ศปช. เคลียร์ชัด ข่าวลือว่อนเนต พายุขนาดใหญ่ถล่มไทยเหมือนปี 54

ศปช. ยืนยัน ข่าวลือว่อนเนตว่าพายุขนาดใหญ่ถล่มไทยเหมือนปี 54 ไม่เป็นความจริง อยู่ไกลถึงญี่ปุ่น วอนอย่าส่งต่อ

กรณีกระแสข่าวลือว่อนโลกออนไลน์ว่า พายุขนาดใหญ่ถล่มไทยเหมือนปี 54  ล่าสุด ศปช. ยืนยัน ออกมาชี้แจงแล้วว่า ไม่เป็นความจริง อยู่ไกลถึงญี่ปุ่น วอนอย่าส่งต่อ เผยสัปดาห์หน้า หลายพื้นที่จะเข้าสู่ปลายฝนต้นหนาว

โดย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี โฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) กล่าวว่า ตามที่มีข่าวลือผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า “อีก 5 วันจะเกิดพายุไต้ฝุ่นขนาดใหญ่ที่รุนแรงกว่า“ยางิ ”และจะเคลื่อนตัวเข้าเวียดนาม ผ่านลาวเข้าไทย และจะส่งผลให้กรุงเทพฯ จะเจอน้ำท่วมหนักกว่าปี 54 ถึงสองเท่า” นั้น 

ศปช. เคลียร์ชัด ข่าวลือว่อนเนต พายุขนาดใหญ่ถล่มไทยเหมือนปี 54


ศปช.ได้ตรวจสอบข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา และ ส่วนราชการอื่นๆใน ศปช.แล้ว ยืนยันว่าในช่วงเวลาดังกล่าวไม่มีพายุขนาดใหญ่ที่จะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยมีเพียงพายุโซนร้อนซีมารอน (CIMARON) ก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งคาดว่าจะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่นและอ่อนกำลังลง ไม่มาถึงประเทศไทยอย่างแน่นอน

ศปช. เคลียร์ชัด ข่าวลือว่อนเนต พายุขนาดใหญ่ถล่มไทยเหมือนปี 54
 
โดยฝนที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ช่วงนี้เกิดจากมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุม โดยจะมีฝนเพิ่มขึ้นในระยะแรกๆ จากนั้นจะลดลง และเข้าสู่ปลายฝนต้นหนาวในประเทศไทย 


ส่วนกรณีการแก้ไขปัญหาและเยียวยาพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยนั้น นายจิรายุ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้เร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจ่ายเงินเยียวยาให้กับประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย ให้รวดเร็ว ลดขั้นตอน โดยได้รับรายงานจากกระทรวงมหาดไทยว่า จะสามารถจ่ายเงินเยียวยาเบื้องต้นให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย

ศปช. เคลียร์ชัด ข่าวลือว่อนเนต พายุขนาดใหญ่ถล่มไทยเหมือนปี 54

และ จ.ลำปาง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ประสบภัยลำดับต้น ๆ ได้ในช่วงสัปดาห์นี้เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ก่อนซึ่งหากมีความเสียหายอื่น ๆ ก็จะเร่งรัดจ่ายเงินช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ เช่น กรณีบ้านพังเสียหายทั้งหลัง จะได้รับเงินช่วยเหลือ 230,000 บาทต่อหลัง และในกรณีเสียชีวิตจะได้รับเงินช่วยเหลือ 50,000 บาท

“ที่ประชุม ศปช.ได้เร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจ่ายเงินเยียวยาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ภายใต้ระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งความช่วยเหลือที่รวดเร็วเป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุด”