- 25 ส.ค. 2564
หมอสุภัทรฟาดความในใจหลังนายกกลับคำ ซื้อ ATK ไม่ต้องผ่านมาตรฐาน WHO ลั่น "ยิ่งตอกย้ำว่า ประเทศชาติเราคงไปไม่รอด ไปได้ไม่ไกล "
วันที่ 24 สิงหาคม 2564 นายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ จ.สงขลา ในฐานะประธานชมรมแพทย์ชนบท โพสต์ถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไฟเขียวให้ทำการประมูลซื้อชุดตรวจโควิด ATK โดยที่ไม่ต้องผ่านมาตรฐานองค์การอนามัยโลกหรือ WHO หลังที่ก่อนหน้านี้ตนได้ออกมาแสดงจุดยืนเรียกร้องมาตลอด ทำให้รู้สึกเหมือนว่าพ่ายแพ้ในศึกนี้เสียแล้ว พร้อมบอกด้วยว่า "ดูภาพใหญ่ ยิ่งตอกย้ำว่า ประเทศชาติเราคงไปไม่รอด ไปได้ไม่ไกล "
ความในใจของผม...หลังพ่ายศึก ATK
ค่ำคืนนี้ (24 สิงหาคม 2564) เป็นวันที่ผมได้พักมากกว่าทุกวันตั้งแต่ 2 สิงหาคม 2564 ที่ผมขึ้นกรุงเทพเข้าร่วมปฏิบัติการแพทย์ชนบทบุกกรุงแล้วก็ตามมาด้วยศึก ATK จนวันนี้ นายกประยุทธ์กลับลำ พลิกมติ ครม.ให้จัดซื้อจัดจ้างได้โดยไม่ต้องใช้มาตรฐานองค์การอนามัยโลก ยกแรกศึกนี้ก็เหมือนแพทย์ชนบทกำลังพ่ายศึก ATK
ศึกครั้งนี้สั้นๆแต่เข้มข้น เริ่ม 10 ถึง 24 สิงหาคม 2564 เป็น 2 สัปดาห์แห่งการเดินเกมส์เพื่อสู้กับอำนาจรัฐ อำนาจรัฐที่ระดมมาทุกองคพยพเพื่อจะปกป้องระเบียบวิธีการจัดซื้อจัดจ้างที่ไร้ประสิทธิภาพของรัฐ คือจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบทีไรได้แต่ของถูกราคาแพง เงินภาษีประชาชนไม่ถูกใช้อย่างคุ้มค่า แน่นอนว่าเราสู้ไม่ไหว กับองคาพยพของระบบราชการที่ไม่สนใจสาระ
ความล้มเหลวสำคัญของกรณี ATK 8.5 ล้านชุดครั้งนี้ ง่ายๆสั้นๆคือ ความเดิม สธ.และ สปสช.สนใจการจัดซื้อ ATK คุณภาพสูงให้โรงพยาบาลใช้ตรวจเชิงรุกและเผื่อแจกให้กลุ่มเสี่ยงกลับไปตรวจตนเองและญาติที่บ้านได้ จึงมีการกำหนดราคากลางที่ 120 บาทเพราะหวังจะได้เกรดดีที่มีมาตรฐานองค์การอนามัยโลก แต่พอถึงขั้นตอนการจัดซื้อจริง ซึ่งเป็นหน้าที่ของ รพ.ราชวิถีและองค์การเภสัชกรรม มีการตัดคำว่ามาตรฐานองค์การอนามัยโลกออกไป คือลดสเป็คโดยอ้างว่าเพื่อไม่ให้ล็อคสเป็ค แต่กลับไม่ลดราคากลางลงมาด้วย ตอนนั้น สปสช.ก็คงคิดไม่ทัน ผลก็คือเราก็ได้ผู้ชนะการประมูลที่เสนอราคาต่ำสุดที่ 70 บาท เป็นเกรด home use ไม่ใช่ professional use ตามที่เคยตั้งใจไว้
ที่สำคัญ มันเป็นเรื่องตลกที่น่าเศร้าสำหรับประเทศไทย ยี่ห้อที่ประมูลได้ขายปลีกในห้างที่อเมริกาชิ้นละ 1 USD ที่ยุโรปขาย 0.85 ยูโร หรือราว 33 บาท ในเวปอาลีบาบาก็ขาย 1 ล้านชิ้นในราคา 1 USD และยังสามารถต่อรองได้ แต่เมืองไทยซื้อทีเดียว 8.5 ล้านชิ้นแต่ได้ราคาชิ้นละ 70 บาท ระบบราชการไทยและผู้บริหารของทั้ง ศบค.สธ.สปสช. อย. อภ.สารพัดองค์กรตัวย่อรวมทั้งรัฐบาล ช่างไม่รู้สึกรู้สาเลยหรือกับระบบระเบียบราชการที่กลไกที่ไร้ประสิทธิภาพที่จัดซื้อจัดจ้างทีไรได้แต่ของถูกราคาแพง
ผลประโยชน์และการคอรับชั่นใต้โต๊ะมีไหมนั้น ผมไม่รู้ (คิดว่าไม่มี) แต่ความไร้ประสิทธิภาพของกลไกการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐนั้นเด่นชัดมาก ผมจะไม่ออกมาคัดค้านเลย หากการประมูลครั้งนี้องค์การเภสัชกรรมลดสเป็คแล้วให้เป็นเกรด home use มาตรฐาน อย.ไทยแล้ว มีการลดราคากลางลงมาให้สมเหตุสมผลด้วย แต่นี้ลดแต่สเป็คโดยไม่ลดราคากลาง อันนี้ไม่เอื้อเอกชนก็แสดงถึงความไร้สำนึกพื้นฐานในการปกป้องภาษีประชาชน พวกเราแพทย์ชนบททำงานในโรงพยาบาลชุมชน งบน้อยใช้สอยประหยัดจะได้ดูแลผู้ป่วยได้มากคนที่สุด แต่ดูภาพใหญ่ ยิ่งตอกย้ำว่า ประเทศชาติเราคงไปไม่รอด ไปได้ไม่ไกล
ส่วนอีกประเด็นที่ผมเรียนรู้นั้น ผมพบว่า ผมยังไม่นิ่งพอกับบรรดาไอโอและนักวิชาการอีกฝ่ายที่ออกมาเป็นชุดเพื่อโจมตีผมและแพทย์ชนบท ผมอยากจะชี้แจงและตอบโต้ แต่โชคดีที่พี่ๆห้ามไว้ บอกว่าให้มั่นคงในการต่อสู้ให้ตรงประเด็นหลัก อย่าไปเสียสมาธิกับคนที่หาเรื่องใส่ความเรา ภูเขาทองสูงตระหง่านสวยงาม จะมีหมามาเยี่ยวรดบ้างก็เป็นธรรมดา
ศึก ATK แม้ยกแรกแพทย์ชนบทเราจะพ่ายแพ้ แต่ผมและเพื่อนสมาชิกแพทย์ชนบทยังมีกำลังใจดีมาก เพราะภารกิจของเรานั้นไม่ใช่เรื่องแพ้ชนะศึก ATK แล้วเลิก แต่เพื่อใช้กรณี ATK สะท้อนให้สังคมเห็นถึงระบบราชการอันเส็งเคร็งที่ต้องการการรื้อใหญ่ นี่ต่างหากที่เป็นภารกิจหลักของเรา
มีที่ไหนในโลกที่ประมูลซื้อของ 8.5 ล้านชิ้น แล้วซื้อได้ในราคาต่อชิ้นที่แพงกว่าซื้อชิ้นเดียวจากห้างในเยอรมันถึง 2 เท่า มีแต่ประเทศไทยอันเป็นที่รักของเรานี่แหละ
นายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ
24 สิงหาคม 2564