- 13 ส.ค. 2567
เจ้าของบ่อสุดช้ำ ลงทุนเป็นล้านปล่อยลูกปลาสลิดไป 2 แสนตัว ใช้เวลาเลี้ยงอย่างดีกว่า 10 เดือน ถึงวันเอากำไรคืนถึงร้องไห้โฮ
ยังเป็นปัญหาให้กับเกษตรกรอย่างต่อเนื่องสำหรับ ปลาหมอคางดำ ซึ่งล่าสุดนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนในหลายพื้นที่ของจังหวัดสมุทรปราการ ถึงปัญหาการระบาดของปลาหมอคางดำ ที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ของแหล่งน้ำในพื้นที่
โดยเฉพาะพื้นที่ ต.คลองด่าน พบมีการแพร่กระจายของปลาหมอคางดำในทุกลำน้ำสาธารณะ ทั้งนี้เนื่องมาจากปลาหมอคางดำ เป็นปลาที่แพร่พันธุ์เร็วมาก สามารถผสมพันธุ์และวางไข่ได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องหยุดพัก ถ้าหากปล่อยไว้ 3 เดือน เขาจะมีปริมาณมากเป็นทวีคูณแล้วจะแก้ไขไม่ทัน ดังนั้นไม่ควรปล่อยให้ปลาหมอคางดำขยายพันธุ์แล้วมาทำลายระบบนิเวศพังเสียหายหมด
อีกทั้งถ้าหากออกสู่ทะเลได้ จะทำให้เป็นปัญหาใหญ่เกินการควบคุม ซึ่งขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการเลี้ยงปลาสลิดในพื้นที่ ได้รับผลกะทบหนักที่สุด การเลี้ยงปลาสลิดเริ่มได้รับผลกระทบจากปลาหมอคางดำ เป็นอย่างมากเจ้าของบ่อปลาสลิดหลายรายขาดทุนมาแล้ว 4 - 5 ปี ทั้งนี้เกษตรกรปล่อยลูกปลาสลิดไป 2 แสนตัว ใช้เวลาเลี้ยง 10 เดือน หมดเงินค่าอาหารปลาเป็นเงินล้านกว่าบาท
แต่พอถึงวันเปิดบ่อจับปลาสลิด พบว่าในบ่อเลี้ยงปลาสลิดมีปลาหมอคางดำหลายร้อยกิโลกรัม ขณะที่จำนวนปลาสลิดในบ่อลดจำนวนลงมากกว่าครึ่ง สร้างผลกระทบกับเกษตรอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ตราบใดที่ปลาหมอคางดำยังระบาดอยู่ และทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น เกษตรกรที่เลี้ยงปลาสลิดหลายพื้นที่ที่ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน คงจะเลิกเลี้ยงแล้วทิ้งบ่อปล่อยร้างหากยังฝืนทำต่อไปคงหมดตัวแน่
ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ยังระบุอีกว่า ในแต่ละปีตลาดปลาสลิดในประเทศไทยมีมูลค่ารวมกว่า 1,000 ล้านบาท แต่ในช่วงที่ผ่านมาตลาดปลาสลิดได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ เกษตกรหลายพื้นที่ได้รับผลกระทบจนเลิกเลี้ยงปลาสลิดปล่อยทิ้งบ่อปลาให้ร้าง เพราะประสบปัญหาขาดทุนมาตลอด หากเป็นเช่นนี้ต่อไปคงมีเกษตรกรหลายคนถอดใจเลิกทำบ่อเลี้ยงปลาสลิดอย่างแน่นอน