- 20 มิ.ย. 2562
ประธานสภาฯกะซวกส.ส. นั่งเครื่องฯไม่จ่ายปล่อยตามทวงหนี้ บินดูงานต่างประเทศส่อจะผลาญงบ
จากกรณี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้กล่าวในโอกาสเป็นประธานเปิดการสัมมนา เรื่อง “บทบาทหน้าที่ของ ส.ส.” ที่มี ส.ส. ทั้ง 500 คน ร่วมสัมมนา โดยมีเนื้อหาช่วงหนึ่งที่ระบุ ถึงบทบาทการทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติของสภาชุดนี้ว่า ตั้งใจจะทำงานพิจารณาเรื่องต่าง ๆ ไม่ให้ค้างในสภาฯ และจะให้เวลากับการพิจารณาในขั้นกรรมาธิการให้มากเหมือนประเทศที่พัฒนาแล้ว ที่จะไม่เสียเวลากับการพิจารณาในวาระรับหลักการ โดยเฉพาะการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ ที่เป็นเรื่องสำคัญ หากรัฐบาลแพ้เรื่องนี้ ก็อยู่ยาก เพราะปัญหาเสียงปริ่มน้ำ
“ส่วนการเสนอกระทู้ถามคณะรัฐมนตรี ขณะนี้มีการเสนอมาจำนวนมาก แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่ารัฐมนตรีพร้อมตอบหรือไม่ และจากดูการยื่นกระทู้มา หลายเรื่องยังมีปัญหาการเขียนกระทู้ที่ไม่ถูกต้อง จำเป็นต้องให้สมาชิกที่ยื่นกระทู้มาเขียนมาใหม่ และกระทู้ที่ยื่น ต้องเป็นกระทู้สำคัญจริงๆ ที่เกี่ยวกับงานของประเทศชาติ ไม่ใช่เอาปัญหาท้องถิ่นที่มีหน่วยงานรับผิดชอบอยู่แล้วมาตั้งกระทู้ถาม ทำไม่เกิดประโยชน์และเสียเวลา
ขอให้สมาชิกทุกคนปฏิบัติตนตามมาตรฐานจริยธรรม อย่าให้มีปัญหาแบบสภาชุดที่ผ่านๆ มา โดยเฉพาะปัญหาการไม่ชำระค่าตั๋วเครื่องบิน ในการเดินทาง แต่ใช้สิทธิ์ ส.ส. เดินทางก่อนล่วงหน้า ทำให้สายการบินต้องทำหนังสือทวงค่าเครื่องบินในภายหลัง และอาจกระทบต่อจริยธรรมนักการเมืองได้ เช่น เดียวกับบางคนที่ใช้ความเป็น ส.ส. ไปสั่งให้สายบินรอ เพราะมาสาย เรื่องนี้มีกัปตันสายการบินเคยมาฟ้อง ต้องให้ ผู้โดยสารรอ ส.ส. แค่คนเดียวเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอย่างมาก”
นอกจากนี้นายชวน ยังกล่าวถึงการใช้สิทธิ์เดินทางรถไฟ และ รถบขส. ที่พบว่า ส.ส. กับผู้ติดตาม เอาสิทธิ์ไปให้คนอื่นใช้แทน ทั้งที่เป็นชื่อของ ส.ส. ถือเป็นการเอาเปรียบรัฐ และสามารถดำเนินคดีในฐานะปลอมแปลงเอกสารได้ ดังนั้นสภาฯนี้ต้องไม่เกิดปัญหา หมดสภาฯนี้แล้วต้องไม่มีหน่วยงานใดส่งชื่อมาทวงหนี้อีก
“การไปดูงานต่างประเทศ มีปัญหาที่ไปดูงาน แต่ไม่ไปดูงานจริงๆ ทำให้สถานทูตเสียหาย ดังนั้น ต้องรู้จักกาลเทศะ ไปดูงานไม่ใช่ไปช็อปปิ้ง และต้องแต่งตัวให้เหมาะสม เพราะอยู่พรรคไหนไม่สำคัญเท่ากับเป็นคนที่เคารพกฎเกณฑ์ กติกาของบ้านเมือง อย่าให้ภาพสภาฯ ไทยเสียหาย อย่าให้คนที่เลือกเราเขาเสียใจ และอย่าทำตัวเป็นคนขาดวุฒิภาวะ”