- 16 เม.ย. 2565
รปภ.ติดโควิดไข้ขึ้นสูง นอนหนาวสั่น เฝ้าลูกสาว 2 คนหน้าประตูห้องเช่า เผยเป็นห่วงลูกๆอยู่กันเอง เพจสายไหมต้องรอดรีบเข้าให้ความช่วยเหลือ
เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา มีรายงานข่าว รปภ.ติดโควิดไข้ขึ้นสูง นอนหนาวสั่น เฝ้าลูกสาว 2 คนหน้าประตูห้องเช่า โดย คุณเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ช่วย ส.ส.เขตสายไหม พรรคเพื่อไทย ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่ามี รปภ.ติดเชื้อโควิด มีอาการไข้ขึ้นหนาวสั่น นอนเฝ้าลูกสาว 2 คน อยู่หน้าห้องเช่าภายในซอย เทอดไท เขตภาษีเจริญ กรุงเทพ จึงรีบเดินทางลงพื้นที่พร้อมทีมงานไปให้การช่วยเหลือ
เมื่อมาถึง พบ ลุงเอ นามสมมติ อายุ 51 ปี มีอาชีพเป็น รปภ.อยู่ที่โรงงานแห่งหนึ่ง ย่านภาษีเจริญ นอนหนาวสั่น ตัวร้อน อยู่หน้าห้องเช่า ยุงกัดตามใบหน้าและลำตัว จึงได้ปลุกขึ้นมา วัดไข้ได้ 39.5 องศา
คุณลุงเอ กล่าวว่า ตนเองพักอาศัยอยู่ที่ห้องเช่ากับลูกสาวอีก 2 คน คนโตอายุ 11 ขวบ คนเล็กอายุ 8 ขวบ
เมื่อ 2 วันที่แล้ว ตัวเองเริ่มมีไข้ จึงกินยาลดไข้ แต่อาการไม่ดีขึ้น ช่วงเย็นที่ผ่านมา เริ่มมีอาการหนาวสั่น ปวดตามตัว หายใจเหนื่อยหอบผิดปกติ จึงได้รีบไปหาซื้อที่ตรวจ ATK มาตรวจพบว่าผลเป็นบวกติดเชื้อโควิด
ตนรู้สึกเป็นกังวลมากทำอะไรไม่ถูกเนื่องจากตนเองยังไม่ได้ฉีดวัคซีน สาเหตุที่ไม่ได้ฉีดเพราะว่า ตนเลี้ยงลูกสาว 2 คนที่เป็นเหมือนแก้วตาดวงใจเพียงลำพัง ลูกสาวของตนยังเล็ก ตนดูข่าวเห็นบางคนฉีดวัคซีนแล้วเสียชีวิต จึงกลัวว่าหากฉีดวัคซีนแล้วเป็นอะไรขึ้นมาลูกสาวทั้ง 2 คนจะลำบาก เพราะไม่มีญาตพี่น้องที่ไหน จึงได้ปรึกษากับคนรู้จักขอให้ช่วยติดต่อ เพจสายไหมต้องรอด มาช่วยเหลือหากตนเองเป็นอะไรไป เชื่อว่าทาง เพจสายไหมต้องรอด จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยดูแลลูกสาวทั้ง 2 ของตนเองได้
นอกจากนี้หลังจากพบว่าตัวเองติดโควิด จึงไม่กล้าเข้าไปนอนในห้อง เนื่องจากกลัวว่าลูกจะติดโควิดไปด้วย จึงตัดสินใจออกมานอนห้อง แต่ด้วยพิษไข้ ทำให้หลับไปโดยไม่รู้ตัว ตื่นมาอีกที พบว่ามี จนท.ทีมสายไหมต้องรอด มาเรียก
ด้าน นายเอกภพ กล่าวว่า ตนได้ให้คำแนะนำ อธิบายทำความเข้าใจกับผู้ป่วยถึงความสำคัญในการฉีดวัคซีนว่าจะสามารถช่วยลดการป่วยหนักถึงขั้นเสียชีวิตลงไปได้เยอะ จึงแนะนำให้เมื่อหายจากโควิดแล้ว เมื่อครบระยะเวลาให้ผู้ป่วยพาลูกสาวทั้ง 2 คน เดินทางไปเข้ารับการฉีดวัคซีน ที่ศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้านเพื่อป้องกันการป่วยหนัก
จากนั้นได้ทำการตรวจ ATK ให้กับลูกสาวทั้ง 2 คนของผู้ป่วย พบว่าผลเป็นลบ ยังไม่ติดเชื้อ จึงขอให้ผู้ป่วยแยกกักตัวเพื่อไม่ให้ติดลูก และได้จัดยารักษาตามอาการให้กับผู้ป่วย และจัดยาลดไข้เด็กเผื่อไว้ให้กับลูกสาวทั้ง 2 คนของผู้ป่วยด้วย หากหลังจากนี้มีการตรวจพบเชื้อจะได้ทานยาทันที พร้อมทั้งให้เบอร์ประสานงานของ เพจสายไหมต้องรอด ไว้ติดต่อกรณีฉุกเฉิน ได้ 24 ชั่วโมง หลังจากพูดคุยทำให้ผู้ป่วยคลายความกังวลลงไปได้เยอะมาก