- 02 มิ.ย. 2563
เมื่อวันที่ 1 มิ.ย 63 นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่ากลุ่มอาการขาอยู่ไม่สุขหรือโรค (RLS) RESTLESS LEG SYNDROME เป็นกลุ่มอาการที่คนไข้รู้สึกว่า มีการรับรู้ผิดปกติบริเวณขา เช่น เหมือนมีอะไรมาไต่ที่ขาร่วมกับบางครั้งมีการกระตุกของขา อาการมักเกิดขึ้นช่วงเอนตัวนอนโดยเฉพาะเวลากลางคืน ผู้ป่วยจะรู้สึกว่าต้องขยับขา ลุกขึ้นเดิน เพื่อลดอาการ ซึ่งอาการดังกล่าวทำให้ผู้ป่วยต้องตื่นกลางดึกอยู่บ่อยๆ ความรุนแรงของโรคจะไม่แตกต่างระหว่างคนหนุ่มสาวและผู้สูงอายุ และส่วนใหญ่จะพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชายถึงสองเท่า นอกจากนี้ยังพบในผู้ที่เป็นโรคไตและผู้ที่มีภาวะซีดจากการขาดธาตุเหล็ก
เมื่อวันที่ 1 มิ.ย 63 นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่ากลุ่มอาการขาอยู่ไม่สุขหรือโรค (RLS) RESTLESS LEG SYNDROME เป็นกลุ่มอาการที่คนไข้รู้สึกว่า มีการรับรู้ผิดปกติบริเวณขา เช่น เหมือนมีอะไรมาไต่ที่ขาร่วมกับบางครั้งมีการกระตุกของขา อาการมักเกิดขึ้นช่วงเอนตัวนอนโดยเฉพาะเวลากลางคืน ผู้ป่วยจะรู้สึกว่าต้องขยับขา ลุกขึ้นเดิน เพื่อลดอาการ ซึ่งอาการดังกล่าวทำให้ผู้ป่วยต้องตื่นกลางดึกอยู่บ่อยๆ ความรุนแรงของโรคจะไม่แตกต่างระหว่างคนหนุ่มสาวและผู้สูงอายุ และส่วนใหญ่จะพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชายถึงสองเท่า นอกจากนี้ยังพบในผู้ที่เป็นโรคไตและผู้ที่มีภาวะซีดจากการขาดธาตุเหล็ก
นายแพทย์ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า สาเหตุของโรคเกิดจากสารเคมีที่สมองสร้างที่เรียกว่าโดพามีนมีปริมาณน้อยลง โดยอาจเป็นจากภาวะความเจ็บป่วยบางอย่าง เช่น โรคพาร์กินสัน หรือการได้รับยาที่ทำให้โดพามีนในร่างกายลดลง หรือระบบรักษาสมดุลของธาตุเหล็กในร่างกายผิดปกติ ผู้ป่วยควรมาพบแพทย์เพื่อประเมินอาการและสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ โดยจะได้รับการประเมินภาวะซีด ภาวะการขาดธาตุเหล็ก การทำงานของไต และระบบประสาท เพื่อหาสาเหตุก่อนเริ่มให้การรักษา ยาที่ใช้รักษาเพื่อเพิ่มสารโดพามีนในกระแสเลือด ลดอาการผิดปกติที่ขาและขากระตุก
ดังนั้นผู้ป่วยควรหมั่นสังเกตอาการผิดปกติของตัวเองถึงแม้ว่าอาการขากระตุกหรือขาอยู่ไม่สุขดังกล่าว จะเป็นอาการที่ไม่อันตราย แต่จะทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตในการนอนลดลงทำให้นอนไม่หลับ จึงควรควบคุมอาการเพื่อให้คุณภาพชีวิตการนอนดีขึ้น หากผู้ป่วยมีอาการดังกล่าวควรรีบมาพบแพทย์เพื่อรับการตรวจประเมินและพาคนใกล้ชิด มาพบแพทย์ด้วยเพื่อจะได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการรักษา