ถามหน่อย ปชป. ?? จะยากอะไรหนักหนาพรรคเก่าแก่๗๓ปี  กับ๓แนวทางการเมืองให้เลือก

ในรายการเที่ยงตรงกับสนธิญาณ ได้นำเสนอตอน ถามหน่อย ปชป. ?? จะยากอะไรหนักหนาพรรคเก่าแก่๗๓ปี กับ๓แนวทางการเมืองให้เลือก

ในรายการเที่ยงตรงกับสนธิญาณ ได้นำเสนอตอน ถามหน่อย ปชป. ?? จะยากอะไรหนักหนาพรรคเก่าแก่๗๓ปี  กับ๓แนวทางการเมืองให้เลือก  โดยคุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ได้ระบุเอาไว้ว่า  สถานการณ์การเมืองในแต่ละวันๆตอนนี้นะครับท่านผู้ชม รู้สึกเหมือนผมไหมครับว่าบรรยากาศที่เราได้เห็นนะครับมันน่าสะอืดสะเอียนกับพฤติกรรมของนักการเมืองทุกฝ่ายล่ะครับไม่ว่าจะฝ่ายไหน ไม่ว่าฝ่ายที่อ้างตัวเองว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตยหรือผมเรียกว่าฝ่ายขี้โกงนะครับ โกงทุจริตจำนำข้าวนะครับ หรือฝ่ายอ้างตัวว่าเป็นผู้ที่จะมาสืบทอดอุดมการณ์ของ คสช. พลเอกประยุทธ์นะครับ

 

ก็โอ้โห ดูไม่ได้นะครับ หรือฝ่ายที่อ้างตัวว่าเป็นพรรคเก่าแก่นะครับ เป็นนักประชาธิปไตย วันนี้จะตัดสินใจไปทางไหนก็ยังไม่ตัดสินใจซะที ย้ำยืนยันนะครับ ไม่ใช่เรื่องอุดมการณ์อะไรหรอกครับ เป็นเรื่องของการต่อรองตำแหน่งความพออกพอใจในตำแหน่งที่จะได้ ตำแหน่งที่จะได้นี่นะครับ อำนาจที่จะได้ แน่นอนครับ เดินเข้าสู่เส้นทางทางการเมืองนะครับ อำนาจเป็นเรื่องปกติที่จะต้องได้มาเพื่อที่จะไปทำงานให้กับประชาชน นี่คือวิถีทางทางการเมือง ปฏิเสธไม่ได้หรอกครับ

 

 แต่ลีลาหรือวิธีการเจรจานี่มันดูท่าดูทาง มันไม่ใช่เพื่อประโยชน์ประชาชนหรอกครับ เป็นเรื่องของประโยชน์ส่วนตนหรือประโยชน์เพื่อพรรคทั้งนั้น โดยเฉพาะตอนนี้นะครับต้องเอากันที่พรรคประชาธิปัตย์เลยนะครับ พรรคเก่าพรรคแก่เลยท่านผู้ชมคิดว่าอย่างไรครับ เรามาดูพฤติกรรมของพรรคนี้กัน ต้องถือว่าเป็นพรรคการเมืองที่มีลีลาเยอะสุดนะครับ วันนี้ยังไม่มีอะไรชัดเจนว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเอาอย่างไร

 

ทั้งๆที่โดยข้อเท็จจริงแล้วนี่นะครับมี 3 ทางเลือกในทางการเมืองเท่านั้น ไม่มีทางที่จะเป็นทางอื่นไปได้นะครับ และระดับบุคลากรที่เชี่ยวชาญทางการเมืองนะครับ อย่างมากมายนะครับ มีประสบการณ์มากมาย แค่ทางเลือก 3 ทางนี้ตัดสินใจไม่ได้นะครับ เรามาดูกันว่าทางเลือก 3 ทางของพรรคประชาธิปัตย์มีอะไรบ้าง

หนึ่งก็คือร่วมกับพรรคพลังประชารัฐเลยนะครับ สถานการณ์ที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์มีท่าทีและมีน้ำหนักในการที่จะร่วมกับพรรคพลังประชารัฐในการจัดตั้งรัฐบาลนะครับ แม้ว่าการที่เอาภาพตัวเองไปผูกกับพรรคภูมิใจไทยนะครับ และท้ายที่สุดนะครับการโหวตคุณชวน หลีกภัยขึ้นเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรและดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภานะครับ อันนี้ไม่ใช่เรื่องที่คนหรือ สส.ในสภานะครับชื่นชมคุณภาพหรือบารมีของคุณชวน ไม่ใช่หรอกครับ ย้ำนะครับ คุณชวนมีบารมี มีคุณภาพ ศักยภาพเพียงพอ และเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งที่จะเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานรัฐสภา แต่การโหวตเลือกคุณชวนนั้นมาจากการเจรจาทางการเมือง ซึ่งเราจะเห็นได้นะครับในการประชุมวันที่ 25 เรื่องที่มีการเลื่อนไม่เลื่อนนี่นะครับ นั่นมาจากการเจรจาที่ไม่ลงตัวนะครับ

 

 และท้ายสุดนะครับ ไม่เลื่อน เลือกคุณชวน ก็เพราะการเจรจากันได้ในระดับหนึ่งระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคพลังประชารัฐ แต่หลังจากนั้นนะครับ ท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ก็รีๆรอๆอยู่แล้ว เหตุผลนะครับก็จากข่าวที่ว่าพรรคพลังประชารัฐนะครับโดยคุณสมศักดิ์ เทพสุทินมาต่อรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรนะครับ แล้วก็เกิดความไม่ลงตัวไม่พออกพอใจคุณนิพนธ์ บุญญามณี ก็บอกว่าใครกันแน่ที่มีอำนาจต่อรองในพรรคพลังประชารัฐ เอาให้แน่

 

แต่สาระสำคัญนะครับที่ทำให้สะดุดลงในตอนนี้ก็คือข่าวการจะลาออกของคุณอภิสิทธิ์ ซึ่งถ้าคุณอภิสิทธิ์ลาออก พรรคประชาธิปัตย์นะครับมาร่วมกับพลังประชารัฐ แน่นอนครับ พรรคประชาธิปัตย์จะเสียหายทันทีจากสิ่งที่คุณอภิสิทธิ์ประกาศไว้ว่าไม่สนับสนุนแนวทางพลเอกประยุทธ์ถึงขนาดต้องลาออก คุณอภิสิทธิ์จะกลายเป็นวีรบุรุษ  ในขณะที่พรรคประชาธิปัตย์จะกลายเป็นพรรคต่ำตมทันที นั่นเป็นแนวทางแรกครับท่านผู้ชมครับ

 

 มาดูแนวทางที่สอง คือร่วมพรรคเพื่อไทยเลย สนับสนุนแนวทางของคุณอภิสิทธิ์ที่ไม่ให้พลเอกประยุทธ์สืบทอดอำนาจนะครับ ร่วมเลยนะครับ ยืนยันเลยว่านี่คือวิถีที่ประชาธิปัตย์ต้องการนะครับ อย่าไปกลัวเรื่องที่ว่าวุฒิจะไม่โหวตให้ ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ไปรวมกับพรรคเพื่อไทย การที่มีเสียง สส.ในสภา 300 เสียง แม้จะไม่ถึง 376 เสียงนี่นะครับ วุฒิจะถูกกดดันจากประชาชนขนานหนักนะครับ ไม่มีทางที่จะเป็นอย่างอื่นได้นะครับ จะยื้อจะดึงดัน

 

 เลือกพลเอกประยุทธ์ต่อไปนี่นะครับก็เลือกไม่ได้นะครับ ดังนั้นนี่นะครับหากตัดสินใจในแนวทางนี้นะครับก็จะได้ตามอุดมการณ์ของคุณอภิสิทธิ์ ซึ่งตอนก่อนเลือกตั้งก็คืออุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์นะครับ ประชาชนที่เคยเลือกจะชอบหรือไม่ชอบนั่นเป็นอีกเรื่องนึงที่พรรคประชาธิปัตย์จะต้องไตร่ตรองแล้วก็ต้องตัดสินใจนะครับ

ส่วนแนวทางที่สามครับ ก็คือการเป็นฝ่ายค้านไม่ต้องบอกว่าอิสระครับ ก็คือไม่เลือกทั้งสองทางครับ การไม่เลือกทั้งสองทางนี่นะครับ ยืนยันเลยว่าพรรคประชาธิปัตย์คบกับทั้งสองพรรคไม่ได้ ไม่โหวต ใครจะจัดตั้งรัฐบาลก็ไปจัดตั้งกันนะครับ จัดตั้งไม่ได้ก็จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ยุบสภาไป ก็ประกาศให้ชัดเจน คืนอำนาจให้กับประชาชน ให้ประชาชนตัดสินใจว่าเอากันใหม่ครับ พรรคประชาธิปัตย์มีจุดยืนแบบนี้ ประชาชนว่าอย่างไรว่ากันนะครับ เพราะว่าพรรคประชาธิปัตย์นะครับผู้บริหารชุดที่เป็นอยู่นะครับ ทีมีคุณจุรินทร์ ลักษณะวิสิตเป็นหัวหน้าพรรคนะครับ ได้รับการสนับสนุนจากคุณอภิสิทธิ์ คุณชวน หลีกภัย คุณบัญญัติ บรรทัดฐานนะครับ ผู้มีบารมีในพรรคอย่างชัดเจน เพราะฉะนั้นการเดินแนวทางนี้ก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ยากลำบากแต่อย่างใด นี่ล่ะครับท่านผู้ชมครับ

 

มีอยู่ 3 แนวทางแค่นี้ ทำไมพรรคประชาธิปัตย์ถึงตัดสินใจไม่ได้ เดี๋ยวอย่างโน้น เดี๋ยวประชุม สส. เดี๋ยวประชุมกรรมการบริหารพรรค เดี๋ยวประชุมกรรมการบริหารร่วมกับ สส. นะครับ แน่นอนปัญหาส่วนหนึ่งมาจากพรรคพลังประชารัฐ ปฏิเสธไม่ได้ แต่พรรคประชาธิปัตย์ถ้ามีหลักคิดนะครับ ตัดสินใจก็ยืนยันไปเลยว่าจะเอาอย่างนี้ มีเงื่อนไขอย่างนี้นะครับ ผมว่าพรรคภูมิใจไทยนี่แสดงท่าทีชัดเจนในทางการเมือง น่านับถือเป็นอย่างยิ่งนะครับ

 

แต่ในทางกลับกันพรรคประชาธิปัตย์รีรอ ลูกเล่นไปทางโน้น ไปอย่างนี้ ล่าสุดนี่นะครับก็เห็นอาจารย์เสรี สนับสนุนแนวทางที่ 2 ว่าเลือกไปเลย เลือกพรรคเพื่อไทยไปเลย อุดมการณ์ประชาธิปไตยเหมือนกัน แต่สิ่งที่ต้องคิดว่าอย่าลืมนะครับว่าพรรคเพื่อไทยนี่เป็นพรรคที่ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ไทยนะครับ ที่โกงเป็นหมื่นล้าน ในโครงการจำนำข้าวและจีทูจี ไม่เคยมีพรรคการเมืองไหนที่ทำให้ประเทศชาติเสียหาย 8 แสนล้าน เป็นหนี้ผูกพันไปปีละ 5 หมื่นล้าน

 

 มีพรรคเพื่อไทย มีหน้าออกมาด่าฝั่งโน้นฝั่งนี้ไม่เป็นประชาธิปไตยนะครับ ไม่ชะโงกดูเงาหัวตัวเองในฐานะพรรคขี้โกง มันก็น่าแปลกนะครับ อีกฝากฝั่งก็ไม่ได้เอาเรื่องนี้มาแจกแจงให้ประชาชนเห็น ผมก็เพียงแต่ขยับขยายให้ฟังล่ะครับว่านี่ข้อเท็จจริงทั้งหมดเป็นแบบนี้ ตัดสินใจเสียทีนะครับ วันนี้ประชาชนเบื่อหน่ายเต็มทีแล้ว ขอบคุณครับ