- 28 ต.ค. 2563
ทีมอดีตกรรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ แถลงพร้อมสู้คดีอาญา จากผลคำวินิจฉัยยุบพรรค ปิยบุตรลั่นต้องหยุดนิติสงคราม วิจารณ์การทำงานกกต. ศาลรธน. ขณะ ธนาธร โยงม็อบต้องเดินหน้าสู้ถึงที่สุด อุปสรรควันนี้แค่ศษหินในรองเท้า
สืบเนื่องจากการที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติให้สำนักงาน กกต.แจ้งความดำเนินคดีอาญา กับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และอดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ 15 คน จากกรณีศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ เนื่องจากกระทำผิดมาตรา 66 ประกอบมาตรา 72 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง กู้ยืมเงิน 191.2 ล้าน จากนายธนาธร หัวหน้าพรรค ซึ่งมีความผิดฐานบริจาคเงินเกิน 10 ล้านบาท ตามกำหนดไว้ในมาตรา 66 วรรคหนึ่ง พ.ร.ป.พรรคการเมือง 60 กำหนด และข้อกำหนดโทษตามมาตรา 124 จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสน หรือทั้งจำทั้งปรับ และศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
( คลิกอ่านข่าวประกอบ : มติกกกต. ฟ้องคดีอาญา ธนาธร พร้อม อดีตกก.บห.อนาคตใหม่ ปมเงินกู้ 191 ล้าน )
ล่าสุดอดีตคณะกรรมการบริพรรคอนาคตใหม่ นำโดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรค , นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรค และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีตโฆษกพรรค ได้เปิดแถลงถึงกรณีดังกล่าว โดยนายปิยบุตร ได้ตั้งข้อสังเกตุการทำหน้าที่ของกกต. และ ศาลรัฐธรรมนูญ ว่า กระบวนการที่เกิดขึ้นมีความเร่งรีบ ผิดปกติ ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น อาทิ การพิจารณาความผิดตามมาตรา 66 แห่ง พ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ แต่ภายหลังก็เปลี่ยนเป็นฐานความผิด มาตรา 72 รับเงินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพิ่มเติมเข้ามา เพื่อผลทางกฎหมายให้ศาลรัฐธรรมนูญมีเหตุแห่งการยุบพรรคการเมืองได้
ประเด็นสำคัญที่มีการตรวจสอบพบคือเอกสารภายในกกต.เอง โดยนายปิยบุตรอ้างว่า ในชั้นการสอบสวนมีการยกคำร้องข้อกล่าวหาถึง 3 คณะอนุกรรมการไต่สวน แต่ท้ายสุดที่ประชุมกกต.ชุดใหญ่ กลับเห็นชอบให้ยื่นคำร้องยุบพรรคไปยังศาลรัฐธรรมนูญ โดยอาศัยมาตรา 66 ประกอบมาตรา 72 แห่ง พ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ ขณะที่กลุ่มนักวิชาการจำนวนมาก มีการวิพากษ์วิจารณ์ในประเด็นดังกล่าว ทั้งสถานะของพรรคการเมือง ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญระบุว่า พรรคการเมืองเป็นมหาชน การกระทำการใดต้องมีการอนุญาต ถ้ากฎหมายไม่บอก คือกู้ไม่ได้ ทำให้เท่ากับว่าพรรคการเมือง จะไม่มีเสรีภาพดำเนินการอะไรได้ เว้นแต่กฎหมายอนุญาต
รวมถึงศาลรัฐธรรมนูญยังวินิจฉัยด้วยว่า เงินกู้แม้ไม่ใช่รายได้ แต่เป็นรายรับ กรณีดังกล่าวทำให้เกิดข้อสงสัยต่อมาในหลักการทางบัญชีจะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไร ในขณะที่หลายพรรคการเมืองก็มีการกู้เงินเช่นเดียวกัน เพียงแต่พรรคการเมืองเดียวที่ถูกยุบคือ พรรคอนาคตใหม่
“พรรคถูกยุบไปเมื่อ 21 ก.พ. 2563 พวกเราตัดสินเดินหน้าทางการเมืองทางความคิดต่อ เรามีอายุสั้นมาก ยังไม่ได้รณรงค์ทางความคิด เลยก่อตั้งคณะก้าวหน้าขึ้นมา และตัดสินใจว่าจะสนับสนุนผู้สมัครลงชิงชัยผู้บริหารท้องถิ่น พอ 8 เดือนผ่านมา กกต. มีมติดำเนินคดีอาญาต่อ มีข้อสังเกตว่า เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2563 มีบุคคลคนหนึ่ง เป็นนักร้องขาประจำ ที่ชื่อนายสนธิญา สวัสดี (อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ) เป็นนักร้อง จ้องจะร้องพวกเราตลอดเวลา และร้องไปที่ กกต. เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2563 ว่าเมื่อไหร่ กกต. จะดำเนินคดีอาญากับพวกเราเสียที ยุบพรรค 8 เดือนแล้ว ยังไม่ดำเนินคดีอาญาเสียที และไม่รู้ว่าบังเอิญหรือไม่อย่างไร 7 วันถัดมา วันที่ 26 ต.ค. 2563 กกต. มีมติช่วงค่ำ ๆ บอกว่า ให้ดำเนินคดีอาญาต่อนายธนาธร ในฐานะเป็นคนให้กู้เงิน ตามมาตรา 66 และดำเนินคดีอาญากับอดีตกรรมการบริหารพรรค 15 ราย ในฐานะรับเงินส่วนเกิน จึงมีความผิดตามกฎหมาย” (ข้อมูล : สำนักข่าวอิศรา)
ทั้งนี้นายปิยบุตร ยืนยันว่า จะเดินหน้าสู้คดีดังกล่าวอย่างเต็มที่ และด้วยความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย เพราะถ้าเราต้องการให้กระบวนการนิติสงครามหยุดสักที ก็ต้องสู้ ทั้งๆที่รู้กฎหมายไม่เป็นคุณแก่เรา หากไม่สู้กฎหมายก็จะบดขยี้กันต่อไป การสู้เท่านั้นถึงจะยุตินิติสงครามได้ หากผู้กำกับภาพยนตร์ยุบพรรคยังคิดเหมือนเดิมว่าทุกอย่างจะจบนั้นท่านคิดผิดและไฟจะลามทุ่งกว่าเดิม คดีอาญาต้องใช้เวลาไม่สามารถรวบรัดตัดความได้ทันที กระบวนเริ่มต้นที่ตำรวจ อัยการและไปศาลตามระบบปกติ ถ้าว่ากันตามข้อเท็จจริงไม่มีอะไรต้องกังวล แต่กังวลเรื่องกระบวนการนิติสงครามมากกว่า ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศไทย สรุปว่ากระบวนการยุติธรรมถูกแบบมาเพื่ออำนวยความยุติธรรมแบบเสมอหน้าหรือเพื่อรับใช้บางคนเท่านั้น
ทางด้าน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และในฐานะอดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า พวกเราต้องการทำพรรคการเมืองแบบใหม่ที่มีคุณภาพ เพื่อดึงศรัทธาประชาชนให้กลับมายังระบอบรัฐสภาอีกครั้ง และต้องการทำให้พรรคการเมืองเกิดความโปร่งใส แต่ท้ายสุดสิ่งที่ตั้งใจกลับยังไม่ได้เริ่มต้นนับหนึ่งอย่างเป็นจริงเป็นจัง
"การทำพรรคการเมือง เราไม่ได้ขอนายทุนคนไหน วิธีการก็คือต้องกู้ เรายืนยันเจตนาที่ดีในการสร้างพรรคการเมืองโปร่งใสตรวจสอบได้ และสมาชิกพรรคมีส่วนร่วมและเป็นเจ้าของ ขอบคุณประชาชนที่ยังคอยให้กำลังใจเราให้เดินหน้าและสู้ต่อไป สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงเศษหินในรองเท้าของพวกเราเท่านั้น หยุดเราไม่ได้เราจะเดินหน้าต่อ แม้เราจะมีอิสรภาพข้างนอกที่จำกัด แต่ยังมีคนกล้าหาญกว่าเราอีกจำนวนมาก เช่น อานนท์ หรือ รุ้ง ถ้าเรายอมแพ้แล้วจะมองหน้าคนเหล่านี้ได้อย่างไร คดีความต่างๆที่เกิดขึ้นกับเราจะหยุดเราไม่ได้ และจะไม่เป็นเงื่อนไขในการเจรจาเพื่อลดทอนข้อเรียกร้องของเรา เพราะเราต้องการสร้างประชาธิปไตยที่เท่าเทียมกันตามแนวทางของพรรคอนาคตใหม่และคณะก้าวหน้า"