- 22 ก.ค. 2565
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. เผยชัด 5 วิธีป้องกันตัวเองจากโรคฝีดาษลิง ง่ายๆแต่ได้ผลดี
จากกรณีพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงรายแรกในไทย และมีข่าวว่าผู้ป่วยฝีดาษลิงหลบหนีการรักษาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต สร้างความตกใจและหวั่นใจให้กับประชาชน เนื่องจากมีรายงานว่าผู้ติดเชื้อได้เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆในจังหวัดซึ่งเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อไปให้กับผู้อื่น ล่าสุดทาง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. ได้เปิด 5 วิธีป้องกันฝีดาษลิง หากไม่อยากติดฝีดาษลิงต้องทำอย่างไร ป้องกันโรคฝีดาษลิงอย่างไรได้บ้าง
สสส. เผยชัด 5 วิธีป้องกันตัวเองจากโรคฝีดาษลิง ง่ายๆแต่ได้ผล
ดูเเล ป้องกันตนเองอย่างไร ? ให้ห่างไกลจากโรคฝีดาษลิง
โรคฝีดาษลิง ติดจากสัตว์สู่คน เลือด สารคัดหลั่ง ตุ่มหนองของสัตว์ โรคฝีดาษลิง (Monkeyopox) เกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่ม Poxviridae จัดอยู่ในจีนัส Orthopoxvirus มีลักษณะคล้ายคลึงกับไวรัสไข้ทรพิษ ติดจากสัตว์สู่คน ไม่ว่าจะเป็นการแพร่จากสารคัดหลั่ง ตุ่มหนองของสัตว์ รวมทั้งสามารถติดโรคจากคนสู่คน โดยสัมผัสสารคัดหล่ง สัมผัสแผลหรือใช้สิ่งของร่วมกันกับผู้ติดเชื้อโดยตรงและสามารถแพร่เชื้อจากหญิงตั้งครรภ์สู่ทารกในครรภ์ได้
โรคฝีดาษลิง แบ่งเป็น 4 ระยะ ได้แก่
1.ระยะฟักตัว จะไม่แสดงอาการช่วง 5 – 44 วันหลังจากได้รับเชื้อ
2.ระยะไข้ 1 – 4 วัน มีอาการปวดหัว เจ็บคอ หนาวสั่น อ่อนเพลีย และต่อมน้ำเหลือง
3.ระยะผื่น 1 – 2 สัปดาห์ จะเริ่มจากผื่นแบน ผื่นนูน ผื่นมีน้ำใสใต้ผื่น โดยผื่นมักจะขึ้นที่บริเวณใบหน้า แขน และขา มากกว่าที่ลำตัว โดยลักษณะของผื่นจะเริ่มจากจุดแดง ๆ กลม ๆ หลังจากนั้นผื่นจะกลายเป็น ตุ่มน้ำใส และกลายเป็นตุ่มหนอง และกลายเป็นสะเก็ด เป็นช่วงระยะเวลาที่สามารถแพร่เชื้อได้สูงสุด
4.ระยะฟื้นตัว ใช้เวลาหลายวันจนถึงหลายสัปดาห์
วิธีการป้องกันตนเองจากฝีดาษลิง
1.หลีกเลี่ยงสัมผัสโดยตรงกับเลือด สารคัดหลั่ง และตุ่มหนองของสัตว์
2.ทานเนื้อสัตว์ปรุงสุก
3.หมั่นล้างมือบ่อย ๆ ด้วยแอลกอฮอล์ 70% ขึ้นไป
4.ไม่ควรทานเนื้อสัตว์ป่าหรือนำสัตว์ป่ามาเลี้ยง
5.สวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อผ่านละอองฝอยขนาดใหญ่
ขอบคุณ สสส.
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline