- 25 ก.ค. 2567
เปิดใจหญิงกระโดดเกาะเก๋งบริโอ้ เจอเหตุชนแล้วหนีไปสะพานกรุงธน เล่านาทีระทึก สาเหตุที่ตัดสินใจกระโดดเกาะหน้ารถ
กรณีคลิปในโลกออนไลน์ เหตุการณ์ชนแล้วหนี แยกวชิระ มุ่งหน้าสะพานกรุงธน โดยเก๋งบริโอ้ ก่อเหตุขับชนแล้วหนี สาวคู่กรณีได้กระโดดเกาะหน้ารถ ร้องลั่นให้คนบนท้องถนนช่วยเหลือ ซึ่งคนขับผู้หญิงในเก๋งบริโอ้ ก็ไม่สน ขับมุ่งหน้าไปต่อ โดยมีไรเดอร์ขี่มอเตอร์ไซค์พยายามช่วยไล่ตาม ล่าสุด "หญิงกระโดดเกาะ"เก๋งบริโอ้ ออกมาเปิดใจแล้ว
โดยหญิงกระโดดเกาะฝากระโปรงรถ ชื่อว่า คุณเปิ้ล เปิดใจว่า ขณะนั้นตนกำลังขับรถยนต์ไปทำงานบริเวณหน้าโรงพยาบาลราชวิถี จู่ๆคู่กรณีก็ได้เปลี่ยนเลนกะทันหันมาชนบริเวณท้ายรถของตน ซึ่งตนก็ได้พยายามลดกระจกเพื่อพูดคุยกับคู่กรณี แต่คู่กรณีก็ไม่ยอมหยุดรถ ตนจึงได้ขับรถตามมาปาดหน้าเพื่อให้จอดรถ แต่คู่กรณีก็ยังไม่ยอมจอดรถ จากนั้นพอขับรถมาถึงบริเวณถนนราชวิถี จังหวะที่การจราจรติดขัด
ตนจึงตัดสินใจวิ่งลงจากรถ เพื่อไปเคาะกระจกรถคู่กรณีหวังจะพูดคุย แต่คู่กรณีก็ยังไม่ยอมลงมาจากรถ ทำให้ตนตัดสินใจยืนขวางหน้ารถ และเกาะที่ฝากระโปรงรถของคู่กรณี และตนก็ไม่คิดว่าคู่กรณีจะขับรถต่อไปทั้ง ๆ ที่ตนเกาะฝากระโปรงอยู่ ตอนนั้นตนเองก็คิดว่าจะต้องเสียชีวิต เพราะกลัวรถทับ เลยตัดสินใจเกาะฝากระโปรงรถไปแบบนั้น โชคดีที่ขณะนั้นมีพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามมาหลายคัน จึงสามารถชะลอความเร็วของรถคู่กรณีได้
จนมาถึงแยกการเรือน รถยนต์ของคู่กรณีก็ได้ขับรถยนต์สะบัดตนตกจากรถ พร้อมกับฝ่าไฟแดงหลบหนีไปยังสะพานกรุงธน (ซังฮี้) ตนจึงตัดสินใจเลือกวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างมาส่งที่รถยนต์ที่จอดทิ้งไว้บริเวณถนนราชวิถี พร้อมกับมาแจ้งความ
อย่างไรก็ตาม ผู้เสียหายได้ย้ำว่าไม่ได้อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ แค่ต้องการให้คู่กรณีลงมาพูดคุย เพราะรถของตนก็มีประกันภัยชั้น 2 ซึ่งจำเป็นต้องมีคู่กรณีถึงจะสามารถเคลมได้ ถึงแม้ว่ารถของตนจะได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย โดยเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ตนมีรอยฟกช้ำที่บริเวณหัวเข่าทั้งสองข้าง และมีอาการปวดที่บริเวณซี่โครงซ้าย
พร้อมกับฝากเตือนไว้เป็นอุทาหรณ์ว่า ไม่อยากให้ใครนำพฤติกรรมของตนไปเลียนแบบเพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้ เพราะมีกล้องหน้ารถเป็นหลักฐานอยู่แล้ว ทั้งนี้ ผู้เสียหายยังบอกอีกว่า จากการสังเกตลักษณะภายนอกค่อนข้างเชื่อว่าคู่กรณีของตน น่าจะพูดคุยกันได้ด้วยดี และไม่คิดว่าก็เห็นแบบนี้
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว พนักงานสอบสวนให้ข้อมูลว่า จุดเริ่มต้นที่ชนกันเป็นพื้นที่ของ สน.พญาไท ซึ่งก็ได้ให้คำแนะนำให้ผู้เสียหายไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว ส่วนในพื้นที่ของสน.ดุสิต ต้องแยกออกมาเป็นคนละคดี โดยในของสน.ดุสิตจะพิจารณาดำเนินคดีทำร้ายร่างกาย และขับรถในลักษณะที่เห็นได้ว่าไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น