นครบาล ยอมรับ รถตำรวจชนผู้ชุมนุมจริง แจงเหตุผลรีบขับหนี

ติดตามกันอย่างต่อเนื่องกับประเด็นร้อนของทางการชุมนุมเพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้ลาออกจากตำแหน่งเนื่องจากการบริหารงานที่ล้มเหลว อ้างอิงจากการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ที่ไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่ง ม็อบ12กันยา ที่ผ่านมานั้นเกิดประเด็นใหญ่ขึ้น เนื่องจาก สำนักข่าว The Reporters ได้จับภาพเหตุการณ์ มีรถยนต์ควบคุมผู้ต้องหา 1 คัน ชนผู้ชุมนุม ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย

 

 

 

ตามรายงานระบุว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นที่บริเวณแยกดินแดง ซึ่งผู้สื่อข่าวได้บันทึกภาพเหตุการณ์ ในช่วงขณะที่มีรถยนต์ควบคุมผู้ต้องหา 1 คัน ได้พุ่งชนผู้ชุมนุมบริเวณแยกดินแดง ฝั่งมุ่งหน้าไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กระทั่งทำให้มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย และจากภาพเหตุการณ์ดังกล่วทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมเกิดความไม่พอใจอย่างมาก 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุดมีรายงานว่าทราบแล้วว่าผู้ขับรถคันดังกล่าวเป็น ผบ.หมู่ สน.พลับพลาไชย 1 ซึ่งทาง กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ให้ข้อมูลชี้แจงกรณีปรากฏภาพรถควบคุมผู้ต้องหาวิ่งชนกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ บริเวณแยกดินแดง เมื่อช่วงดึกของวันที่ 12 กันยายน ซึ่งจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นทราบว่า รถควบคุมผู้ต้องหาคันดังกล่าวเป็นของ สน.พลับพลาไชย 1

กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้อธิบายต่อไปว่า ส.ต.อ.นรเศรษฐ ผบ.หมู่ ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 ได้รับคำสั่งจาก บก.น.6 ให้นำรถควบคุมผู้ต้องหาของ สน.พลับพลาไชย 1 คันหมายเลขทะเบียน ฮจ 5399 กทม. ไปสนับสนุนภารกิจที่ ตร. และหลังจากเสร็จภารกิจที่ ตร. ให้ไปสนับสนุนภารกิจ ที่ บช.ปส. กระทั่งเวลาประมาณ 23.30 น. ได้มีการสั่งกำลังพลบางส่วนที่สนับสนุนการปฏิบัติการควบคุมสถานการณ์ที่แยกดินแดง สามารถถอนกำลังกลับที่ตั้งได้ 

 

ดังนั้น ส.ต.อ.นรเศรษฐ จึงได้ขับรถคันดังกล่าว เดินทางกลับ สน.พลับพลาไชย 1 เพื่อนำรถยนต์คันดังกล่าวมาเก็บที่ สน. และจะนอนพักที่ สน. เพื่อรอปฏิบัติหน้าที่ในวันรุ่งขึ้น โดยคิดว่ากลุ่มผู้ชุมนุม ผู้ก่อความไม่สงบได้ออกนอกพื้นที่แยกดินแดงแล้ว จึงได้ใช้เส้นทางถนนวิภาวดีรังสิต ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 23.45 น.ได้ขับรถมาถึงบริเวณแยกดินแดง มีกลุ่มคนประมาณ 6-7 คน วิ่งออกจากข้างถนน เข้ามายังรถควบคุมผู้ต้องหาคันดังกล่าว 

 

ก่อนจะใช้ไม้ พร้อมทั้งวัตถุของแข็ง ตีบริเวณกระจกหน้าฝั่งคนขับ รวมถึงรอบๆ ตัวรถ และมีเสียงระเบิดดังขึ้นบริเวณรอบรถหลายครั้ง ส.ต.อ.นรเศรษฐ เกรงว่าจะได้รับอันตราย เนื่องจากไม่ได้พกพาอาวุธประจำกาย จึงพยายามขับรถออกจากบริเวณดังกล่าวโดยเร็วที่สุด ซึ่งจังหวะนั้นได้มีบุคคลเข้ามาขวางบริเวณด้านหน้ารถ เป็นเหตุให้เฉี่ยวชนบุคคลดังกล่าว 

ต่อมารถคันดังกล่าวยางแตก ทำให้ไม่สามารถขับต่อได้ จึงได้เลี้ยวเข้าจอดที่ รพ.พระมงกุฎ ส.ต.อ.นรเศรษฐ ได้เดินทางกลับไปที่ สน.พลับพลาไชย 1 แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ซึ่งภายหลังได้มีการดำเนินการ ดังนี้

1. ได้นำรถควบคุมผู้ต้องหาคันดังกล่าว มาเก็บรักษาไว้ที่ สน.พลับพลาไชย 1
2. แจ้งให้พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ทราบเหตุดังกล่าว ลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 64 เวลาประมาณ 03.20 น. และ 3. แจ้งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง ตรวจพยานหลักฐานรถคันเกิดเหตุ

ทั้งนี้จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ารถควบคุมผู้ต้องหาได้รับความเสียหาย กระจกหน้าร้าว ตัวรถด้านของมีร่องรอยการถูกทุบด้วยของแข็ง ยางแตก ซึ่งทาง บก.น. 6 ได้สั่งตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้ว พร้อมดำเนินการตามกฎหมายให้ครบถ้วน ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยในส่วนของ สน.พลับพลาไชย 1 จะได้ประเมินความเสียหายของตัวรถ ก่อนไปแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ ในส่วนของผู้ได้รับบาดเจ็บจากการถูกรถชน หากมีการแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับ ส.ต.อ.นรเศรษฐ ทางพนักงานสอบสวน ก็จะได้รวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม จากการกระทำดังกล่าว ด้าน วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ได้ทวีตข้อความระบุถึงเรื่องนี้ว่า อยากให้ ผบ.ตร.ชี้แจงด้วยว่า การขับรถพุ่งเข้าชนผู้ชุมนุมแบบในคลิปนี้ เป็นมาตรฐานสากลหรือไม่เท่าที่ดู ถ้าเป็นไปตามรายงานข่าว นี่น่าจะเป็นการพยายามฆ่ามากกว่านะครับ