- 15 ก.ย. 2563
สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่เหล่าแกนนำพยายามที่จะหาทางในการจัดชุมนุมที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เพื่อยื่นข้อเสนอ 3 ข้อให้กับทางรัฐบาลเพื่อให้เกิดการปฏิรูปการปกครองประเทศเสียใหม่ เนื่องจากพวกเขามาองที่เป็นอยู่นี้มีหลายบุคคลที่ไม่ได้รับความเสมอภาคเท่าที่ควร แต่แล้วกิจกรรมนี้ก็ต้องถูกเบรกอย่างเร่งด่วนเนื่องจากเกรงว่า หากมีการชุมนุมเกิดขึ้น เหล่าแกนนำจะไม่ได้จี้รัฐบาลเพียงแค่การปรับปรุงประเทศ
สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่เหล่าแกนนำพยายามที่จะหาทางในการจัดชุมนุมที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เพื่อยื่นข้อเสนอ 3 ข้อให้กับทางรัฐบาลเพื่อให้เกิดการปฏิรูปการปกครองประเทศเสียใหม่ เนื่องจากพวกเขามาองที่เป็นอยู่นี้มีหลายบุคคลที่ไม่ได้รับความเสมอภาคเท่าที่ควร แต่แล้วกิจกรรมนี้ก็ต้องถูกเบรกอย่างเร่งด่วนเนื่องจากเกรงว่า หากมีการชุมนุมเกิดขึ้น เหล่าแกนนำจะไม่ได้จี้รัฐบาลเพียงแค่การปรับปรุงประเทศ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุดที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึงแนวทางของรัฐบาลในการการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าหรือลดเงื่อนไขที่จะนำไปสู่ความรุนแรง ในการชุมนุมวันที่ 19 - 20 ก.ย. ว่า รัฐบาลหลักเลี่ยงอยู่แล้ว รวมทั้งฝ่ายความมั่นคง พลเรือน ตำรวจและทหารต่างหลีกเลี่ยง ส่วนใครไม่หลีกเลี่ยงก็ต้องไปหามา รวมทั้งการป้องกันมือที่ 3 หรือมือที่ 4 ซึ่งสื่อมวลชนเองก็ทราบดีที่ถามมาก็มีคำตอบอยู่แล้ว โดยรัฐบาลยืนยันในเรื่องความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลักและทำให้การบริหาร ราชการในช่วงนี้ผ่านพ้นไปด้วยดีเพื่อสอดคล้องกับวิกฤตต่างๆที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในเวลานี้ หลายประเทศก็ดำเนินการทำอย่างไรให้บ้านเมืองสงบสุขที่สุดและรัฐบาลมีเสถียรภาพในการทำงานในช่วงนี้
"ขอร้องกันทุกฝ่ายทั้งแกนนำผู้ชุมนุมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ช่วยกันสังเกตสอดส่องเป็นหูเป็นตา และดูแลลูกหลานของเราให้ปลอดภัย อย่าให้ตกเป็นเครื่องไม้เครื่องมือของใคร ถ้าเป็นการชุมนุมบริสุทธิ์ผมไม่เคยมีปัญหากับใครทั้งสิ้น ส่วนบริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์ก็ต้องไปสืบหากันต่อไปหลังจากนี้ ซึ่งพอจะมีข้อมูลอยู่บ้าง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีมีเอกสารปลอมทางราชการออกมาโจมตีรัฐบาลกองทัพ ถึงการเตรียมกำลังปราบม็อบ 19 ก.ย. หรือเป็นการปลุกระดมเพื่อเรียกมวลชนเข้าร่วมชุมนุม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกคนก็ทราบดีอยู่แล้วว่าเป็นเอกสารปลอมและมีการชี้แจงมาแล้ว ซึ่งวันนี้ปลอมกันได้ทุกอย่าง ทุกคนก็ทราบดีว่ามีการเจริญเติบโตทางด้านเทคโนโลยีดิจิตอลสามารถปลอมได้หมด และปากพูดก็พูดได้หมด อีกทั้งมีการดัดแปลงเสียงดัดแปลงคำพูด จนถึงการลอกลายเซ็นมีทุกอย่าง จึงขอให้ทุกคนมีภูมิคุ้มกันตรวจสอบก่อนแชร์ ไม่เช่นนั้นก็จะมีปัญหาต้องถูกดำเนินคดีต่อไปในอนาคต ซึ่งตนไม่อยากวุ่นวายในเรื่องเหล่านี้ อย่างไรก็ตามยืนยันตนจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในการดูแลเจ้าหน้าที่ ดูแลเด็กและลูกหลานของเรา และทุกคนก็ต้องดูแลตัวเองด้วย โดยเฉพาะมาตรการต่างๆ ทั้งการตรวจสอบเรื่องอาวุธ และการแพร่ระบาดต่างๆ ก็ต้องมีมาตรการที่เหมาะสมในการดูแล เพราะลูกหลานของท่านก็เหมือนลูกหลานของเรา
"ผมเป็นห่วงเรื่องการชุมนุมอะไรก็แล้วแต่ วันนี้มีหลายอย่างที่มันแพร่อยู่ตามสื่อโซเชียลต่างๆ ซึ่งทุกคนก็ต้องเช็คก่อนแชร์ก่อนส่งต่อไปที่อื่นหรือไปขยายความ ซึ่งบางทีก็มีคนไม่หวังดีไปใช้ตรงนั้นในการปลุกระดมพล ปลุกปั่นขึ้นมา ผมถามว่าถ้าบ้านเมืองไม่สงบแล้วมันเกิดอะไรขึ้น ตัวผมเองไม่ห่วงอยู่แล้วว่าจะอยู่หรือจะไป แต่เป็นห่วงว่ารัฐบาลจะอยู่ตรงไหนหลายๆอย่างที่เป็นกลไก ที่จะไปแก้ปัญหาไม่ว่าจะแก้รัฐธรรมนูญอะไรก็แล้วแต่ใครจะทำ ก็ไปดูตรงโน้น ดังนั้นอย่ากดดันในเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ผมคิดว่าสังคมประชาชนส่วนใหญ่ทราบดี จึงขอแสดงความห่วงกังวล เพราะท่านก็รักลูกของท่าน ผมก็รักลูกของผมและผมจำเป็น ต้องรักลูกของท่านด้วย เพราะผมเป็นนายกรัฐมนตรีนั่นคือสิ่งที่ต้องดูแล"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันขอให้ทุกคนช่วยกันประคับประคองสถานการณ์ให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี สิ่งสำคัญที่สุดรัฐบาลมีโครงการจ้างงาน ที่กระทรวงแรงงานเตรียมการไว้แล้ว โดยจะจ้างงานนิสิตนักศึกษาที่ตกงานหรือยังไม่มีงานทำถึง 2.6 แสนคน ซึ่งรัฐบาลต้องดูแลเป็นพิเศษและไม่ได้เกี่ยวข้องกับการชุมนุม แต่เป็นเรื่องที่รัฐบาลวางแผนไว้อยู่แล้วในการดูแลตรงนี้ ซึ่งตนถามว่าหากวุ่นวาย มีปัญหามากๆ บริหารราชการไม่ได้ บริหารงบประมาณไม่ได้แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งคนอีก 60 กว่าล้านที่เสียประโยชน์แล้วจะทำอย่างไร ใครจะรับผิดชอบ ตนขอฝากไว้ด้วยแล้วกัน ขอให้ช่วยกันคิดช่วยกันทำและช่วยกันแก้ปัญหา