- 08 ก.ย. 2567
สาวสุดช้ำ หมอรพ.เอกชนชื่อดังวินิจฉัยโรคผิด ทำแพ้ยาที่ฉีดตามองไม่เห็นหน้าเสียโฉม ต้องตกงาน โดนปัดความรับผิดชอบ
กรณีหมอวินิจฉัยโรคผิด ปัดความรับผิดชอบ วันที่ 8 ก.ย.67 นางสาวศศินันท์ พร้อมกับสามี เดินทางมาขอความช่วยเหลือกับ สายไหมต้องรอด กรณีไปรักษาอาการตาแดงกับเจ็บคอ กับโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง แต่หมอวินิจฉัยโรคผิด ฉีดยาแก้แพ้ให้เธอถึง 3 ครั้ง
ทำให้เธอเกิดอาการแพ้ยาอย่างรุนแรง ต้องส่งเข้าห้องไอซียู ต้องนอนรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลนาน 3 เดือน หมอให้กลับบ้านได้ ต้องมาทนทุกข์กับสภาพใบหน้าที่เสียโฉม ตามองไม่เห็นใกล้บอด ต้องตกงาน โรงพยาบาลกลับไม่รับผิดชอบ รับผิดชอบเพียงแค่ให้เธอกลับมารักษาตามอาการ
นางสาวศศินันท์ เล่าให้ฟังว่า วันที่ 18 มิ.ย. ตนเองมีอาการตาแดง 19 มิ.ย.ซื้อยามากินเองซึ่งทุกครั้งก็จะหายแต่ครั้งนี้ไม่ดีขึ้น วันที่ 20 มิ.ย. เข้ารักษาที่โรงพยาบาลชื่อดัง ย่านพหลโยธิน ด้วยอาการเจ็บคอและตาแดง หลังจากเข้ารักษา หมอได้วินิจฉัยว่ามีอาการต่อมทอมซินอักเสบ จึงได้ฉีดยาแก้แพ้ให้ 1 เข็ม แล้วให้กลับบ้าน
หลังตนเองกลับมาบ้านได้ไม่นาน เริ่มมีอาการแน่นหน้าอก ผื่นขึ้นเต็มตัว ตาเริ่มมองไม่ชัด ปากบวม ตนจึงโทรศัพท์ไปสอบถามที่โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลจึงนัดให้มาพบหมอเฉพาะทางในวันที่ 21 มิ.ย. โดยหมอเฉพาะทางได้วินิจฉัยโรคว่า อาจจะเป็นโรคอีสุกอีใส
หมอได้ฉีดยาแก้แพ้ตัวเดิมเพิ่มให้อีก แล้วให้ตนแอดมิดนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล หลังจากที่ตนฉีดยาไปไม่นาน อาการเริ่มหนักขึ้น ผื่นแดงเริ่มขึ้นเยอะกว่าเดิม ตาซ้ายมองไม่เห็น ตาขวามองเห็นเพียง 50 % ตนจึงรีบแจ้งพยาบาล ต่อมาวันที่ 22 มิ.ย. หมอรีบนำตัวตนเข้าห้องไอซียู และฉีดยาแก้แพ้ตัวเดิมให้อีกเป็นเข็มที่ 3 ทำให้เธอมึนเบลอ ไม่ร่ายกายเริ่มชาไม่มีความรู้สึก
ต้องนอนอยู่ในห้องไอซียูถึง 7 วัน แต่อาการไม่ดีขึ้น ทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลที่2 โรงพยาบาลที่สองได้วินิจฉัยว่าตนเองเป็นโรค”สตีเวนส์จอห์นสัน ระดับ10“ ตนเองได้รักษาอยู่ที่โรงบาลที่2 อีก 1 เดือน 15 วัน อาการผื่นแดงหยุดลุกลาม แต่ตายังมองไม่ค่อยเห็นเหมือนเดิม ทางโรงพยาบาลที่2 จึงส่งตัวกลับมารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแรก หลังตนกลับมารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแรกได้ 1 เดือน
ทางโรงพยาบาลได้ให้ตนเองกลับไปพักฟื้นต่อที่บ้าน ทั้งที่ตาตนเองยังมองไม่ค่อยเห็น และมีแผลที่ตกสะเก็ดจากผื่นที่ขึ้นตามใบหน้าและร่างกาย โดยอ้างว่าเดี๋ยวจะนัดมารักษาตามอาการอีกครั้ง
ตอนนี้ตนใช้ชีวิตลำบากมาก ตาขวามองเห็นเพียง 50% ส่วนตาซ้ายมองเป็นฝ้าสีขาว จะเดินไปไหนตามลำพังไม่ได้ ต้องมีคนจูงมือตลอด ตนเสียใจมากที่ต้องมาป่วยแบบนี้ ก่อนป่วยตนมีชีวิตที่สดใส เป็นพนักงานไอที กำลังจะเปิดช่องขายของทาง YouTube แต่ความฝันต้องพังทลายหมด เหตุเพราะหมอวินิจฉัยโรคผิด ฉีดยาแก้แพ้ให้ตนถึง 3 ครั้ง
จนตนต้องป่วยอยู่ในสภาพนี้ สิ่งที่ตนกังวลมากที่สุดในตอนนี้คือ ตนอยากให้ทางโรงพยาบาลแรกที่รักษาตน ช่วยรักษาตาตนเองให้กลับมามองเห็นให้ได้ เพราะที่ผ่านมาการรักษาทุกครั้งตนใช้บัตรประกันสังคมรักษา เชื่อว่าอาจจะไม่ได้ยาที่ดี
จึงอยากให้โรงพยาบาลรับผิดชอบ ด้วยการจัดยาดีๆ ที่อยู่นอกประกันสังคมมาให้ และอยากเรียกร้องค่าเสียหายทั้งเรื่องต้องถูกให้ออกจากงาน รวมถึงการเสียโฉม ให้โรงพยาบาลรับผิดชอบตรงนี้ด้วย
ซึ่งหลังจากนี้ทางสายไหมต้องรอด จะติดต่อกับโรงพยาบาลรักษาผู้เสียหาย จะลองพูดคุยดูว่าจะเยียวยาผู้เสียหายในส่วนไหนได้บ้าง และพรุ่งนี้จะพาผู้เสียหายไปพบกับนายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจํากระทรวงสาธารณสุข เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ และช่วยตรวจสอบว่าโรงพยาบาลที่รักษาผู้เสียหายมมีความผิดหรือไม่ รวมถึงช่วยหาหมอที่เก่งมารักษาโรคให้ผู้เสียหายด้วย