- 04 มิ.ย. 2567
"น้องสาวเสี่ยต้น" แฉปมเหตุ "มด" สั่งการลอบยิงสามี อ้างจุดแตกหักต่างฝ่ายต่างมีกิ๊ก คัดค้านประกันตัวพี่สะใภ้
ความคืบหน้าการจับกุม น.ส.วรรณิภา หรือ มด ภรรยาของนายพิชิต หรือ เสี่ยต้น เจ้าของธุรกิจสอนสปาและนวดแผนไทย พร้อมพวกในข้อหาลอบยิงเสี่ยต้น โดย ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เปิดเผยว่าพยานหลักฐานที่มีตรงกับที่พนักงานสอบสวนมี จึงนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คนได้
เนื่องจากคดีนี้ทำการเป็นขบวนการ เริ่มจากภรรยา คือพบเส้นทางการเงิน มีการโอนไปยังผู้ต้องหาทั้ง 3 และการสักทอดไปยังภรรยา ซึ่งเป็นหลักฐานที่สำคัญ รวมไปถึงภาพกล้องวงจรปิด การชี้เป้าและข้อมูลการใช้โทรศัพท์ที่มันสอดคล้องกับพยาน ก่อนจะไปสู่การออกหมายจับในคดีจ้างวานฆ่า และพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีโทษ 2 ใน 3 จำคุกตลอดชีวิต
ส่วนคดีที่จังหวานมหาสารคาม ตอนนี้ทีมสืบสวนของตำรวจภาค 4 มีหลักฐานที่มีความเชื่อมโยงกัน เชื่อว่า คนชี้เป้าเป็นคนเดียวกันอย่างแน่นอน แต่ยังต้องตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนผลชันสูตรยังไม่ออก ทำให้ยังไม่มีความชัดเจนว่าในร่างกายเสี่ยต้นมีสารอะไรบ้าง ตรงนี้ยังเป็นความลับอยู่ยังต้องรอผลอยู่
ส่วนสาเหตุคิดว่าเป็นเรื่องชู้สาวและเจ็บช้ำน้ำใจจากคำพูดของเสี่ยต้น รวมทั้งปากเสียงกันภายในครอบครัว ขณะที่เรื่องเงินประกัน ตอนแรกยังไม่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ เงินประกันและผู้ได้รับผลประโยชน์จะต้องเป็นลูก โดยมีภรรยาเป็นผู้จัดการมรดก แต่หลังจากนี้ทางประกันจะต้องพิจารณาว่าจะยกเลิกประกันไหม เนื่องจากเป็นคดีจ้างวานฆ่า รวมไปถึงชั้นศาลตามมาตราพาณิชน์ 17 และ 13 ถอดภรรยาออกจากการเป็นผู้จัดการมรดก โดยในวันที่ 4 มิ.ย. 2567 เวลา 10.30 น. ญาติจะไปยืนคัดค้านการประกันตัวที่ สน.วังทองหลาง และศาลอาญารัชดา
ขณะที่ทาง น้องสาวของเสี่ยต้น เปิดเผยว่า สิ่งที่เป็นจุดเปลี่ยนว่าการเสียชีวิตของพี่ชายผิดปกติคือ ทราบว่าพี่สะใภ้ทักและโทรมาหาพี่ชายก่อนที่จะโดนลอบยิง เพราะทั้งในตอนนั้นคู่แยกกันอยู่ จากนั้นวันที่ 15 ตนได้ไปส่งพี่ชาย และวันที่ 16 พี่ชายได้เสียชีวิต ตนทราบข่าวจึงรู้สึกโกรธแค้นมาก
สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างพี่ชายและพี่สะใภ้ ทราบมาว่าทั้งสองคนต่างมีกิ๊ก ซึ่งได้ส่งข้อมูลให้ตำรวจทั้งหมดแล้ว และตำรวจก็ได้ไปสืบต่อจนทราบว่าข้อมูลที่ให้ไปเป็นความจริง โดยกิ๊กฝั่งพี่ชายไม่ได้อยู่กินด้วยกัน และไม่เคยพาเข้าบ้านมาเจอญาติพี่น้อง ทราบว่ากิ๊กของพี่ชายเป็นลักษณะเด็กคาราโอเกะ
ขณะที่กิ๊กของฝ่ายพี่สะใภ้ ตนได้รับข้อมูลมาอีกต่อหนึ่ง ซึ่งได้ส่งข้อมูลให้กับทางตำรวจไปแล้วไม่สามารถเปิดเผยได้ และนี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ตนไม่สามารถไปร่วมงานศพที่จังหวัดมหาสารคามได้ เพราะต้องอยู่หาข้อมูลในโซเชียลส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ