ข่าวลือ "ยึดอำนาจ" คนเฮ ทั้งๆที่เพิ่งเลือกตั้ง ... นักการเมืองยังไม่รู้ตัว !

ในรายการเที่ยงตรงกับสนธิญาณ ได้นำเสนอในตอน ข่าวลือ "ยึดอำนาจ" คนเฮ ทั้งๆที่เพิ่งเลือกตั้ง ...นักการเมืองยังไม่รู้ตัว   โดยคุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ได้ระบุเอาไว้ว่า เราจะรู้กันว่าใครจะได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งฟันธงไปตั้งแต่วันนี้ครับว่าไม่มีทางที่จะเป็นคนอื่นแน่นอน นายกรัฐมนตรีคนใหม่จะชื่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาแน่นอน

 

 ส่วนจะเป็นนายกรัฐมนตรีในรูปแบบไหน ซึ่งมีอยู่ 3 รูปแบบตามที่ผมเคยเรียนให้ท่านผู้ชมได้รับทราบและทบทวนให้ฟังก็คือ หนึ่ง เป็นนายกรัฐมนตรีเสียงข้างน้อย เพราะการเจรจาทางการเมืองไม่ลงตัวนะครับ ใช้เสียงจำนวนหนึ่งของ สส. 126 คน หรือมากกว่านั้นเล็กน้อย บวกกับวุฒิสมาชิกตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยเพื่อรอยุบสภา สองเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำนะครับ มีเสียงเกินมาเพียงแค่ 4-5 เสียง แล้วก็มีงูเห่าที่ปรากฏตัวในการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรมาแล้วนะครับ 6 ตัว ก็อาจจะทำให้มีเสียงถึง 260 เสียง ก็ถือว่ายังปริ่มน้ำอยู่นะครับ

 

 เสถียรภาพรัฐบาลไม่มีทางที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนจากสภาพทางการเมืองที่เห็นและเป็นอยู่ในการเจรจาต่อรองตำแหน่งนะครับ สามเป็นรัฐบาลมีเสียงข้างมากมั่นคง เพราะมีงูเห่าตามความคาดหวังและความใฝ่ฝันของทางฝากฝั่งพรรคพลังประชารัฐซึ่งคาดว่าจะมี 40-50 ตัว ซึ่งแน่นอนล่ะครับ จะต้องเปิดเผยตัวออกมาวันที่มีการโหวตนายกรัฐมนตรีในสภา ถ้าไม่เปิดเผยตัวออกมานะครับก็เชื่อไม่ได้ว่าจะมีงูเห่าจำนวนมากมายขนาดนั้นมาสนับสนุนพลเอกประยุทธ์

 

นี่แหละครับ 3 ทางเลือก สัปดาห์หน้ารู้กันแน่นอน แต่ไม่ว่าพลเอกประยุทธ์นะครับจะเป็นนายกรัฐมนตรีในรูปแบบลักษณะไหนก็ตามแต่นะครับ แต่สภาพการทางการเมืองที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี่นะครับ มันชัดเจนว่าก่อให้เกิดความเอือมระอาและน่าเบื่อหน่ายกับประชาชนส่วนใหญ่ ภาพการแก่งแย่งตำแหน่งนะครับ เละเทะ ไม่รู้จะบรรยายอย่างไรละครับเมื่อ 5-6 ปีก่อนปรากฏขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ดูฝากฝั่งพรรคพลังประชารัฐนี่แหละครับ จัดขบวนนะครับแห่แหนขันหมากไปพรรคโน้นพรรคนี้ สร้างภาพให้ประชาชนเห็นว่ามีการพบปะพูดคุยเจรจาให้เกียรติกัน ทั้งๆที่ความจริงนะครับในทางลับ มีการเจรจากันไว้ระดับหนึ่งแล้ว ภาพที่สร้างขึ้นก็เพื่อต้องการอีเวนท์ทางการเมืองบางอย่าง

 

 โดยเฉพาะในพรรคพลังประชารัฐซึ่งยังไม่จบ โดยเฉพาะจากกลุ่มสามมิตรที่มีการต่อรองตำแหน่งนะครับกับฝากฝั่งของตัวแทนนายกรัฐมนตรี และก็พยายามแสดงอิทธิฤทธิ์นะครับ อีเวนท์นี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ยืดเยื้อ สร้างสถานการณ์ให้ดูยืดยาวออกไป ซึ่งถือว่าเป็นพฤติกรรมที่น่าเอือมระอา นักการเมืองเหล่านี้เป็นนักการเมืองเดิมๆทั้งสิ้นนะครับ ความจริงแล้วสิ่งที่พรรคพลังประชารัฐควรจะทำเป็นอย่างยิ่งนี่นะครับ ก็คือการเชิญตัวแทนของพรรคการเมืองต่างๆที่จะร่วมรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นพรรคใหญ่พรรคกลางพรรคเล็กพรรคน้อยนะครับมาหารือกันในเชิงยุทธศาสตร์ทีจะนำพาประเทศต่อไป ใครมีนโยบายอันไหนมานั่งแลกเปลี่ยนนะครับ

 

 แล้วออกมาแถลงนะครับเป็นแผงให้สื่อมวลชนนะครับได้เห็นภาพ ทำแบบนี้จะดีกว่าไหม โดยภาพนโยบายต่างๆเป็นการประสานระหว่างนักการเมืองต่างๆที่จะมาสานต่อนโยบายและยุทธศาสตร์ของพลเอกประยุทธ์ที่วางไว้ในฐานะพลเอกประยุทธ์จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี ทำไมไม่ทำ ทำไม่ได้ครับ เพราะเรื่องของการต่อรองตำแหน่งยังเป็นเรื่องใหญ่ยังไม่จบ สภาพที่เกิดขึ้นจึงเห็นและเป็นอยู่ และทำให้น่าเบื่อน่าเอือมระอาเป็นอย่างยิ่ง นี่แหละครับคือฝากฝั่งที่จะสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาเป็นนายกรัฐมนตรีนะครับ

 

คิดดูซิครับไปเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยหรือรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำหรือรัฐบาลเสียงข้างมาก ประชาชนก็เบื่อหน่าย ย้อนกลับไปดูฝากฝั่งที่เรียกตัวเองว่าเป็นพรรคประชาธิปไตยมั่งนะครับ ออกเคลื่อนไหวอย่างหนักหน่วง และมีทั้งสองรูปแบบนะครับ รูปแบบแรกที่ยังขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องก็คือการโจมตีฝากฝั่งพรรคพลังประชารัฐและพรรคที่จะร่วมรัฐบาลอื่นๆนะครับ ก็เพราะฝากฝั่งพลังประชารัฐและพรรคที่จะร่วมรัฐบาลเปิดช่องให้เขาโจมตีนะครับ เพราะฉะนั้นการโจมตีแต่ละดอกๆต้องถือว่าเข้าเป้าทั้งสิ้น แต่อีกทางหนึ่งนะครับการแก่งแย่งกันภายในก็ยังปรากฏอยู่นะครับ

 

 แม้จะรู้นะครับว่าเสียงของตัวเองเป็นเสียงข้างน้อยนะครับ แพ้แน่นอน แต่ยังหวังเพื่อฟลุ๊ค คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ซึ่งวันนี้นะครับไม่มีตำแหน่งแห่งหนอะไรนะครับ มีแต่เพียงเป็นประธานยุทธศาสตร์ ซึ่งวันนี้ก็ไม่ได้มีความหมายอะไรแล้วนะครับ เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยนะครับ อยู่ๆก็ออกมาบอกว่าจะไม่เดินหน้า ไม่ต้องมาเสนอชื่อตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรีหรอกครับ เพราะอยู่ๆคนในพรรคออกมาว่าจะเสนอชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นะครับ ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีอีกคนนึง แน่นอนครับ

 

 ย่อมจะทำให้เกิดความสั่นไหวและอ่อนไหว ไม่เพียงเท่านั้นนะครับบางกระแสก็บอกว่าจะไปหนุนไปดันธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจเลย ขึ้นชิงตำแหน่งนากยกรัฐมนตรีกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานะครับ ซึ่งแนวคิดแบบนี้รู้อยู่แล้วว่าทางยุทธศาสตร์แพ้ แต่เพื่อต้องการที่จะขยายและเคลื่อนตัวทางการเมืองต่อ แต่ปรากฏว่าก็มี สส.อีสานกลุ่มหนึ่งนะครับ จะด้วยความที่ได้รับการติดต่อจากคุณหญิงสุดารัตน์หรือรู้สึกจิตสำนึกเอาเองออกมาเคลื่อนไหวบอกว่าไม่ได้ ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อไปชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต้องเป็นคุณหญิงสุดารัตน์เท่านั้น สส.อีสานลุ้นคุณหญิงสุดารัตน์ ก็ไม่รู้ว่ามีกี่คนนะครับ

 

 สส.อีสานของพรรคเพื่อไทย ต้องถือว่าเป็นกลุ่มเป็นก้อน แต่ข้อเท็จจริงไม่รู้ว่ามีกี่คนนะครับ หรือมีเฉพาะเพียงคนที่ออกมาพูดเท่านั้น สำหรับผมเองนะครับขอเรียนท่านผู้ชมครับว่าเวลาพรรคเพื่อไทยและฝากฝั่งพันธมิตรนะครับเรียกตัวเองว่าเป็นพรรคฝ่ายประชาธิปไตยนะครับ อยากหัวเราะให้กลิ้งนะครับ อะไรที่อยู่ข้างในนะครับก็อยากจะอ๊วกพุ่งออกมา รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ และผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ฝากฝั่งพรรคพลังประชารัฐนะครับหรือพรรคการเมืองที่กำลังเตรียมจัดตั้งรัฐบาลอีกฝั่งอีกฝ่ายก็มัวแต่วุ่นวายอยู่กับเรื่องการแก่งแย่งตำแหน่งการต่อรองกันนี่แหละครับ เลยทำให้ขาดสาระสำคัญในการที่จะพูดให้ประชาชนเข้าใจ ต้องเป็นฝ่ายตั้งรับ ต้องให้ฝ่ายที่เรียกตัวเองว่าพรรคฝ่ายประชาธิปไตยโจมตีอยู่ตลอดเวลา ทั้งๆที่พรรคการเมืองพรรคนี้ที่ชื่อพรรคเพื่อไทยจริงๆแล้วเป็นพรรคโคตรโกงมหาโกง ขี้โกง โกงอย่างต่อเนื่อง

 

 ไปย้อนรอยดูมานะครับ ต่อเนื่องตั้งแต่พรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชาชน มาจนถึงพรรคเพื่อไทยนะครับ พรรคในเครือข่ายทักษิณเป็นแบบนี้ เมื่อวันสองวันที่ผ่านมานี่ชัดไหมครับที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาทางการเมืองนะครับได้มีคำพิพากษาคดีหมอโด่งนะครับ หรือที่ชื่อเต็มๆว่าพ.ต.นพ.ดร.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งก็คือนายบุญทรงนะครับที่ถูกตัดสินคดีและตัวเองหนี ศาลเลยพิพากษาตัดสินจำคุก 72 ปี แซงหน้าทุกคนไป เหตุผลเพราะอะไรครับ เพราะนี่แหละครับก็คือตัวการในการโกงจริงๆและเป็นตัวการที่เชื่อมโยงกับผู้บงการตัวจริง บอกว่าเป็นหญิงร่างท้วมคนหนึ่ง ซึ่งวันนี้หายหน้าหายตาไปทางการเมืองนะครับ ทั้งๆที่ควรอย่างยิ่งที่จะมีบทบาทเพราะได้รับความเชื่อถือจากทักษิณ ชินวัตรนะครับ ในฐานะที่เป็นญาติกัน หายออกจากสารบบทางการเมือง

 

 ทันทีที่มีข่าวว่าบุญทรงจะให้การตามข้อเท็จจริง ความเสียหายในคดีจำนำข้าวนะครับ ทั้งการทุจริตคอรัปชั่นและความเสียหาย ท่านผู้ชมทราบไหมว่าเกิดขึ้นนี่เป็นมูลค่าเท่าไหร่ 8 แสนล้านครับ เป็นเงินต้นประมาณ 6 แสน ดอกประมาณ 2 แสน ในวันนี้นะครับจะต้องจัดสรรงบประมาณนี่นะครับไปชดใช้ความเสียหายดังกล่าวปีละ 5 หมื่นล้านไป 15 ปี 5 หมื่นล้านเศษๆนะครับ น่าแปลก ข่าวสารเหล่านี้ไม่ปรากฏออกไป ผมเรียนก็เพราะอีกฝั่งอีกฝ่ายที่ถูกโจมตี ผมเรียนก็เพราะอีกฝั่งอีกฝ่ายที่ถูกโจมตีว่าเป็นฝ่ายสืบทอดอำนาจเผด็จการมัวแต่แก่งแย่งชิงดีตำแหน่งกันนะครับ ข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลที่เป็นจริงปรากฏชัดนะครับการโกงจำนำข้าวจีทูจีนะครับประชาชนก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

 

และโดยพรรคการเมืองที่ชื่อพรรคเพื่อไทย เพื่อไทย และเพื่อไทย ทั้งหมดทำไปตามนโยบายของพรรคเพื่อไทย เพื่อไทย และเพื่อไทยที่มีทักษิณ ชินวัตรคิด ข้อเท็จจริงมันเป็นแบบนี้ อีแบบนี้ยังมีหน้ามาเรียกตัวเองว่าเป็นพรรคฝ่ายประชาธิปไตย ท่านผู้ชมรู้สึกอย่างไรครับ 8 แสนล้านนะครับไม่ใช่เงินเล็กๆน้อยๆ เมื่อวานปรากฎว่ามีข่าวลือแพร่กระจายว่าจะมีการประกาศภาวะฉุกเฉิน เนื่องจากทนสภาพการเมืองที่เป็นอยู่ไม่ไหวแล้ว กองทัพมีการขยับตัว บางรายลือหนักไปถึงเรื่องของการยึดอำนาจ นี่พึ่งเลือกตั้งเสร็จใหม่ๆนะครับ

 

มีคนจำนวนมากออกมาขานรับ มาเชียร์ นักการเมืองเหล่านี้ยังไม่รู้สึกตัวนะครับ คิดว่าเดินเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย เลือกตั้งมาแล้วฉันจะทำอะไรก็ได้ ก็ไม่มีอะไรจะพูดต่อละครับ รอสัปดาห์หน้าเลือกนายกรัฐมนตรี เลือกแล้วผลจะเป็นอย่างไรนะครับก็มาติดตามกันต่อ สวัสดีครับ