แอ่วเหนือคนละครึ่ง ขยายงบ สู่ เราเที่ยวด้วยกัน ปี 68

ข่าวดีสำหรับนักท่องเที่ยว โครงการ "แอ่วเหนือคนละครึ่ง" ขยายงบ กลายเป็น "เราเที่ยวด้วยกัน" ครอบคลุมทั่วประเทศในปี 68

เราเที่ยวด้วยกัน 2568 เตรียมตัวเที่ยวกันให้พร้อม! รัฐบาลขยายโครงการ "แอ่วเหนือคนละครึ่ง" สู่ "เราเที่ยวด้วยกัน" ปี 68 เปิดโอกาสให้คนไทยได้เดินทางท่องเที่ยวในราคาประหยัด พร้อมทั้งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง

 

แอ่วเหนือคนละครึ่ง ขยายงบ สู่ เราเที่ยวด้วยกัน ปี 68

เราเที่ยวด้วยกัน ปี 68 นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ตามที่ได้หารือกับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถึงมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงที่เหลือของปีนี้ รวมถึงแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย นายกแพรทองธาน ได้ให้ไปทบทวนขยายขนาดโครงการ “แอ่วเหนือคนละครึ่ง” เพราะมองว่ารัฐบาลเงินสนับสนุน 400 บาทต่อคนต่อทริป จำนวน 10,000 สิทธิ์ โดยใช้งบประมาณของ ททท. รวม 4 ล้านบาทมีขนาดเล็กไป

 

 

ดังนั้นจึงมอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ไปหารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อหาแหล่งเงินในการทำโครงการเพิ่มเติม เบื้องต้นได้หารือกับนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ไปแล้ว คาดจะใช้งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการ กระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ ปี 68 ซึ่งมีวงเงินคงเหลือ 1.87 แสนล้านบาท นำส่วนหนึ่งมาใช้ในโครงการนี้

 

 

นอกจากนี้ นายสรวงศ์ ระบุเตรียมหารือร่วมกับ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ถึงความสามารถในการเพิ่มงบประมาณเพิ่มเติม ในการขยายสิทธิดำเนินโครงการเพิ่มเติมได้หรือไม่ และอาจมีมาตรการเพิ่มเติมจาก โครงการแอ่วเหนือคนละครึ่ง เข้ามา

 

แอ่วเหนือคนละครึ่ง ขยายงบ สู่ เราเที่ยวด้วยกัน ปี 68

ส่วนวัตถุประสงค์โครงการแอ่วเหนือคนละครึ่ง ที่จะเปิดให้ประชาชน ลงทะเบียน เข้าร่วมโครงการได้ทั่วประเทศ อยากเน้นให้ประชาชนในภูมิภาคเดียวกัน หรือจังหวัดใกล้เคียงเดินทางท่องเที่ยวระหว่างกันก่อน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายในเศรษฐกิจภูมิภาค โดยประเมินไว้จำนวน 7,000 สิทธิ จะเป็นการใช้จ่ายในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และเชียงราย ส่วนอีกที่เหลืออยู่จังหวัดใกล้เคียงในภาคเหนือ

 

 

สำหรับ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ในช่วงก่อนหน้านี้ ที่รัฐบาลสนับสนุนวงเงินใช้จ่ายในโรงแรมที่พัก 40% ประชาชน 60% และมีวงเงินใช้จ่ายในร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการได้ด้วยนั้น เบื้องต้นยืนยันว่าในปี 2568 จะเริ่มดำเนินโครงการอยู่แล้ว แต่เนื่องจากโครงการใช้งบประมาณสูงมาก 22,000 ล้านบาท ในเฟสล่าสุด จำนวนสิทธิ 560,000 สิทธิ ถือเป็นโครงการใหญ่ ทำให้ต้องมีการหารือเพิ่มเติมในฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาวงเงินงบประมาณ จำนวนสิทธิที่จะให้กับประชาชนเข้าร่วมโครงการ รวมถึงรูปแบบการใช้จ่าย ว่าจะผ่านช่องทางใด และรัฐบาลสนับสนุนที่ 40% เท่าเดิมหรือไม่ ซึ่งจะต้องหารือกันเพื่อความชัดเจนอีกครั้ง