- 21 มิ.ย. 2562
ฝากถึงน้องช่อ!! "พล.ท.นันทเดช" โพสต์รัวใครล่าใครกันแน่ เพิ่งรู้ความจริงว่าประเทศไทยคือสุดยอดของประชาธิปไตย
จากกรณีที่คุณพรรณิการณ์ วาณิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ เคยโพสต์ภาพที่ดูมิบังควรพร้อมแคปชั่นลงบนเฟซบุ๊กเมื่อหลายปีที่ผ่านมาจนทำให้เกิดกระแสขึ้นมากมายในโซเชียลล่าสุดเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.62 พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์ ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า... พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์ โดยระบุว่า... "คนชั่วจะลอยนวล ถ้าไม่มีผู้ไล่ล่า (จาก ภาพยนต์ True Grit) หรือแค่ใส่เสื้อสีเหลืองแล้วก็เลิกรากันไป โดยไม่ยอมลบ FB ทิ้ง ผมคิดว่าคงไม่มีใครยอมแน่ๆ ครับ ดังนั้น ก็อย่าไปว่า "พวกเขาไล่ล่าแม่มด" อีกละ แม้ว่าจะไม่ได้ลงชื่อชัดเจนว่าข้อความหมายถึงใครแต่ก็ไม่น่าเดาได้ยาก โดยพบว่าก่อนหน้านี้พลโท นันทเดช ยังเคยโพสต์ข้อความที่บอกว่า... "ใครล่าใครกันแน่ เรื่องที่คนกลุ่มหนึ่งออกมาโวยวายว่า "ฉ้อ" ถูกล่าเหมือนเป็น แม่มด นั้น ต้องเริ่มคิดกันก่อนว่า "ใครล่าใคร " ก่อนกันแน่" เมื่อประชาชนส่วนใหญ่ เค้ารู้กันแล้ว ว่า 9 ปี ที่ผ่านมาพวกคุณตามล่าอีกฝ่ายหนึ่ง อย่างสนุกมือ โดยคนที่ถูกล่าเค้าไม่ได้โต้ตอบอะไรเลย ประชาชนก็เลยยังไม่รู้ "ตัวตนที่แท้จริงของคุณ" ว่าเป็นอะไร
"มาถึงวันนี้คุณกลายเป็น ส.ส. ซึ่งต้องเป็นบุคคลสาธารณะ ที่ถูกตรวจสอบได้ แต่คุณก็ยังไม่เลิกการล่า ยืนยันเจตนาว่าจะล่าต่อไป แต่การล่าของคุณ มันละเมิดจริยธรรม และ กติกา ของการเป็น ส.ส. ที่สำคัญ คือ "การล่าของคุณ มีลักษณะไม่เหมือนกับที่เกิดมาเป็นคนไทย" ประชาชนจึงต้องออกมาทวงถาม ทักท้วง คุณก็ไม่เคยอธิบายอะไร ว่าทำไปเพราะอะไรอย่าไปโวยวายอะไรเลย ทำมาเองกับมือทั้งนั้น ไม่มีใครไปแกล้งทำให้เลย ขอเตือนสักหน่อย ว่า ที่พม่านั้นเผด็จการ ทหาร มีอยู่เป็นของจริง แรงกว่า ประเทศไทยหลายเท่าตัว เพราะพวกเขาต้องการรักษาชาติ ที่จะต้องทำให้คนหลายสิบกลุ่มอยู่ร่วมกันอย่างสงบได้ ดังนั้น จะพูดอะไรก็ระวังตัวให้ดีนะครับ"
ซึ่งหลังจากที่พลโทนันทเดช ได้โพสต์ข้อความดังกล่าวไป หนึ่งวันถัดมาก็ปรากฎอีกหนึ่งโพสต์ที่มีใจความเชื่อมโยงกันได้ โดยโพสต์ดังกล่าวระบุว่า... "ผมรักประเทศไทยครับ เหตุการณ์ต่างๆ เมื่อผ่านมาถึงวันนี้แล้ว ผมเพิ่งรู้ความจริงว่าประเทศไทยสุดยอดของประชาธิปไตยเลย น่ารักไม่ลืมหูลืมตาดูประเทศอื่นเค้าบ้าง ลองดูประเทศเพื่อนบ้านเรา ถ้ามีอาชีพเป็นสื่อหรือมีตำแหน่งแห่งหนหน่อย คุณจะต้องถูกตามโดยหน่วยตำรวจลับแล้ว ถ้ามีพฤติการสุ่มเสี่ยงต่อประมุขของประเทศ โดนตั้งแต่ตอนเรียนหนังสือแล้ว แต่ในประเทศไทย ทั้งๆ ที่รู้ดันปล่อยผ่านมาจนเป็น ส. ส. มันจะเป็นประชาธิปไตยกันไปถึงไหน!
บางประเทศ ก็มีกฏหมายเพื่อความมั่นคงจัดการได้ทันทีโดยไม่ต้องพึ่งกฏหมายธรรมดา ประชาชนห้ามหือ เพื่อความสุขของส่วนรวม ที่ฮ่องกง ถ้าจะชุมนุมต้องขออนุญาตระบุเส้นทาง และเวลาก่อน ถ้าออกนอกพื้นโดนแก็สน้ำตากระสุนยางทันที ถึงเวลาต้องเลิกไม่งั้นโดนอีก ดังนั้นพอชุมนุมมาถึงเวลาที่ขออนุญาตต้องเลิกและเก็บของที่ชุมนุมไปด้วย (ชุมนุมแบบนี้ คนไทยที่ไปเที่ยวฮองกงหัวเราะกันฉี่ราดเลย) วันหลังจะเขียนให้อ่านครับว่าเค้าชุมนุมน่ารักขนาดไหน ไม่เหมือนที่คุณวัฒนา เมืองสุข ขู่ไว้ว่าจะเกิดขึ้นในไทย น่ากลัวมาก ในสหรัฐ ด่าประมุขชาติอื่นทำได้ตามสบาย แต่ถ้าด่าประธานาธิปดีสหรัฐ ตกงานทันที ในอังกฤษขึ้นแบล็กลิสต์ห้ามเข้าประเทศ ส่วนจีนนั้นไม่ต้องพูดถึงน้องๆ เกาหลีเหนือครับ ที่ประเทศอื่นๆ เค้าทำเช่นนี้ ทำทั้งต่อหน้า และ แอบทำบ้าง ล้วนมาแต่การรักษาความมั่นคงให้ประเทศ เพราะประเทศพวกนี้เคยเสียบ้านเสียเมืองกันมาแล้ว ไม่เหมือนไทย
ตั้งแต่ก่อตั้ง ราชวงศ์จักรี มาชาติเราไม่เคยเสียเอกราช ดังนั้นคนไทยกลุ่มหนึ่งจึงอยากทดลองเป็นขี้ข้าต่างชาติกันนัก ลองไปอยู่กันเถอะครับ ถ้าไม่มีเงินเป็นพันๆ ล้านแล้วจะรู้สึกว่า มันลำบากยากเย็นขาดเสรีภาพขนาดไหน ถึงจะมีเงินเป็นพันล้านก็ต้องระวังถูกมาเฟียท้องถิ่นเรียกเก็บค่าต๋ง คุ้มครอง ไม่มีความสุขเหมือนกัน รักประเทศไทยเหมือนผมไหมครับ