หนุ่มใหญ่ลืมผ้าที่ตากไว้ในห้องเครื่องรถยนต์ ขับมาดีๆไฟลุกไหม้หวิดสิ้นชื่อ

ผู้สื่อข่าวรายงาน อุทาหรณ์ลืมผ้าที่ตากไว้ในห้องเครื่องรถยนต์  ไฟลุกไหม้เกือบวอดทั้งคัน รายละเอียดระบุว่า วันที่ 24 กรกฎาคม 2564 เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางคอแหลม รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานหน่วยงานดับเพลิง ( สดพ. ทุ่งครุ ) เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที 

ทั้งนี้เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงที่เกิดเหตุบริเวณริมถนนราษฎร์บูรณะ ฝั่งตรงข้ามทางเข้าวัดบางประกอก ก่อนถึงสะพานข้ามคลองวัดบางประกอก มุ่งหน้าสามแยกราษฎร์บูรณะ แขวง บางประกอก เขต ราษฎร์บรูรณะ กรุงเทพมหานคร พบรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น โคโรน่า สีดำ มีไฟและกลุ่มควันเกิดขึ้นบริเวณห้องเครื่องยนต์เป็นจำนวนมาก ทางอาสาสมัครจึงใช้ถังเคมีดับเพลิงโดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที จึงเป็นผลสำเร็จ 

 

 

ตรวจสอบพบว่าได้รับความเสียหายเฉพาะภายในห้องเครื่องยนต์ และฝากระโปรงรถเท่านั้น ในเหตุการครั้งนี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนสาเหตุคาดว่าเจ้าของรถลืมผ้าที่ตากไว้ภายในห้องเครื่องยนต์ จึงทำให้เมื่อรถวิ่งมาแล้วภายในห้องเครื่องยนต์เกิดความร้อนจัดแล้วทำให้ผ้าที่อยู่ภายในเครื่องยนต์ติดไฟแล้วลุกลามอย่างรวดเร็วจนเกิดเหตุดังกล่าว

 

 

จากการสอบถามเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าวเล่าว่า ผ้าที่อยู่ด้านในตนเป็นคนตากไว้เองแล้วคงจะลืม เพราะเมื่อตอนขับรถออกมาจากบ้านที่อยู่แถวย่านสำเหร่นั้นฝากระโปรงหน้ารถปิดอยู่ก็เลยทำให้ตนคิดว่าไม่มีอะไรอยู่ภายในห้องเครื่องยนต์ ก็เลยขับออกมาจากบ้านเลย 

 

แต่พอมาถึงที่เกิดเหตุก็พบว่ามีควันพวยพุ่งขึ้นมาจากฝากระโปรงด้านหน้ารถ จึงรีบจอดรถ พอจอดยังไม่ทันจะได้ดับเครื่องยนต์ไฟก็ลุกไหม้ขึ้นมาทันทีอย่างรวดเร็ว เห็นดังนั้นตนก็ได้ดับเครื่องยนต์ทันที แล้วก็มีอาสาสมัครผ่านมาก็เลยมาช่วยโดยการใช้ถังเคมีดับเพลิงมาช่วยดับไว้ทันเวลาพอดีเลย ส่วนสาเหตุนั้นตนก็คิดว่าเกิดจากตนลืมผ้าที่ตากไว้ในห้องเครื่องยนต์อย่างแน่นอน เพราะว่าพอไฟสงบตนก็ได้เห็นว่าภายในห้องเครื่องยนต์มีเศษชิ้นส่วนของผ้า ซึ่งเป็นถุงเท้า ไหม้ติดเต็มห้องเครื่องไปหมด แล้วยังพบกับลวดไม้แขวนเสื้ออีก 5 อันที่อยู่ภายในห้องเครื่องยนต์อีกด้วย หลังจากนี้ตนได้แจ้งกับทางประกันภัยรถยนต์ของตนแล้ว และอยู่ในขั้นตอนของการรอรถลากจูงไปตรวจเช็คและประเมินความเสียหายต่อไป

 

ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพภายในที่เกิดเหตุไว้เป็นข้อมูล และปล่อยให้ทางเจ้าหน้าที่ประกันภัยของรถยนต์คันดังกล่าวดำเนินการตามขั้นตอน จากเหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าเป็นอุทาหรณ์ของเจ้าของรถยนต์ควรที่จะตรวจสอบความเรียบร้อยของเครื่องยนต์ทุกครั้งก่อนที่จะสตาร์ทรถออกจากบ้าน ส่วนเคทนี้ยังถือว่าโชคดีมากที่ได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าเกิดอาสาสมัครกู้ภัยมาไม่ทันก็คงจะเสียหายมากกว่านี้เป็นแน่