"บอสหมอเอก"งานเข้า จ่อดำเนินคดี หมอเถื่อน-คลินิกเถื่อน

"บอสหมอเอก"ฐานานนท์ หิรัญไชยวรรณ งานเข้า จ่อเอาผิด เข้าข่ายหมอเถื่อน-คลินิกเถื่อน แถมใบประกอบวิชาชีพเหมดอายุ

"บอสหมอเอก"ฐานานนท์ หิรัญไชยวรรณ เข้าข่าย "หมอเถื่อน-เปิดคลินิกเถื่อน ล่าสุด 13ต.ค.67 สบส. ประสานแพทยสภา และ ตำรวจ เอาผิด บอสหมอเอก  ดร.ฐานานนท์ หิรัญไชยวรรณ หนึ่งในทีมผู้บริหาร ระดับบอส ดิไอคอน กรุ๊ป The Icon Group  

ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบข้อมูลไปยังแพทยสภา ไม่พบข้อมูลของ “บอสหมอเอก”ซึ่งแพทย์ทุกคนที่ประกอบวิชาชีพเวชกรรมในประเทศไทย ต้องขึ้นทะเบียนกับแพทยสภา และมีใบประกอบวิชาชีพ 

\"บอสหมอเอก\"งานเข้า จ่อดำเนินคดี หมอเถื่อน-คลินิกเถื่อน

โดย ดร.นายแพทย์ ภานุวัฒน์ ปานเกตุ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.)  กระทรวงสาธารณสุขมอบหมายให้กลุ่มตรวจสอบและปราบปรามการกระทำความผิดทางโซเชียล กองกฎหมาย ตรวจสอบข่าวที่ปรากฎในสื่อมวลชน เกี่ยวกับกรณีหมอคนดัง แอบอ้างเป็นแพทย์ของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด  

\"บอสหมอเอก\"งานเข้า จ่อดำเนินคดี หมอเถื่อน-คลินิกเถื่อน
พนักงานเจ้าหน้าที่ฯ กรม สบส. ได้ดำเนินการตรวจสอบและสืบสวนแล้ว พบว่า  “หมอเอก” หรือนายฐานานนท์ (สงวนนามสกุล) ซึ่งทำการอ้างตนเป็นแพทย์ ของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด นั้น เป็นนักประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ แต่ใบประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์หมดอายุ และจากการตรวจสอบรายชื่อแพทย์จากฐานข้อมูลแพทยสภา พบว่าหมอเอก ไม่ได้อีกรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมแต่อย่างใด  

\"บอสหมอเอก\"งานเข้า จ่อดำเนินคดี หมอเถื่อน-คลินิกเถื่อน

ดังนั้น การตรวจร่างกายและฟังเสียงหัวใจของหมอเอกตามที่ปรากฏในสื่อนั้น เข้าข่ายการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 มาตรา 26 ฐานประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ขึ้นทะเบียนและได้รับอนุญาต (หมอเถื่อน) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

\"บอสหมอเอก\"งานเข้า จ่อดำเนินคดี หมอเถื่อน-คลินิกเถื่อน
อีกทั้ง สถานที่ให้บริการตรวจรักษาก็ไม่ได้ขออนุญาตและขึ้นทะเบียนเป็นสถานพยาบาล จึงเข้าข่ายการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 16 และ 24 ฐานประกอบกิจการ และดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต (คลินิกเถื่อน) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


ทั้งนี้ กรม สบส. จะประสานแพทยสภา สภาเทคนิคการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป