- 21 พ.ย. 2565
ลูกชายเจ้าของบ้าน หนึ่งในแก๊งอุ้มคู่อริ สารภาพแล้วสาเหตุที่ต้องลงมือ พร้อมปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ด้านแฟนสาวที่ชื่อพลอย ก็ยืนยันไม่ได้ร่วมก่อเหตุด้วย
วันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 แก๊งอาชีวะ 4 คน คือ นายฟาร์อี อายุ 17 ปี ลูกชายเจ้าของบ้าน น.ส พลอย อายุ 17 ปี แฟนลูกชายเจ้าของบ้าน นายฟอร์ด อายุ 17 และนาย ซ้อน อายุ 17 ปี ที่ร่วมกับพวกอีก 13 คน มีทั้งผู้ใหญ่ที่มีอายุเกิน 18 ปี จำนวน 11 คน และเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 2 คน รวมทั้งหมด 17 คน ก่อเหตุอุ้มวัยรุ่น เยาวชน 3 คน มากักขังทำร้ายและข่มขู่ ภายในบ้านเรือนไทยซอยรามคำแหง 63 เข้าพบพนักงานสอบสวนสน. หัวหมาก เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา
หลังจากที่ทั้งหมดถูกออกหมายเรียก 3 ข้อหา ได้เเก่ ร่วมกันทำร้ายร่างกาย หน่วงเหนี่ยวกักขัง ,ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง , ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ โดยต่อมาพนักงานสอบสวนได้นำตัวเยาวชนทั้ง 4 คน ไปส่งยังศาลเยาวชนและครอบครัวกลางเพื่อให้ดำเนินตามขั้นตอน และในวันพรุ่งนี้จะมีการนัดหมายให้มาสอบปากคำต่อหน้าสหวิชาชีพอีกครั้ง
ขณะที่ นายฟาร์อี เยาวชนอายุ 17 ปี ผู้ต้องหา ที่เป็นลูกชายเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า บางเรื่องที่นายโอ้ต เเละ นายซับ ผู้เสียหายกล่าวอ้าง ก็มีทั้งเรื่องจริงเเละไม่จริง สาเหตุที่นายโอ้ต นายซับ ได้รับบาดเจ็บเพราะต่อยกันเอง เเละยังพกอาวุธปืนมาด้วย จะทำรายตน ยืนยันว่าตนเเค่ป้องกันตัว โดยมีหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิดที่สามารถให้ดูได้ ส่วนที่ทั้ง2คนถูกบังคับให้ต่อยกัน เเต่ไม่ได้ต่อยอย่างจริงจัง ตนก็มีคลิปที่ทั้ง 2 คนต่อยกันเองจนเลือดอาบที่บริเวณด้านหลังตึก บาดเเผลที่เกิดขึ้นเกิดจากทั้ง 2 ต่อยกันเอง ตอนนี้มอบคลิปให้ตำรวจไปเเล้ว นายโอ้ต ไปนั่งล้างหน้า นายซับก็ยังตามไปเตะ ไม่ได้บังคับทั้ง2 คนต่อยกัน เขาพูดเกินความเป็นจริง
ส่วนคลิปที่ปรากฎว่า มีการใช้ไฟลนไฟเผา คลิปนั้นไม่รู้ เพราะตนเองขึ้นไปนอนเเล้ว รวมถึงตัวพลอย เเฟนสาว ก็ไม่ได้ร่วมลงมือตามที่ถูกกล่าวหา ซึ่งหากตนเห็นก็จะห้ามเพราะเป็นพฤติกรรมที่เกินไป เเละเเฟนสาว พลอย ก็ยังช่วยห้าม ไม่ให้ทำร้ายเขา ข่าวที่ออกมาพูดเกินความจริงไปมาก
ยืนยันว่า นายโอ้ตมาที่บ้านเอง โดยให้นาย กิ๊ป ไปรับ เพื่อมาเคลียร์กัน เรื่องที่นายโอ้ต เคยลงเฟซบุ๊กด่า ตนจึงให้มาคุย เเละ นายโอ้ตก็มาขอโทษ หลังจากนั้นวันที่2 โอ้ตทักให้ ซับกับฟลุค มาที่บ้านเอง ไม่มีใครเอาเฟซบุ๊กเขาไปคุย หากพวกเขากักขังจริง ตอนพวกตนหลับ ถึงไม่หนีออกมา เขาก็อยู่ เเละยังใช้รถจักรยายนต์พวกตน ออกไปซื้อของ ซื้ออะไร
ส่วนกรณีที่ อ้างว่า พ่อของตนเอง โทรมาหา ให้เบาๆหน่อย คนในซอย ได้ยินกันหมดเเล้ว ยืนยันว่า ไม่ใช่พ่อของตนเอง เเต่เป็นญาติ พี่ชาย ที่โทรมาถามว่าทำอะไร จึงบอกไปว่ารับน้อง ทางพี่ชายจึงบอกให้เบาๆกันหน่อย ยืนยันว่าพ่อตัวเองไม่รู้เรื่อง พ่อกลับมายังพาจะพาโอ้ตไปเเจ้งความ เเต่โอ้ตไม่มา เลยเอายามาให้
ฟาร์อี ยืนยันว่า ปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา ไม่ได้ก่อเหตุ เเละไม่มีอาวุธปืนสงคราม ตามที่กล่าวอ้าง ภาพที่เอาออกมาถูกดำเนินคดีไปนานเเล้ว เหตุเกิดในซอยรามคำเเหง 39 ซึ่งตำรวจสน หัวหมากเพเนินคดีไปเเล้ว ไม่ใช่อาวุธปืนสงคราม อาวุธปืออูซี่ก็เป็นปืนปลอมพลาสติก ปืนที่มีจริงวันนั้น คือ ปืนจริงที่ใช้ตบนายโอ้ต โดยกระชากมาจากนายโอ้ต เเละ ก็คืนเขาไปเเล้ว เพราะเขาขอโทษ ทุกอย่างก็จบ เเล้วก็บอกเขาไปว่า อย่าทำตัวเเบบนี้อีก เพราะมีคนหมั่นไส้เยอะ
ฟาร์อี ยอมรับว่า รู้จักนายโอ้ต พราะเคยเรียนสถาบัน เดียวกัน เเต่นายโอ้ต เข้ามา เป็นตัวล่อ ให้สถาบันมายิง ซึ่งตนจับได้ เเละเขาก็หนี เรื่องมันจึงเป็นเเบบนี้ สาเหตุที่ต้องร่วมกันก่อเหตุดังกล่าว เพราะเขายังเอาผู้หญิงในสถาบันไปพูดเสียๆ หายๆ บอกว่าจะรุมโทรม บวกกับที่เขาลงรูปอาวุธปืน เเละชอบโพสในโซเชียลท้าทาย ด่าพวกผม ขมขู่ว่าจะยิง ทำให้เกิดความโกรธ ยืนยันว่าไม่ได้ต้องการถึงขั้นเอาชีวิต หากจะเอาชีวิตจริง ไม่ปล่อยไป เเต่เขาให้โซเชียลมาโจมตีสถาบัน เพราะสถาบันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร ไปพูดกับคนนั้น คนนี้ว่าให้ยุบไปเลยสถาบัน เเละยังมาโทษพ่อเเม่ว่าอบรมเลี้ยงดูไม่ดีอีก
ส่วน นางสาวพลอย เยาวชนอายุ 17 ปี ผู้ต้องหาอีกคนที่เป็นแฟนของลูกเจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า ตนเองไม่ได้เป็นผู้ใช้ไฟแช็กลนและใช้รองเท้าตบหน้าผู้เสียหายตามที่ถูกกล่าวหา อ้างว่าในวันเกิดเหตุตนเองไปทำงานเพิ่งกลับมาไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมกับยืนยันว่าตนเองไม่เคยอ้างกับผู้ใดว่าเป็นหลานของดาราสาวชื่อดังเพราะเพิ่งจะปรากฏตัวและเดินทางมาที่สถานีตำรวจวันนี้เป็นวันแรก
ขณะที่ นายประเสริฐ พ่อของ "ฟาร์อี "ย้ำว่า เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนความผิดก็ว่ากันไปตามกฎหมาย พร้อมยืนยันว่าจะเยียวยา ผู้เสียหาย เพราะตนเองก็เป็นนักเรียนช่างอุตฯเหมือนกัน
ด้าน พันตำรวจเอก เศรษฐพันธ์ ศรีสาคร ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลหัวหมาก เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุทั้งหมด 17 คนขณะนี้ สามารถจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหาผู้ที่ก่อเหตุได้แล้ว 15 คนคือ จับกุมผู้ก่อเหตุตามหมายจับที่เป็นผู้ใหญ่มีอายุเกิน 18 ปี จำนวน 9 คน ยังคงหลบหนีอยู่อีก 2 คน และผู้ต้องหาที่เป็นเยาวชนจำนวน 6 คน ได้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาทั้งหมดแล้ว ส่วนคำให้การของผู้ต้องหาใครจะอ้างหรือปฏิเสธอย่างไรก็เป็นไปตามสิทธิ์ของผู้ต้องหา แต่ตำรวจยืนยันว่าจะทำการสอบสวนและรวบรวมหลักฐานจนสามารถเอาผิดกับผู้ที่ก่อเหตุได้ ส่วนเรื่องอาวุธปืนที่ผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นของปลอมตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลเนื่องจากตำรวจไม่ได้ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหา พร้อมกับระบุว่าจะติดตามผู้หรือยังหลบหนีมาดำเนินคดีให้ได้เร็วที่สุด
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline