- 22 เม.ย. 2563
จากกรณีมีการเผยแพร่เอกสารของกรมสรรพวุธ เกี่ยวกับการเดินหน้าโครงการจัดซื้อรถยานเกราะสไตร์เกอร์ ติดอาวุธ 50 คันด้วยงบประมาณ 4.5 พันล้าน โดยเป็นการจัดซื้อตามโครงการความช่วยเหลือทางการทหาร Foreign Military Sales -FMS จากสหรัฐอเมริกา นั้น
จากกรณีมีการเผยแพร่เอกสารของกรมสรรพวุธ เกี่ยวกับการเดินหน้าโครงการจัดซื้อรถยานเกราะสไตร์เกอร์ ติดอาวุธ 50 คันด้วยงบประมาณ 4.5 พันล้าน โดยเป็นการจัดซื้อตามโครงการความช่วยเหลือทางการทหาร Foreign Military Sales -FMS จากสหรัฐอเมริกา นั้น
ล่าสุด พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้แถลงชี้แจงข้อเท็จจริงจากสิ่งที่ถูกนำเสนอผ่านสื่อโซเชียลดังนี้ว่า จากนโยบายรัฐบาล โดย กระทรวงกลาโหม ได้ขอให้ทุกหน่วยงานในสังกัดพิจารณาปรับลดงบประมาณของ ปี 2563 เพื่อนำไปเข้างบกลางให้รัฐบาลนำแก้ปัญหาสถานการณ์ โควิด-19 นั้น
1.ภาพรวมของกระทรวงกลาโหมมีปรับลดไปจำนวนทั้งสิ้น จาก 7 หน่วยงาน มียอดเงินงบประมาณรวม 1.8 หมื่นล้าน ถูกนำกลับไปผ่าน. พ.ร.บ.การโอนงบประมาณของกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงเมื่อเทียบกับหลายๆกระทรวง ซึ่งขอเรียนว่าจาก ยอด 1.8 หมื่นล้านบาทนั้นจะเป็นงบฯในส่วนของ ทบ. หน่วยเดียวเกือบ 1 หมื่นล้านบาท
ในการดำเนินการปรับลดนั้นภายใต้หลักเกณฑ์การพิจารณาคือ โครงการไหนที่ยังไม่ผูกพัน ให้ชะลอตัดออกไปทั้งหมด ส่วนโครงการไหนผูกพันแล้ว ให้ตัดเหลือเพียงครึ่งเดียว ทำให้โครงการขนาดใหญ่ 4 โครงการ เช่น โครงการรถถัง ปืนใหญ่ หรือ เรดาร์ รวมถึง โครงการปกติอื่นๆ อีกประมาณ 26 โครงการ จำเป็นต้องถูกชะลอตัดออกไป
2.ส่วนกรณีเรื่องของ ยานเกราะล้อยาง สไตร์เกอร์ ที่มีสื่อบางสำนักได้นำเสนอไปนั้น อาจมีข้อมูลไม่ครบถ้วน เนื่องจากโครงการนี้ เป็นหนึ่งในโครงการที่ผูกพันแล้ว โดยแผนเดิมจะมีใช้งบฯ ของปี 63 จำนวน 900 ล้านบาท แต่ด้วยหลักเกณฑ์ตามนโยบายของ กระทรวงกลาโหมในข้างต้นทำให้ต้องมีการตัดลดงบประมาณออกไปครึ่งหนึ่ง ทำให้โครงการนี้ เหลือใช้งบปี 63 อยู่เพียง 450 ล้าน เท่านั้น
ซึ่งเรียนว่าโครงการฯ นี้จัดซื้อด้วยระบบ FMS เป็นไปตามความช่วยเหลือทางทหารระหว่างไทยกับสหรัฐอเมริกา ได้รับอนุมัติงบประมาณไว้ 4,515 ล้าน ได้จำนวนยานเกราะฯ รวมแล้วกว่า 100 คัน รวมที่ทาง สหรัฐฯ ได้ช่วยเหลือในลักษณะให้เปล่า
โดยลักษณะการใช้งบฯ เป็นแบบผูกพันข้ามปี ตั้งแต่ปี 63-65 ทำให้ในปี 63 เดิมก่อนถูกปรับลด จึงมีแผนใช้เพียง 900 ล้านบาท อีกทั้งด้วยความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง2 กองทัพ ในจำนวนงบประมาณที่ตั้งไว้สำหรับโครงการนี้ ไม่ใช่เป็นการจัดหาเฉพาะรถเท่านั้น ยังรวมถึงที่ทางสหรัฐฯ จัดชุดครูฝึกมาฝึกการขับรถ การใช้รถทางยุทธวิธี เทคนิคต่างๆของรถรวมทั้งชิ้นส่วนอะไรในการซ่อมบำรุง ที่นั่งการศึกษาในต่างประเทศ การสร้างโรงซ่อม และอาคารที่จอดรถจำนวนหนึ่งด้วย ล่าสุด ทบ.สหรัฐยังได้มอบกระสุนชนิดต่างๆให้กับ ทบ. มูลค่า 600,000 เหรียญสหรัฐฯ เพิ่มเติมให้มา และ ล่าสุดทาง ทบ.สหรัฐฯ เป็นผู้จัดเที่ยวบินอนุญาตให้นำนักเรียนทุนฯ ในสหรัฐกลับมาไทยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วโดยไม่ติดค่าใช้จ่าย
ขณะที่ พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก กองทัพบก แถลงว่า ตามที่รัฐบาลให้ทุกหน่วยราชการพิจารณาปรับลดงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 เพื่อนำไปตั้งเป็นงบกลางในการแก้ไขปัญหาช่วยเหลือเยียวยาและบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 รวมทั้งกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินหรือความจำเป็นอื่น ซึ่งกระทรวงกลาโหมได้มอบให้หน่วยขึ้นตรงและเหล่าทัพดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล พร้อมทั้งได้กำหนดแนวทางและหลักเกณฑ์ในการพิจารณาในการตัดลดงบประมาณลงนั้น
กองทัพบกได้สนองนโยบายกระทรวงกลาโหมและสนับสนุนรัฐบาลในการปรับลดงบประมาณ ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงกลาโหมกำหนดไว้ กล่าวคือ ได้ชะลอโครงการใหม่ที่เป็นงบประมาณผูกพันในปี 2563 และยังไม่ได้ทำสัญญา นอกจากนี้ หากโครงการใดมีการทำสัญญาในปีงบประมาณ 2563 แล้ว จะตัดลดงบประมาณลง 50 เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้การปรับลดงบประมาณในส่วนของกระทรวงกลาโหมจำนวน 1.8 หมื่นล้าน ถือว่ากระทรวงกลาโหมเป็นหน่วยงานที่โอนงบประมาณเข้างบกลางมากที่สุด เพื่อให้รัฐบาลนำไปดูแลประชาชนในสถานการณ์ COVID-19 โดยภาพรวมของกระทรวงกลาโหมที่โอนงบประมาณรายจ่ายเพื่อตั้งเป็นงบกลางนั้น มาจากหลายส่วนราชการในสังกัด ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม, กองบัญชาการกองทัพไทย, กองทัพบก, กองทัพเรือ และ กองทัพอากาศ ขณะที่งบประมาณ 1.8 หมื่นล้านที่ถูกโอนให้กับรัฐบาลนั้นเป็นงบของกองทัพบกเกินกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ คือประมาณเกือบหมื่นล้าน
"ในช่วงที่ผ่านมา กองทัพบกถือว่าเป็นหน่วยงานในระดับต้นที่ได้เริ่มดำเนินงานในหลายลักษณะเพื่อป้องกันและดูแลประชาชนจากสถานการณ์ COVID-19 จนกระทั่งปัจจุบัน สิ่งที่ กองทัพบกได้ทุ่มเทเตรียมการเพื่อสนับสนุนรัฐบาลและดูแลประชาชนนั้น ปรากฏให้สังคมได้ประจักในหลายมิติ เช่น การออกปฏิบัติการพ่นล้างสิ่งปนเปื้อนและและพ่นฆ่าเชื้อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในพื้นที่ กทม. และขยายผลไปยังจังหวัดต่างๆ สร้างการตื่นตัวในการดูแลพื้นที่
รวมถึงสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน กองทัพบกได้จัดเตรียมหน่วยแพทย์ จัดเตรียมโรงพยาบาลสนาม ชุดคัดกรองปฏิบัติงานในสถานที่ควบคุมและสังเกตอาการแห่งรัฐ การคัดกรองในพื้นที่ชายแดน การนำถุงยังชีพพระราชทานไปมอบให้กับประชาชนในพื้นที่ กทม.ปริมณฑล และจังหวัดต่างๆ หน่วยทหารของกองทัพบก ได้นำรถครัวสนามออกปรุงอาหารแจกจ่ายประชาชนลดค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนเกือบทุกจังหวัด ล่าสุด กองทัพบกเตรียมส่งรถครัวสนามแจกจ่ายอาหารตามชุมชนใน กทม. ที่สำคัญกองทัพบกได้ดำเนินการอนุรักษ์กำลังพล ทำให้มีอัตราการติดเชื้อต่ำมาก ด้วยการกำหนดมาตรการ COVID-19 ในหน่วยทหาร และการกำหนดเข้า - ออกค่ายทหารในเวลา 21.00 น. เป็นต้น ด้วยเพราะกองทัพบกเห็นถึงความสำคัญของผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 จึงได้พยายามเตรียมการและดูแลประชาชนในทุกด้านที่สามารถกระทำได้
ทั้งนี้ในกรณีการตัดลดงบประมาณของกองทัพบกก็เป็นเรื่องที่กองทัพบกพร้อมและยินดีปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงกลาโหมเพื่อนำไปดูแลประชาชน แม้การปรับลดงบประมาณจะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาอำนาจกำลังรบ และกำลังพลของ กองทัพบกทำให้โครงการบางโครงการที่เกี่ยวเนื่องกับยุทโธปกรณ์ สิ่งอุปกรณ์ต่างๆ อาจต้องชะลอ เลื่อน ระงับ แต่ กองทัพบกมีความเข้าใจในความจำเป็นของประเทศ และยินดีที่จะตัดลดงบประมาณ โดยกองทัพบกจะบริหารจัดการทรัพยากรที่เหลืออยู่ ให้สามารถดำรงอำนาจกำลังรบในการรักษาอธิปไตยและช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง
ขณะเดียวกันมีข้อสังเกตเกี่ยวกับการนำเสนอข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียในปัจจุบันมีความเปราะบาง หลายความคิดเห็นอยู่บนพื้นฐานของการมีข้อมูลที่จำกัดและไม่ได้ทราบข้อเท็จจริงอย่างครบถ้วน หรือบางครั้งมีการนำเอาความคิดเห็นจากแหล่งข่าวที่ไม่ปรากฏมานำเสนอ ประเด็นเหล่านี้อาจสร้างความสับสนให้กับสังคม ยิ่งในขณะนี้อยู่ในช่วงสถานการณ์ COVID-19 และประชาชนมีความยากลำบากในการดำเนินชีวิต