- 19 ก.ค. 2567
คืบหน้าล่าสุดคดีวางยา 6 ศพ ชาวเวียดนาม เจ้าหน้าที่พบไซยาไนด์ในอาหารด้วย พิษไม่ได้มีแค่ในชา นอกจากนี้ยังพบไซยาไนด์ซ่อนอยู่ในกระเป๋าเดินทางของ 1 ใน 6 คนแล้ว
คืบหน้าล่าสุดคดีวางยา 6 ศพชาวเวียดนามที่โรงแรมหรูกลางกรุงเทพ โดยผู้เสียชีวิตทั้งหมดพบว่าเสียชีวิตจากการถูกพิษไซยาไนด์ และระบุตัวคนร้ายได้คือ "เซรีน ซอง" หญิงวัย 56 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิต โดยตำรวจเผยสาเหตุว่าเป็นการฆ่าล้างหนี้ หลัง "เซรีน ซอง" นัดผู้เสียชีวิตคนอื่นมาเคลียร์กันเรื่องคดีความที่ "เซรีน ซอง" ชักชวนให้คู่สามี ภรรยา ที่เสียชีวิตร่วมลงทุนสร้างโรงพยาบาลที่ญี่ปุ่นกว่า 10 ล้านบาท แต่เกิดมีปัญหาฟ้องร้องเตรียมขึ้นศาลกันในอีกประมาณ 2 สัปดาห์
โดยเมื่อวันพุธที่ 17 กรกฎาคม 2567 เวลา 15.00น. ที่รพ.จุฬาฯ มีการแถลงผลชันสูตรกรณีการเสียชีวิต ชาวเวียดนาม 6 ราย เสียชีวิตจากการถูกวางยาในโรงแรมแห่งหนึ่ง พื้นที่ สน.ลุมพินี รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ ผอ.รพ.จุฬาลงกรณ์ และ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยถึงผลการชันสูตรพลิกศพของผู้เสียชีวิตทั้ง 6 รายว่า จากผลการตรวจร่างผู้เสียชีวิต รพ.จุฬาฯได้ทำหน้าที่ชันสูตรพลิกศพ ซึ่งเมื่อวันที่ 16 ก.ค.67ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเวลา 17.00น. จนไปถึง 18.00 น. ว่ามีการพบศพในโรงแรมดังกล่าว จึงได้ส่งทีมชันสูตรออกไปร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นพ.กรเกียรติ เปิดเผยว่า ทีมแพทย์ รพ.จุฬาฯ เข้าไปมีส่วนร่วมในการชันสูตรหลังได้รับแจ้งพบศพ จากนั้นก็นำร่างทั้ง 6 รายมาชันสูตรที่ รพ.จุฬาฯ ภาพรวมของศพทั้งหมด 6 ราย ประกอบด้วย หญิง 3 ชาย 3 หน้าที่ของศูนย์ชันสูตรคือ อันแรกพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล 2.ระยะเวลาเสียชีวิต โดยประเมินตั้งแต่ที่เกิดเหตุ เบื้องต้นทีมแพทย์ประเมินว่าเสียชีวิตมาแล้ว 12-24 ชั่วโมง ซึ่งได้มาจากการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ในศพทุกรายพบสอดคล้องกัน 3.สาเหตุการเสียชีวิต ได้ชันสูตรตั้งแต่รับศพเมื่อคืน มีการเก็บตัวอย่างเลือด ปัสสาวะ น้ำวุ้นลูกตาในรายที่เก็บได้ เพื่อไปหาสาเหตุการตายร่วมและได้มีการตรวจ CT Scan เพื่อหาร่องรอยอาการบาดเจ็บ
เบื้องต้นไม่พบการถูกทำร้าย ขั้นตอนถัดมาผ่าแยกธาตุ ใน 6 รายนี้สิ่งที่ปรากฎในทุกรายคือ มีร่องรอยของการขาดอากาศเกิดขึ้น ดูจากริมฝีปากมีสีม่วงเข้ม ใบหน้า รวมถึงการตกสู่เบื้องต่ำของเลือด และปลายเล็บมือมีสีม่วง บ่งชี้ว่าเสียชีวิตจากการขาดอากาศร่วมด้วย อีกอย่างที่สำคัญคือการตกเบื้องต่ำของเลือด เป็นสีแดงสด แตกต่างจากเคสทั่วไป จึงตั้งข้อสันนิษฐานว่า อาจจะมีสารพิษมาเกี่ยวข้อง น่าจะเป็นไซยาไนด์ และตรวจสารพิษอื่นๆ ร่วมด้วย
จากนั้นเป็นการผ่าชันสูตร อวัยวะภายในไม่พบร่องรอยอะไรที่สำคัญ โดยพบการคั่งเลือดของอวัยยะทุกราย สาเหตุการเสียชีวิตของทุกคนมาจากพิษของสารไซยาไนด์ ส่งผลให้เกิดการขาดอากาศในระดับเซลล์ จากนั้นนำเลือดไปพิสูจน์คัดกรองสารไซยาไนด์ ให้สีที่เป็นบวก ต้องรอยืนยันผลตรวจเลือดอีกครั้ง 1-2 วันจากนี้ไป สรุปทั้ง 6 คนเจอสารไซยาไนด์
ส่วนร่างกายที่พบมีสารไซยาไนด์นั้น จะพบเลือดและอวัยวะภายในสีแดงสดกว่าปกติ ส่วนปริมาณการได้รับสารไซยาไนด์ ยังประเมินไม่ได้ว่ารับเยอะเท่าไร สำหรับสารอื่นๆ ยังอยู่ระหว่างวิเคราะห์และรอผลจากห้องแล็บ รวมทั้งคัดกรองสารอื่นๆ คาดว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ นอกจากนี้ในกระเพาะบางคนมีเศษอาหาร บางคนย่อยเยอะ บางคนย่อยน้อย
ส่วนกรณีการนำติดตัวเข้ามาเองจากต่างประเทศนั้น ก็ยากที่จะตรวจสอบ ซึ่งได้ตั้งไว้ 2 ส่วน คือมีการเตรียมมาแล้ว และมาหาซื้อในไทย หลังจากนั้นยังต้องรอผลการตรวจสอบทุกอย่างอย่างละเอียด จึงจะได้ข้อมูลที่ครบถ้วน และจะแถลงรายละเอียดให้ทราบอีกครั้ง
ล่าสุดวันที่ 19 กรกฎาคม 2567 มีรายงานความคืบหน้าคดีวางยาพิษ 6 ศพชาวเวียดนามคาโรงแรมหรู ผลตรวจกระเป๋าเดินทางของทั้งหมด พบวัตถุบางอย่างในกระเป๋าเดินทางของผู้เสียชีวิตหญิงชาวเวียดนามซึ่งถูกหุ้มด้วยพลาสติก ซุกซ่อนไว้ เมื่อตรวจสอบพบว่าเป็นสารไซยาไนด์ ทำให้ระบุตัวได้ว่าบุคคลใดเป็นผู้ลงมือในครั้งนี้ ส่วนยาพิษไซยาไนด์นี้ผู้ก่อเหตุพกพามาเองจากต่างประเทศหรือมาหาซื้อในประเทศไทยนั้นยังต้องตรวจสอบต่อไป
นอกจากนี้ยังพบสารไซยาไนด์ปนเปื้อนในอาหารบางชนิดที่อยู่ในห้องที่เกิดเหตุ ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีอาหารบางรายการที่ถูกแกะพลาสติกหุ้มออกแล้ว ซึ่งหมายความว่าคนร้ายไม่ได้วางยาพิษไว้แค่ในเครื่องดื่มเท่านั้น ตำรวจยังต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ว่าไซยาไนด์เป็นของบุคคลใด เพราะว่ามีหลักฐานหลายชิ้นและมีผู้เกี่ยวข้องหลายคน จึงต้องตรวจสอบให้แน่ชัดก่อน แต่หลักฐานเบื้องต้นสามารถตัดตัวผู้ต้องสงสัยเหลือเพียง 2 คน จาก 6 คน ที่เข้าข่ายเป็นผู้วางแผนสังหาร พร้อมกันนี้ยังต้องตรวจหาลายนิ้วมือแฝงเพื่อหาตัวว่าใครเป็นคนชงชาด้วย