- 28 พ.ย. 2562
ไทยออยล์คว้ารางวัลเกียรติยศด้านความยั่งยืนจาก SET Sustainability Awards 2019 สามปีซ้อน
เมื่อเร็วๆ นี้ คุณวิรัตน์ เอื้อนฤมิต (ขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) รับมอบรางวัลด้านความยั่งยืน (Sustainability Excellence) ประจำปี 2562 ประเภทรางวัลเกียรติยศ (Sustainability Awards of Honor 2019) จาก ดร.ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยบริษัทฯ ได้รับรางวัลระดับสูงสุดนี้ต่อเนื่องเป็นปีที่สาม นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลอีก 2 ประเภท ได้แก่ รางวัลดีเด่น ประเภทนักลงทุนสัมพันธ์ (Best Investor Relations Awards) ในกลุ่มบริษัทจดทะเบียนฯ ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงกว่า 100,000 ล้านบาท ที่มอบให้กับ คุณภัทรลดา สง่าแสง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านการเงินและบัญชี และ การมอบโล่ Thailand Sustainability Investment Awards 2019 (THSI) สำหรับบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในรายชื่อ ‘หุ้นยั่งยืน’ โดยมี คุณวิโรจน์ มีนะพันธ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่-ด้านกำกับองค์กรและกิจการสัมพันธ์ เป็นผู้รับมอบ ซึ่งรางวัลนี้ บริษัทฯ ได้รับต่อเนื่องเป็นปีที่ห้า พิธีดังกล่าวจัดขึ้น ณ อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ
การมอบรางวัลจัดขึ้นโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและวารสารการเงินธนาคาร โดยรางวัลด้านความยั่งยืน SET Sustainability Awards 2019 มอบให้แก่บริษัทจดทะเบียนที่มีความโดดเด่นเป็นต้นแบบแห่งการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน สามารถนำประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล หรือ ESG (Environmental, Social and Governance) ไปใช้เป็นกลไกในการพัฒนาธุรกิจสู่ความยั่งยืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับบรรณาธิการ
ไทยออยล์เป็นผู้ประกอบธุรกิจการกลั่นและจำหน่ายนํ้ามันปิโตรเลียมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็นโรงกลั่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2504 โดยมีธุรกิจหลักคือ การกลั่นนํ้ามันปิโตรเลียม ปัจจุบันมีกำลังการผลิต 275,000 บาร์เรลต่อวัน
นอกจากนี้ ไทยออยล์มีระบบการบริหารจัดการที่มุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ (Operational Excellence) โดยบริหารงานเป็นกลุ่มที่มีการเชื่อมโยงธุรกิจ ทั้งธุรกิจการกลั่นน้ำมัน ธุรกิจปิโตรเคมีและธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน โดยร่วมวางแผนการผลิตก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและสามารถผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีต้นทุนต่ำ ขณะเดียวกันมีคุณภาพสูงในระดับโรงกลั่นชั้นนำ (Top quartile) ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทำให้ได้เปรียบเชิงต้นทุนการผลิต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน นอกจากนั้น ยังมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องหลากหลาย เช่น ธุรกิจไฟฟ้า ธุรกิจสารทำละลาย ธุรกิจบริหารการขนส่งทางเรือและทางท่อ ธุรกิจพลังงานทดแทน ธุรกิจผลิตสารตั้งต้นสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์สารทำความสะอาด ธุรกิจบริการจัดเก็บนํ้ามันดิบ นํ้ามันปิโตรเลียม และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี และธุรกิจให้บริการด้านการสรรหาและคัดเลือกบุคลากรสำหรับกลุ่มไทยออยล์