อดีตหน.ผู้พิพากษาฯ เตือนสติเกรียนปชต.ไล่รังควานคนเห็นต่าง ห่วงอนาคตชาติถ้าพวกนี้มีอำนาจ

กลายเป็นที่พูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ไปปแล้ว สำหรับการเคลื่อนไหวทางการเมืองของเหล่าบรรดา ดารา - นักแสดง และ พิธีกร ที่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากในขณะนี้ โดยก่อนหน้านี้ ก็เป็น ม้า อรนภา ที่โดนกระแสชาวเน็ตไม่ปลื้ม หลังคอมเม้นต์เรื่องกลุ่มนศ.ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย ว่า "นอนแหก....อยู่บ้านไป ไม่ต้องมาเรียน เด็กเปรต" จนเป็นกระแสโด่งดังสร้างความไม่พอใจให้แก่ชาวเน็ตกับพฤติกรรมของม้า อรรภา ในครั้งนี้ และเมื่อไม่นานนี้ พิธีกรคู่ในรายการข่าวใส่ไข่ อย่างหนุ่ม กรรชัย  ได้เผยว่า ม้า ไม่ได้ทำหน้าที่พิธีกรในรายการแล้วพร้อมทั้งเผยว่ารายการ 3 แซ่บ ก็เป็นอีกหนึ่งรายการที่ม้าหลุดจากการเป็นพิธีกรดำเนินรายการด้วย

นอกจากนี้ยังลุกลามไปถึง เหมี่ยว ปวันรัตน์  พิธีกรคู่ในรายการเดียวกับม้า ที่เกิดกระแสเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับที่ 1 กับการเรียกร้องจากชาวเน็ตให้แบนพิธีกรชื่อดังและมีการขุดคลิปสมัยก่อนที่เหมี่ยว เคยขึ้นเวทีล้อกรณีมือปืนป๊อปคอร์น อีกคนที่โดนกระแสไล่ล่าอย่างหนักอีกคนคือ  เกลือ กิตติ เชี่ยววงศ์กุล นักแสดงชื่อดังจากซิทคอมอารมณ์ดีเรื่อง เป็นต่อ ที่ถูกเรียกร้องให้มีการขอโทษประชาชน จากกรณีที่ เกลือ เคยขึ้นเวที กปปส. ซึ่งได้มีคนเข้าไปถามเรื่องนี้กับเกลือในอินสตาแกรม ว่า "พี่เกลือครับ ได้เวลาขอโทษประชาชนหรือยังครับ ที่เคยไป สนับสนุน กกปส." และเกลือก็เข้ามาตอบว่า "ไม่เห็นมีเหตุให้ต้องขอโทษเลยนี่ครับ น้องเองระวังต้องขอโทษประชาชนนะครับ"

อ่านข่าว - เกลือ กิตติ เป็นอีกหนึ่งเหยื่อไล่ล่า โดนเกรียนกดดันขอโทษ หลังเจ้าตัวชัดเจนจุดยืนเรื่องสถาบันฯ

แต่ที่หนักสุดน่าจะเป็นม้า อรนภา ที่ดูเหมือนว่า ดราม่าดังกล่าวจะลุกลามไปกันใหญ่ เพราะในเพจเฟซบุ๊ก ห่อหมกแม่คุณม้าอรนภา ได้โพสต์ข้อความระบุว่า "ร้านเราทำห่อหมกขายด้วยฝีมือและความตั้งใจของคุณแม่และร้านนี้เป็นของ คุณแม่คนเดียว เท่านั้น และสร้างเพจนี้ขึ้นมาสำหรับ ร้านขายห่อหมก เท่านั้น หากผู้ใดหรือใครที่ยังกระทำกริยาไม่เหมาะสมในเพจของร้าน ทางเราขอความกรุณาให้ท่านแยกแยะสิ่งที่เกิดให้ขึ้นให้ออกเพราะ นี่คือ “เพจขายของของคุณแม่”

อ่านข่าว - โรคชิงชังกำเริบหนัก! ขบวนการไล่ล่าเหิมเกริม เพจห่อหมกแม่ม้า อรนภา โดนพวกคลั่งปชต.กลั่นแกล้ง เจ้าตัววอนขอเห็นใจ ใครไม่หยุดฟ้องแน่

ล่าสุด นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก แสดงความเห็นในประเด็นดังกล่าวความว่า ...ถ้ากลุ่มคนที่เรียกตนเองว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย แต่กลับกำลังติดตามรังควานคุกคามผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับกลุ่มของตนในทุกวิถีทางอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่ในขณะนี้ มีโอกาสใช้อำนาจรัฐ

...ประเทศไทยคงมีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นเช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในสมัยการปฏิวัติวัฒนธรรมในประเทศจีนช่วงปี 2509 - 2512
...รวมทั้งอาจเกิดการเข่นฆ่าประชาชนที่มีความเห็นต่างเช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นเมื่อเขมรแดงมีอำนาจปกครองกัมพูชาในช่วงปี 2518 - 2522 ที่มีผู้ถูกฆ่าตายประมาณ 3 ล้านคน โดยที่ขณะนั้นกัมพูชามีประชากรประมาณ 7.5 ล้านคน

...แม้จะเชื่อมั่นว่าประเทศไทยมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองไม่มีวันที่จะเป็นเช่นนั้นอย่างแน่นอน แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้
...จึงขอให้ข้อคิดเพื่อเตือนใจสำหรับประชาชนคนไทยทุกคนที่ยังรักประเทศไทย ศาสนา และยึดมั่นอยู่กับสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย"

ขณะเดียวกัน นายอัษฎางค์ ยมนาค  ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์   ได้โพสต์เพียงรูปภาพในประเด็นดังกล่าวซึ่งเป็นข่าวที่ดราม่านั้นลุกลามไปทั่ว ไปยังผู้อื่นที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ทำให้ชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก