- 05 เม.ย. 2565
การติดเชื้อโควิด 2 สายพันธุ์ในคนเดียวมีโอกาสเกิดการผสมพันธุ์เป็นตัวใหม่ ซึ่งมีการเรียกโดยใช้ "X" นำหน้า มีประมาณ 17 ตัว ตั้งแต่ XA-XS ข้อมูลการแพร่เร็ว ความรุนแรง และการหลบภูมิ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ชี้ ยังต้องติดตามต่อไป
กรณี กระทรวงสาธารณสุข เผยการติดเชื้อโควิด 2 สายพันธุ์ในคนเดียว มีโอกาสเกิดสายพันธุ์ลูกผสมหรือไฮบริดได้ ขณะนี้ประเทศไทยพบผู้ป่วย 1 ราย ซึ่งรักษาหายเเล้ว ถอดรหัสพันธุกรรมแล้วพบใกล้เคียงสายพันธุ์ลูกผสม XJ แต่ยังต้องรอผลสรุปจาก GISAID อีกครั้ง ย้ำสถานการณ์โอมิครอนในขณะนี้เชื้อแพร่ง่าย มีโอกาสติดเชื้อสูง ต้องป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัดและฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพิ่มภูมิคุ้มกัน
โดยการติดเชื้อ 2 สายพันธุ์ขึ้นไปในคนเดียว (Mixed Infection) จะมีโอกาสเกิดการผสมพันธุ์เป็นตัวใหม่หรือ "ไฮบริด" ซึ่งมีระบบการเรียกโดยใช้ "X" นำหน้า ขณะนี้มีประมาณ 17 ตัว ตั้งแต่ XA ถึง XS แต่ในระบบเฝ้าระวังของโลกคือ GISAID มีการยอมรับว่าเป็นลูกผสมจริง 3 ตัว คือ XA , XB และ XC
ด้าน นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ถอดรหัสพันธุกรรม เพื่อเฝ้าระวังสายพันธุ์โควิด สัปดาห์ละ 500-600 รายพบว่า มี 1 รายที่ใกล้เคียงกับ "XJ"ที่เจอครั้งแรกในฟินแลนด์ ซึ่งเป็น BA.1+BA.2 ผู้ป่วยรายนี้รักษาหายแล้ว
สำหรับ การติดเชื้อโควิด 2 สายพันธุ์ในคนเดียวมีโอกาสเกิดการผสมพันธุ์เป็นตัวใหม่ หรือ "ไฮบริด"ซึ่งมีการเรียกโดยใช้ "X" นำหน้า มีประมาณ 17 ตัว ตั้งแต่ XA-XSข้อมูลการแพร่เร็ว ความรุนแรง และการหลบภูมิ ยังต้องติดตามต่อไป
สำหรับสายพันธุ์ XJ ยังไม่มีข้อมูลเรื่องการแพร่เร็วหรือรุนแรง เพราะเบื้องต้น จะต้องตรวจหาตำแหน่งที่มีการเปลี่ยนแปลงรหัสพันธุกรรมก่อน และมาพิจารณาว่าตำแหน่งที่เปลี่ยนนั้นมีโอกาสหลบภูมิ ทำให้รุนแรง หรือแพร่เร็วมากขึ้นหรือไม่ ดังนั้น ประชาชนยังไม่ต้องกังวลเรื่องสายพันธุ์ลูกผสม
ส่วนสายพันธุ์ย่อย BA.2 ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ มีการแพร่เชื้อเร็ว ทำให้มีโอกาสติดเชื้อมากขึ้น จึงขอให้หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงและป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะเรื่องการสวมหน้ากากอนามัย และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารร่วมกัน รวมถึงต้องฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน"