- 30 พ.ค. 2565
หมอเฉลิมชัย ให้ความเรื่องการปลูกฝีป้องกันโรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษ กลุ่มไหนเคยทำแล้ว ลักษณะแผลต้องเป็นอย่างไร
จากกรณีที่ โรคฝีดาษวานร หรือ โรคฝีดาษลิง (Monkeypox) กำลังกลับมาระบาดอีกครั้งในแถบทวีปยุโรปและแอฟฟริกา โดยทางองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้คาดการณ์ว่าจะพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงทั่วโลกเพิ่มขึ้นอีก ขณะที่ประเด็นการปลูกฝีป้องกันฝีดาษลิง ยังเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากการปลูกฝีนั้นไม่ได้มีเฉพาะแค่ป้องกันฝีดาษลิงเท่านั้น แต่ยังมีที่ใช้สำหรับป้องกันโรคอื่นด้วย
ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 พ.ค. 65 หมอเฉลิมชัย หรือ นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย โดยระบุว่า ทำอย่างไรจึงจะทราบว่า ตนเองเคยปลูกฝีป้องกันฝีดาษคนหรือไข้ทรพิษแล้ว
จากที่ขณะนี้ ทั่วโลกพบผู้ป่วยฝีดาษลิง (Monkeypox) แล้วมากกว่า 20 ประเทศ มีจำนวนผู้ติดเชื้อยืนยันมากกว่า 300 คน ทำให้เกิดความตระหนัก และบางคนไปถึงขั้นวิตกกังวล เพราะการติดเชื้อครั้งนี้เป็นการติดกันเองภายในประเทศแล้วนั้น
จากการที่ผู้ติดเชื้อไม่มีประวัติเดินทางไปแอฟริกา ไม่มีประวัติสัมผัสเสี่ยงกับสัตว์ที่เป็นแหล่งของเชื้อ เช่น ลิง กระรอก กระต่าย หนู เป็นต้น ทำให้องค์การอนามัยโลกได้มีการประชุมด่วน และกระทรวงสาธารณสุขหลายประเทศได้ตั้งคณะกรรมการฉุกเฉินเพื่อเข้ามาดูแลเกี่ยวกับเรื่องฝีดาษลิงแล้วในขณะนี้
แต่ที่พอจะเบาใจได้บ้างในเบื้องต้นก็คือ วัคซีนป้องกันฝีดาษคนหรือไข้ทรพิษ (Smallpox) ที่เราเรียกว่าการปลูกฝีนั้น สามารถข้ามมาป้องกันโรคฝีดาษลิงได้ด้วย ประกอบกับมีงานวิจัยยืนยันว่าผู้ที่เคยฉีดหรือปลูกฝีป้องกันฝีดาษคน จะมีระดับภูมิคุ้มกันที่สูงพอป้องกันโรคได้จนถึงปัจจุบัน (มีครึ่งชีวิตของวัคซีนยาวนานถึง 92 ปี)
ฝีดาษคนหรือไข้ทรพิษ ได้หมดไปจากโลกเรา โดยการประกาศขององค์การอนามัยโลกในปี 2523 ส่วนประเทศไทยเราไม่มีไข้ทรพิษมาตั้งแต่ปี 2517 นั่นคือประเทศไทยเริ่มทยอยเลิกปลูกฝีตั้งแต่ปี 2517 และทั่วโลกเลิกปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษตั้งแต่ปี 2523
หลักสังเกตว่าตนเองเคยปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษแล้วหรือไม่ อย่างไร ได้แก่
1. ถ้าเป็นคนอายุมากกว่า 48 ปี ที่เกิดก่อนปี 2517 มีโอกาสสูงที่จะเคยปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการระดมปลูกฝีในช่วงนั้นเป็นจำนวนมาก จึงทำให้ฝีดาษหมดไปจากประเทศไทย ส่วนใหญ่จะฉีดกันที่โรงเรียน
2. ถ้าอายุน้อยกว่า 42 ปี คือเกิดหลังปี 2523 ถือว่าไม่เคยได้รับการปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษมาก่อน
3. กรณีผู้ที่อายุ 43-47 ปี คือเกิดก่อนปี 2523 แต่เกิดหลังปี 2517 เป็นช่วงก้ำกึ่ง จะต้องตรวจดูแผลเป็นต่อไป
4. ในการตรวจสอบแผลเป็น ซึ่งส่วนใหญ่จะฉีดที่ต้นแขนซ้าย
ในกรณีที่เป็นการปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ แผลเป็นจะเป็นลักษณะแผลแบนเรียบหรือเป็นหลุมลงไปเล็กน้อย แต่ถ้าเป็นการปลูกฝีป้องกันวัณโรคที่เรียกว่า BCG แผลเป็นนั้นจะนูนขึ้นมา
ดังนั้นการตรวจสอบว่าตนเองเคยปลูกฝีป้องกันฝีดาษคน/ไข้ทรพิษหรือยัง ก็ใช้หลักสองประการดังกล่าวคือ ดูว่าเกิดก่อนปี 2517 และตรวจสอบว่าแผลเป็นที่เกิดขึ้น เป็นแผลที่เรียบหรือเป็นหลุมลงไปเล็กน้อย ก็ถือว่าเคยปลูกฝีป้องกันฝีดาษคนหรือไข้ทรพิษแล้ว