อาชีพ 2 สามี - ภรรยา เหยื่อมือชงชามรณะ ร่ำรวยไม่ธรรมดา

ติดตามกันอย่างต่อเนื่องกรณีพบศพชาวต่างชาติ 6 ราย เสียชีวิตในโรงแรมย่านราชประสงค์ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงความคืบหน้าหลังจากประชุมในช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งได้ชี้แจงรายละเอียดการเดินทาง เข้าประเทศไทยของผู้เสียชีวิตทั้ง 6 รายโดยละเอียด พบว่ามีการเดินทางเข้ามาครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม 2567 เดินทางมาจากโฮจิมินห์ 

 

จากนั้นบุคคลที่เหลือได้ทยอยเดินทางเข้ามาและแยกย้ายกันเข้าห้องพัก โดยทุกคนเป็นผู้เช็คอินด้วยตนเองไม่มีบุคคลภายนอกเข้าไปในและยืนยันว่ามีผู้เข้าพักทั้งหมด 6 คน จากการตรวจสอบเว็บไซต์จองโรงแรมพบว่ามีการแจ้งเข้าพักทั้งหมด 7 คน โดยคนที่ 7 นั้นเป็นน้องสาวของหนึ่งในผู้เสียชีวิตซึ่งเดินทางเข้ามาในวันที่ 4 กรกฎาคมแต่ได้เดินทางกลับดานัง ประเทศเวียดนามแล้วตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม คาดว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุดังกล่าว

 

ด้านพนักงานยืนยันว่า หลังจากเวลา 13:57 น. ในห้องที่เกิดเหตุมีผู้หญิงผู้ก่อเหตุอยู่เพียงคนเดียว หลังจากนั้นผู้เสียชีวิตอื่นๆ ได้ทยอยนำกระเป๋ามาไว้ที่ห้องดังกล่าวเพื่อเตรียมเช็คเอาท์ และได้เข้าไปในห้องในเวลาประมาณ 14:17 น. จากนั้นภาพจากกล้องวงจรปิดไม่พบว่ามีผู้ใดเดินออกมาจากห้องอีกเลย ขณะที่ผลการตรวจสอบสารที่ออกมา จึงเชื่อว่า  1 ใน 6 ของผู้เสียชีวิตเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ออกแล้ว ผลตรวจสอบสารในถ้วยชา 6 ใบ

ทั้งนี้ จากการสอบถามข้อมูลจากญาติทราบว่า ในกลุ่มผู้เสียชีวิตมี 2 สามีภรรยาประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างถนนในประเทศเวียดนามซึ่งได้ ร่วมลงทุน สร้างโรงพยาบาลในประเทศญี่ปุ่น คิดเป็นเงินไทยมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท ตามที่ผู้หญิงคนก่อเหตุ ได้ชักชวน แต่ไม่มีความคืบหน้า ซึ่งที่ผ่านมามีการทวงถามอยู่ตลอด 

 

โดย เชอรีน ชอง (สัญชาติอเมริกัน อายุ 56 ปี) ในฐานะเจ้าของห้องและผู้ก่อเหตุ ได้นัดกับนาย ฮง ฟาม ธาน (สัญชาติเวียดนาม อายุ 49 ปี) และ น.ส. ธิ เหงียน เฟือง ลาน (สัญชาติเวียดนาม อายุ 47 ปี) สองสามีภรรยา ให้มาเจอกันที่ห้อง จากนั้นทั้งสองสามีภรรยา ก็ไปนัดกับนาย ฮุง ดังวาน (สัญชาติอเมริกัน อายุ 55 ปี), นาย ดิน ซาน ฟู (สัญชาติเวียดนาม อายุ 37 ปี) และ น.ส. ธิ เหงียน เฟือง (สัญชาติเวียดนาม อายุ 46 ปี) ให้มาเจออีก จึงทำให้ในห้องมีทั้งห้องมีทั้งหมด 6 คน

 

ก่อนหน้านี้จึงได้มีการนัดหมายให้ไปเคลียร์กันที่ประเทศญี่ปุ่นแต่ติดขัดเรื่องการขอวีซ่าจึงเปลี่ยนมาเป็นประเทศไทย วันนี้จะสอบปากคำญาติ 3-4 คนเพิ่มเติม 

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต. นพศิลป์ยืนยันว่า เหตุที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนบุคคล ของผู้เสียชีวิตทั้ง 6 รายไม่เกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมหรือแก๊งต่างๆ ที่เลือกมาก่อเหตุในประเทศไทยและขอยืนยันว่าการตำรวจแห่งชาติพร้อมดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวในไทย