- 19 ธ.ค. 2565
เปิดไทม์ไลน์ละเอียด วินาที เรือหลวงสุโขทัย ค่อยๆล่ม จนท.หาวิธีเอาชีวิตรอด ตั้งแต่น้ำเริ่มเข้าเรือจนถึงขั้นตอนส่งคนเจ็บไปโรงพยาบาล
จากกรณีข่าวใหญ่ เรือหลวงสุโขทัยล่ม ซึ่งบนเรือมีกำลังพล 106 นาย ประสบอุบัติเหตุกลางทะเลจนเรืออับปางลงกลางทะเลประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือกำลังพลทหารเรือที่ประสบเหตุได้ 73 และต้องระดมค้นหาอีก 33 รายในวันที่ 19 ธันวาคม 2565 ซึ่งรายงานล่าสุดเผยว่า พบกำลังพล ทร. เสียชีวิต 1 นาย และอีก 9 ราย มีสภาพอิดโรย ตอนนี้เหลืออีก 21 นาย ยังไม่ทราบชะตากรรม
ทั้งนี้ เรือหลวงกระบุรี เรือลากจูง และเรือน้ำมัน "ศรีไชยา" ได้นำกำลังพลที่ได้รับการช่วยเหลือแล้ว 71 นาย เดินทางไปยังท่าเรือบางสะพานเรียบร้อยแล้ว โดยมีกำลังพลจำนวน 11 นาย รักษา ณ โรงพยาบาลบางสะพาน ส่วนกำลังพล จำนวน 40 นาย เดินทางไปยังศูนย์พักพิง สำหรับกำลังพลที่ขึ้นมาจากเรือน้ำมัน "ศรีไชยา" จำนวน 20 นาย ได้เดินทางไปยัง โรงพยาบาลบางสะพาน เพื่อตรวจร่างกายและคัดแยกต่อไป
ย้อนไทม์ไลน์ละเอียดวินาที เรือหลวงสุโขทัย ค่อยๆล่ม จนท.หาวิธีเอาชีวิตรอด
วันที่ 18 ธันวาคม 2565
17.16 น. น้ำทะเลเข้า ร.ล.สุโขทัย
18.17 น. เครื่องยนต์ดับ เครื่องไฟฟ้าดับ ระบบการสื่อสารล่ม
19.37 น. ร.ล.กระบุรี ออกเดินทางจากบางสะพานไปช่วย ร.ล.สุโขทัย
19.56 น. ร.ล.สุโขทัยเอียง 45 องศา
20.30 น. ร.ล.อ่างทอง ออกเดินทางจากสัตหีบไปช่วย ร.ล.สุโขทัย
20.52 น. ร.ล.กระบุรี เดินทางถึง ร.ล.สุโขทัย
21.03 น. เรือเอียง 80 องศา
23.08 น. ร.ล.สุโขทัย ปลดแพชูชีพ
23.20 น. ร.ล.สุโขทัย เริ่มจมจากทางท้ายเรือถึงป้อมปืนหัว
23.46 น. ร.ล.สุโขทัย จม
23.50 น. เรือทัก จากบางสะพาน2ลำ เดินทางถึง ร.ล.สุโขทัย ช่วยเก็บคนตกน้ำได้ 30 คน
วันที่ 19 ธันวาคม 2565
00.38 น. เก็บคนตกน้ำได้รวมแล้ว 45 คน
01.06 น. ฮ.ซีฮอว์ก ถึงจุดเกิดเหตุ ปล่อยแพชูชีพ 8 แพ
01.12 น. เก็บคนตกน้ำได้ รวมแล้ว 49 คน
02.30 น. ร.ล.กระบุรี นำคนเจ็บสาหัส ส่งกลับสายแพทย์ที่บางสะพาน
03.14 น. เก็บคนตกน้ำได้รวมแล้ว 73 คน
03.50 น. ร.ล.กระบุรีถึงบางสะพาน
04.32 น. ลำเลียงผู้ป่วย 3 นาย ขึ้นจากเรือกระบุรี
06.30 น. ร.ล.อ่างทอง ถึงที่เกิดเหตุ บ.ดอร์เนีย เข้าพื้นที่ บิน ลว.ค้นหาผู้ประสบภัย
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติภารกิจค้นหาพลทหารอีก 21 รายอย่างต่อเนื่อง และหากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline