภาเมื่อวานก็คือความอ่อนด้อยของพรรคพลังประชารัฐนะครับ ที่นายธนาธรซึ่งเป็นคู่ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพลเอกประยุทธ์นั้นมีจุดอ่อนอย่างมากมายนะครับ เคยกล่าววาจาจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์นะครับ มีบันทึกอยู่ในหนังสือที่นายธนาธรให้สัมภาษณ์แล้วก็พิมพ์แจกจ่าย รวมทั้งเหตุการณ์อื่นๆอีกหลายเหตุการณ์ หรืออย่างเหตุการณ์ที่ไปชักศึกเข้าบ้านนะครับ เชื่อมโยงกับเครือข่ายประเทศตะวันตกทั้งหลาย จนเอาทูตออกมาเคลื่อนไหว อย่างนี้เป็นต้นนะครับ
ไม่มีใครอภิปราย มัวแต่ตั้งรับ นี่ถือว่าอ่อนด้อยในเกมทางสภา บทพิสูจน์ก็คือในเกมสภานี่นะครับ เหนื่อยแน่นอนพลเอกประยุทธ์ แม้จะชนะได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้วก็ตามแต่ เสียงที่ชนะกันเมื่อวานนี่นะครับ พลเอกประยุทธ์ก็จะได้สมญานามใหม่ล่ะครับ นายก 500 นะครับ 500 เสียงเต็มๆนะครับ ในขณะที่ว่าที่ฝ่ายค้านเลือกธนาธร 244 เสียง ของฝั่งฝ่ายค้านไม่ต้องชำแหละล่ะครับ มาดูของฝากฝั่งว่าที่รัฐบาลนี่นะครับ 249 เสียงเป็นของวุฒิสมาชิก 251 เสียงเป็นของ สส. นี่คือเสียงที่จะปกป้องพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาในสภานะครับ ความจริงควรจะมี 254 เสียง แต่แน่นอนครับ นายชวน หลึกภัยในฐานะประธานรัฐสภา ประธานสภาผู้แทนราษฎร โหวตไม่ได้นะครับ คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะพึ่งจะลาออก และอีกหนึ่งเสียงนะครับคือจ่าสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ จากพรรคภูมิใจไทยที่งดออกเสียง สส. คนอื่นในพรรคร่วมรัฐบาลผนึกแน่น แต่ผนึกแน่นแล้วได้แค่ 251 เสียง ให้จินตนาการบรรยากาศในสภาผู้แทนราษฎรนับจากนี้ต่อไปนะครับ
ซึ่งจะต้องเจอกับเกมในทางสภาของว่าที่พรรคฝ่ายค้าน จะเริ่มตั้งแต่หนึ่งการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลทั้งคณะนะครับ การผ่านพระราชบัญญัติงบประมาณ หรือการผ่าน พรบ.ต่างๆนะครับ นั่นหมายความว่า สส.ฝั่งรัฐบาลนี่นะครับ กระดุกกระดิกไปไหนไม่ได้เลย ใน 253 เสียงนะครับ ไม่รวมผู้ที่จะนั่งเป็นประธานนี่นะครับ จะมีบางคนที่เป็นรัฐมนตรีอีก ทีนี้บางคนที่เป็นรัฐมนตรีนะครับก็จะมีปัญหาในสภาเหมือนกัน ปัญหาที่ว่านะครับก็คือหากเป็นรัฐมนตรีนะครับจะต้องเดินทางไปปฏิบัติภารกิจต่างประเทศนะครับ ไปเจรจาความเมืองนะครับ ไปเจรจาการค้า ไปดูงาน หายออกจากสภาครั้งละ 3เสียง 5 เสียง หวาดเสียวแล้วล่ะครับว่า จะทำให้เกิดปัญหาในการโหวตได้ หมายความว่าพอเข้าฤดูกาลที่เปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรนะครับ รัฐมนตรีก็กระดุกกระดิกไม่ได้ บรรยากาศในสภาผู้แทนราษฎรนะครับ สิ่งที่จะเกิดก็คือเกมในการเช็คชื่อนะครับ เกมในการนับองค์ประชุม เกมในการยื้อการอภิปรายนะครับเพื่อลากดึงให้บรรดา สส. ที่อยู่นอกห้องประชุมเข้ามาหรืออยู่ไกลๆนะครับจะได้วิ่งเข้ามาประชุมทัน
เราจะเห็นบรรยากาศเก่าๆเหล่านี้กลับมา ซึ่งจะทำให้เห็นความเบื่อหน่ายต่อประชาชนเป็นอย่างยิ่งนะครับ นี่คือสถานการณ์ที่จะต้องเกิดขึ้นทั่วๆไปในสภาผู้แทนราษฎร แต่เรื่องสำคัญนะครับที่ผมเรียนว่ารัฐบาลของพลเอกประยุทธ์นะครับจะต้องเจอและก็มีปัญหาอย่างมากมายก็คือปัญหาจาก สส.ในพรรคร่วมรัฐบาลเองนะครับ จากกรณีเสียงปริ่มน้ำไม่ว่าจากในพรรคพลังประชารัฐนะครับ ที่เสนอพลเอกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีนะครับ หรือในพรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคภูมิใจไทย ซึ่งทุกคนคิดว่าเป็นพรรคที่เป็นเอกภาพที่สุดนะครับยังแหกโค้งแหกมติออกมาได้ เพราะฉะนั้นนะครับเรื่องนี้จะต้องจับตา จะมาจากสาเหตุอะไรล่ะครับเดี๋ยวผมจะขยายให้ฟัง ประเด็นนะครับปัญหาของรัฐมนตรีนี่นะครับตอนนี้เป็นอย่างนี้ ระหว่างการเจรจาการจัดตั้งรัฐบาลนี่นะครับ ในแต่ละพรรคก็วางตัวรัฐมนตรีตามโควต้ากระทรวงที่แต่ละพรรคได้รับการจัดสรรตอนเจรจากัน
เช่นพรรคประชาธิปัตย์ได้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพัฒนาสังคมฯ อย่างนี้เป็นต้น ภูมิใจไทยได้กระทรวงคมนาคมนะครับ และกระทรวงอื่นๆอย่างนี้เป็นต้น ยกตัวอย่างให้เห็นภาพนะครับ ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยนะครับฉบับล่าสุดในมาตรา 160 (4) (5) มีข้อกำหนดไว้ที่น่าสนใจ (4) กำหนดไว้ว่าผู้ที่จะเป็นรัฐมนตรีได้จะต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์กว้าง แต่กว้างนี่มีนัยยะสำคัญ (5) นะครับบอกว่าจะต้องไม่มีพฤติกรรมฝ่าฝืนทางจริยธรรม นี่ก็กว้างอีก แต่กว้างนี้แหละครับจะนำไปสู่ข้อกำหนดหรือการจัดตัวรัฐมนตรีของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งวันนี้สภาได้ผ่านมติไปแล้วนี่นะครับ พอมาถึงตอนนี้นะครับเราจะเห็นกระแสที่หลังจากลงมติเสร็จนะครับ ข่าวจากพลังประชารัฐออกมาเองว่าจะต้องมีการทบทวนโควต้ากันใหม่ คุยกับพรรคร่วมรัฐบาลกันใหม่
นี่คือพวกที่ผิดหวังอกหักตอนที่จัดสรรโควต้า คิดว่าเป็นต่อแล้วเพราะว่าพลเอกประยุทธ์ได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว เปล่าเลยครับ เพราะเสียงในสภา การอยู่ได้ของรัฐบาลและนายกอยู่ที่เสียงในสภา อยู่ที่เสียงของพรรคร่วม แล้วข้อคุณสมบัติสองข้อตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 ที่่ว่ามีความสำคัญอย่างไรนี่นะครับมันสำคัญอย่างนี้ครับ พลเอกประยุทธ์ตอนที่จะนำเสนอชื่อรัฐมนตรีแต่ละคนของแต่ละพรรคจะต้องมีการคัดกรองคุณสมบัติตามมาตรา 160 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยนะครับ สองข้อที่ผมบอกนั่นนะครับมันทำให้ทบทวนประวัติความเป็นมาของบรรดาอดีตนักการเมืองน้ำเน่าทั้งหลายที่ยังอยู่ในแวดวง เราเห็นนักการเมืองหน้าใหม่น้อยมาก และนักการเมืองหน้าใหม่ก็อยู่ที่พรรคอนาคตใหม่นะครับกับพรรคพลังประชารัฐบางส่วน
ส่วนพรรคอื่นๆก็เป็นคนเก่าๆแทบทั้งสิ้น หากหลายคนไม่ได้เป็นรัฐมนตรีทั้งๆที่วางตัวไว้แล้วนะครับ จะเป็นปัญหาหรือไม่ ในบรรดาพรรคการเมืองนั้นๆ มีหลายคนนะครับที่อาจจะเคยถูกร้องเรียนนะครับ นี่แค่ระดับร้องเรียน หรือบางคน ปปช.รับเรื่องไปแล้ว หรืออยู่ในขั้นตอนอีกหลายขั้นตอนนะครับที่ทำให้เกิดข้อสงสัยในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต จะเข้ากับ (4) ของรัฐธรรมนูญมาตรา 160 หรือไม่ มาถึง (5) มาตรฐานทางจริยธรรมนี่นะครับ เห็นแต่ละคนที่เคยหักหลังคนโน้นคนนี้ในทางการเมืองนะครับ เคยมีพฤติกรรมที่ประชาชนรับไม่ได้หลากหลาย เพราะมันกว้างนี่นะครับ จะเป็นประเด็นไหม ถ้าเสนอชื่อไปโดยพรรคร่วมรัฐบาลและพลเอกประยุทธ์ไม่ตั้งนะครับ
การคุมเสียงในพรรคซึ่งเป็นไปตามปกติของระบบรัฐสภาและระบบพรรคการเมือง เสียงที่ปริ่มน้ำแบบนี้ ยังไงพลเอกประยุทธ์ก็เหนื่อยอีกแน่นอน ไม่มีทางที่จะเป็นอย่างอื่น และไม่ได้เหนื่อยเท่านี้หรอกครับ ยังมีประเด็นเหนื่อยจากว่าที่พรรคฝ่ายค้าน จากคำแถลงของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เมื่อวานนี่นะครับธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจก็ไปโชว์วิสัยทัศน์ความเป็นนายกรัฐมนตรีนอกที่ประชุมสภา สิ่งที่แถลงคืออะไรล่ะครับ ผมจะเอาประเด็นสำคัญมาให้เห็นล่ะครับว่าสิ่งที่ธนาธรแถลงนั้นยืนยันว่าจะไม่ยอมแพ้การเลือกตั้งที่พึ่งเกิดขึ้นนี้เป็นเพียงการเริ่มต้นในเกมการต่อสู้เท่านั้นนะครับ ไม่มีการยอมแพ้ระหว่างทาง แม้จะต้องสู้ไปตามกติกา ก็จะสู้ต่อไป
เพราะฝากฝั่งของ คสช. หรือพลเอกประยุทธ์นั้น ธนาธรบอกว่าใช้ต้นทุนทางการเมืองไปเยอะ ใช้ต้นทุนทางสังคมไปเยอะ มีแต่ทางที่จะถดถอยนะครับ ผลนี่เป็นไปตามที่ธนาธรว่าไหมครับ ในข้อเท็จจริงเป็นอย่างนั้น เพราะรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์นี่นะครับประกอบไปด้วยนักการเมืองน้ำเน่า จากพฤติกรรมที่แสดงให้เห็นก่อนการโหวตนายกรัฐมนตรี และจะเห็นต่อๆไปนะครับจากวันนี้เป็นต้นไป แต่ในที่ขณะธนาธร ผมเรียนกับท่านผู้ชมไปแล้วว่าสิ่งที่ธนาธรกำลังเดินอยู่ในตอนนี้ คนๆนี้มาแทนที่ทักษิณแล้ว ร้ายกว่าทักษิณ ทักษิณจบยุคสมัยของทักษิณไปแล้วนะครับแน่นอน การต่อสู้ของธนาธรคือการต่อสู้ของขบวนการปฏิวัติขบวนการใหม่ที่จะเดินผ่านระบบรัฐสภา
ความเสื่อมทรุดนะครับหากว่ารัฐบาลพลเอกประยุทธ์นะครับได้แสดงพฤติกรรมออกมาจากนักการเมืองเหล่านั้นมีปัญหาแน่นอน รัฐบาลที่อยู่กันไม่ได้นี่นะครับ หนึ่งเรื่องของการทุจริตคอรัปชั่น นี่อยู่ไม่ได้แน่นอนนะครับ และปรากฎการณ์อันนี้สำหรับนักการเมืองน้ำเน่าที่เข้ามาร่วมรัฐบาล ภาษาชาวบ้านครับ มันจะอดได้หรือ นี่คือปัญหาที่ผมอยากจะให้พลเอกประยุทธ์พิจารณา เป็นข้อเสนอจริงใจ จัดยุทธศาสตร์นะครับจะเดินไปกี่เดือนก็ตามแต่นะครับหรือหนึ่งปี ปีเศษๆ ปรับขบวนยุทธ์ตั้งหลักเสียใหม่ เข้าใจการต่อสู้ของฝ่ายตรงข้ามนะครับ เพื่อที่จะรักษาแนวทางการต่อสู้ตามวิถีทางของ คสช.เอาไว้ในการที่จะบริหารราชการบ้านเมืองให้เป็นไปด้วยความสงบและเรียบร้อยตามความต้องการ ต้องคิดไตร่ตรองอย่างใหม่ครับ เดินตามการเมืองเก่าๆไม่ได้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- บิ๊กตู่ผงาดนายกฯสมัย2 ไร้ฝั่งพปชร.-สว.โหวตให้ธนาธร พบภท.เพียงคนเดียว
- แม่นอย่างกับตาเห็น ! “ฟองสนาน” ทำนาย “อภิสิทธิ์” มฤตยูเข้าภพที่สิบ ตกจากตำแหน่ง
- แกะรอยคนไม่โหวตบิ๊กตู่ เขาคือเศรษฐีหนุ่มพันล้าน อกหักจากพรรคบรรหาร มาพักบ้านเสี่ยหนู
- พี่ศรีฯร้องกกต.สอบอนค.ปูดงูเห่า รู้แล้วไม่แจ้งอาจผิดถึงตัดสิทธิ์ยกพวง