หมอวรงค์ เมิน ช่อ พรรณิการ์ ขู่ฟ้องหมิ่นเมย์เดย์แจกเงินอวตาร ลั่นมีหลายปมฉาวให้ขุดคุ้ยในศาล

จากกรณีคณะก้าวหน้าเปิดรับบริจาคเงิน  ผ่านกิจกรรมโครงการ “คอนเสิร์ตระดมทุน เมย์เดย์เมย์เดย์ เราช่วยกัน” ก่อนจะกลายเป็นปัญหาเมื่อมีการตรวจสอบจากหลายฝ่าย แล้วพบความไม่ปกติ ก่อให้เกิดเป็นข้อคำถามไปถึงแกนนำคณะก้าวหน้า  ในขณะที่ ช่อ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ประกาศเดินหน้าฟ้องแจ้งความเป็นความผิดทางอาญา  ทั้งกรณีของ นายบุญเกื้อ ปุสสเทโว อตีตผู้ช่วย ส.ส.พรรคภูมิใจไทย  และ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม   "คณะก้าวหน้ามอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายไปยื่นฟ้องนายบุญเกื้อ ก่อนจะรวบรวมหลักฐานยื่นฟ้องนายแพทย์วรงค์ต่อไป ส่วนค่าเสียหาย ขึ้นอยู่กับฝ่ายกฎหมายจะพิจารณา"

 

(คลิกอ่านข่าวประกอบ :  หมอวรงค์ ซัดก้าวหน้าแจงไม่เคลียร์ เข้าข่ายฉ้อโกง ย้ำถามเงินเมย์เดย์หายไปไหน โอนให้ 15 อวตาร ) 

ล่าสุด  นพ.วรงค์  อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.)  โพสต์ข้อความว่า  "ใช้กระบวนการยุติธรรมตรวจสอบกัน!!! ช่อควรจะฟ้องผมนะ เพื่อจะได้ใช้กระบวนการยุติธรรมตรวจสอบ ความโปร่งใสของโครงการเมย์เดย์เมย์เดย์ ในหลายๆประเด็นที่สังคมอยากรู้  เพราะถ้าให้ผมทำเอง แค่คณะก้าวหน้า ไม่ตรวจสอบความถูกต้องของรายชื่อที่ประกาศ ก็ทำให้เกิดความผิดพลาดได้  ที่สำคัญ ยังมีหลายประเด็นที่สังคมแคลงใจ เช่น

-ทำไมใช้รหัส 24 และ75
-การโอนเงินให้ผู้ขอรับเงิน ให้เฉพาะกลุ่ม พวก พรรค หรือไม่
-ใช้หลักอะไร มาก่อนได้ก่อน หรืออย่างอื่น และเป็นตามนั้นไหม
-รายละเอียดผู้ขอรับเงิน 
-รายละเอียดการใช้จ่ายทั้งหมด
-รายละเอียดประชาชนที่โอนเงินให้คณะ
-รายการจ่ายค่าน้ำประปา
-รายละเอียดทางบัญชี การโอนที่สงสัย
-อื่นๆ
ผมคิดว่าคงมีหลายๆประเด็นที่ประชาชนอยากรู้ ซึ่งสามารถฝากประเด็นมาที่ผมได้ และสามารถใช้กระบวนศาลช่วยตรวจสอบ 
แต่ที่สำคัญช่อต้องมั่นใจนะว่า ทุกอย่างของคณะก้าวหน้า"โปร่งใส" เพราะตัวผมเองนั้น มั่นใจถึงความต้องการ ตรวจสอบความโปร่งใสของผมเกินร้อย

 

ก่อนหน้านั้น นพ.วรงค์  ได้โพสต์จุดยืนเรื่องการตรวจสอบเงินบริจาคของคณะก้าวหน้า ว่า  "ผมยังยืนยันถึงความโปร่งใสในการตรวจสอบการโอนเงิน แต่เป็นความผิดพลาดของคณะก้าวหน้า ที่พิมพ์รายชื่อ พยัญชนะ สระ ตัวสะกด ผิดพลาดจากชื่อจริง ทำให้การสุ่มตรวจสอบมีปัญหาขึ้นมาได้

อย่างไรก็ตาม การเปิดเผยสเตทเม้นท์ของคณะก้าวหน้า ได้ทำให้สังคมไทยเห็น ความผิดปกติหลายอย่าง ตั้งแต่ใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ เพราะโครงการมีวัตถุประสงค์ เพื่อนำเงินไปช่วยเหลือรายละ 3,000บาท  แต่กลายเป็นว่าเอาเงินบางส่วนไปจ่ายค่าน้ำประปา หรือยังมีเงินสดเก็บไว้ ทำไมไม่โอนช่วยเหลือให้หมด หรือปิดโครงการแต่ไม่ปิดบัญชี ซึ่งประชาชนที่บริจาคสามารถฟ้องดำเนินคดีได้

ขอให้พี่น้องที่รักความถูกต้อง ความชอบธรรม มีพลังใจร่วมกัน ช่วยกันดูแลบ้านเมือง ร่วมกันปกปองสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพื่อความผาสุกของประชาชน ไม่หวั่นไหวต่อสิ่งใดๆ เพราะบ้านเมืองของเรา ยังเผชิญปัญหาจากผู้ที่ไม่หวังดี"

 

หลังจากที่มีการพูดถึงคำให้สัมภาษณ์ของ   น.ส.พรรณิการ์ วานิช  ว่า "ผมขอตอบช่อครับ  ผมเรียกร้องขอเปิดหลักฐานการโอนเงินเฉพาะ 15 รายชื่อนี้มาตลอด แต่ช่อไปแจงภาพรวม ผมย้ำแล้วว่าขอแค่ 15 รายชื่อเท่านั้น แต่ช่อแสดงหลักฐานไม่ได้เอง  อยากบอกช่อด้วยว่า 11 ใน 15  รายชื่อนี้เป็นอวตารครับ  คือไม่มีรายชื่อในทะเบียนราษฎร์  ซึ่งช่อก็รู้ว่าอวตารเปิดบัญชีไม่ได้ แต่ก็มีรายชื่อที่คณะก้าวหน้าโอนเงินไปให้  นี่ขนาดเปิดมา 15 รายชื่อ ยังมีอวตาร 11คน ดังนั้นช่อเตรียมไปชี้แจงที่ศาลได้เลย เพราะหลักฐานพวกนี้มันดิ้นไม่หลุดครับ"

 

 

( คลิกข้อมูลการโอนเงินคณะก้าวหน้า) 

 

 

ทางด้าน นายบุญเกื้อ  โพสต์ถึงกรณีที่จะถูกฟ้องดำเนินคดีอาญา   หลังจากการออกมาเคลื่อนไหวตรวจสอบการรับบริจาคเงิน  ในโครงการ เมย์เดย์เมย์เดย์ เราช่วยกัน  ของคณะก้าวหน้า ว่า  "คณะก้าวหน้า คือคณะประชาธิปไตยจอมปลอม ตัดสินใจยื่นฟ้องบุญเกื้อซึ่งเป็นราษฎรที่มีหัวใจประชาธิปไตย   เพราะบุญเกื้อกล่าวหาคณะก้าวหน้าอมเงินบริจาคของราษฎร  คณะของเธอ ผมให้ราคาแค่หนึ่งสตางค์เท่านั้น เธออย่าคิดเอาคดีมโนสาเร่มาต่อรองกับคดีฉ้อโกงราษฎร.......อย่างน้อยที่สุดการเรียกร้องหาความโปร่งใสของโครงการเมย์เดย์  คณะก้าวหน้า ได้มีแถลงการณ์ล่าสุดเมื่อสักครู่ ได้แจงว่าในบัญชียังมีเงินเหลืออีก 222,783บาท นี่คือเงินที่ผมล้วงคอเอาออกมาได้ "

 

(คลิกอ่านข่าวประกอบ :  บุญเกื้อลุยชน ช่อ พรรณิการ์ ขึ้นโรงพักร้องสอบเงินบริจาค เมย์เดย์ เมย์เดย์ 7.2 ล้าน คณะก้าวหน้าส่อพิรุธ )