- 22 ก.ค. 2564
โฆษกพรรคก้าวไกล แฉแหลก เอกสารสำคัญ แผนส่งวัคซีนออกต่างจังหวัด พบผู้สูงอายุนอก 13 จังหวัดพื้นที่เสี่ยงได้ฉีดสูตรผสม ตั้งคำถามเด็ดถึงงานวิจัยซิโนแวค ถามกระทรวงสาธารณสุข คิดยังไง???
โดยเนื้อหาในเอกสารดังกล่าวนั้นระบุสรุปได้ว่าจะมีการจัดส่งวัคซีนแอสตราเซนเนกา รอบกลางเดือนกรกฎาคม 2564 ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ประเภทของกลุ่มเป้าหมาย ดังนี้
1. กลุ่มเป้าหมายที่ป่วยรุนแรงและเสียชีวิต คือ
- คนที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป
- คนที่มีโรคประจำตัว 7 โรค
แต่บุคคลในกลุ่มนี้ หากอยู่ใน 13 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม จะได้รับการฉีดวัคซีนแอสตราเซนเนกาเป็นเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 ห่างกัน 12 สัปดาห์ เพื่อลดความเสี่ยงในการป่วยรุนแรงและเสียชีวิต ในขณะที่จังหวัดอื่นๆ ให้กลุ่มผู้สูงอายุรับวัคซีนเข็มที่ 1 เป็นวัคซีนซิโนแวค และวัคซีนเข็มที่ 2 เป็นแอสตราเซนเนกา ห่างกัน 3-4 สัปดาห์ มีผลตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคมนี้ เป็นต้นไป
2. กลุ่มเป้าหมายบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า ตามระละเอียดที่แจ้งเอกสารพบว่า คนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม อย่างน้อย 4 สัปดาห์ขึ้นไป และต้องการฉีดกระตุ้นภูมิคุ้มกันด้วยวัคซีนแอสตราเซนเนกา เป็นเข็มที่ 3 สามารถดำเนินการได้เช่นเดียวกันทุกจังหวัดทั่วประเทศ
และข้อ 3. กลุ่มที่ฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็มที่ 1 และจะรับแอสตราเซนเนกา เข็มที่ 2 ในกลุ่มนี้จะมีการดำเนินการทั่วประเทศ ถ้าหากมีวัคซีนเพียงพอ นอกจากนี้ในประกาศยังได้ระบุอีกว่า "ถ้ามีวัคซีนเพียงพอเกินความต้องการ สามารถจัดสรรให้กลุ่มเป้าหมายอื่นๆ ได้ตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเห็นสมควร"
นอกจากนี้ นายวิโรจน์ ยังได้โพสต์อีกหนึ่งข้อความลงทวิตเตอร์ส่วนตัวอีกว่า "กระทรวงสาธารณสุข คิดยังไง??? ที่เอาการศึกษาที่มีขนาดตัวอย่างแค่หลักร้อย หลักพัน มาสรุปประสิทธิผลของวัคซีน Sinovac" ซึ่งเป็นผลวิจัยเรื่องประสิทธิภาพของวัคซีนซิโนแวค แน่นอนว่าหลังจากที่ข้อความดังกล่าวได้โพสต์ออกไปแล้วทำให้มีชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตามอย่างที่ทราบกันดีว่าในขณะนี้สถานการณ์โควิดในประเทศไทยแย่ลงอย่างมาก เนื่องจากอัตราการติดเชื้อยังพุ่งสูงอยู่ในแต่ละวัน หากอ้างอิงจากตัวติดเชื้อเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2564 ถือว่าเป็นเรื่องที่่น่าตกใจอย่างมาก เพราะผู้ติดเชื้อรายใหม่มีมากถึง 13,655 ราย ขณะที่ผู้เสียชีวิตยังสูงอยู่ที่ 87 ราย และจากการดูในเรื่องของผู้ที่เกิดทางไปตรวจคัดกรองแล้วพบว่าอาจมีผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นอีก ดังนั้นวัคซีนที่ดีที่สุดสมควรที่จะมาถึงประเทศไทยให้เร็วที่สุด