มรดก500ล้านวุ่น ทำ ขรก.สาวตกงาน หลังแฉสาวใช้ปลอมลายเซ็น ฮุบมรดกเศรษฐีนี

สาวใช้แสบ ร่วมมือกับ จนท.ปลอมเอกสารรับบุตรบุญธรรม จ่อรับมรดกเศรษฐีนีกว่า 500 ล้าน แต่ข้าราชการน้ำดีไม่เล่นด้วย ยืนยันเป็นการปลอมลายเซ็น สุดท้าย จนท.ทุจริต รวมหัวกลั่นแกล้ง จนสาวข้าราชการน้ำดีจนถูกบีบให้ออกตำแหน่งลูกจ้างฝ่ายทะเบียนอำเภอ

น.ส.ธัญญรส อดีตลูกจ้างฝ่ายทะเบียนอำเภอแห่งหนึ่ง เดินทางมาร้องขอความเป็นธรรม กรณีถูกกลั่นแกล้งให้ออกจากราชการ เหตุเพราะพูดความจริงกรณีสาวใช้แสบ ร่วมกับ จนท.ฝ่ายทะเบียนอำเภอ ปลอมแปลงเอกสารราชการ ปลอมลายเซ็น รับบุตรบุญธรรม  เพื่อรับมรดกเศรษฐีนีกว่า 500 ล้าน

มรดก500ล้านวุ่น ทำ ขรก.สาวตกงาน หลังแฉสาวใช้ปลอมลายเซ็น ฮุบมรดกเศรษฐีนี

มรดก500ล้านวุ่น ทำ ขรก.สาวตกงาน หลังแฉสาวใช้ปลอมลายเซ็น ฮุบมรดกเศรษฐีนี

โดย ตนทำงานเป็นลูกจ้างฝ่ายทะเบียน มานานกว่า 10 ปี ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต  ต่อมาเมื่อวันที่ 21 พ.ย.65 ได้มีข่าวเรื่องการรับบุตรบุญธรรม ในลักษณะเศรษฐีนี รับสาวใช้เป็นบุตรบุญธรรม ยกมรดก 500 ล้านให้ ต่อมาครอบครัวเศรษฐีนี ได้มีการร้องให้ตรวจสอบเอกสารการรับบุตรบุญธรรม ดังกล่าว ว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ซึ่งเมื่อตนได้เห็นข่าว จึงได้มีการค้นหาเอกสาร เนื่องจากตนเองมีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรม  แต่ก็รู้สึกเอะใจว่าไม่คุ้นกับเคสนี้เลย

มรดก500ล้านวุ่น ทำ ขรก.สาวตกงาน หลังแฉสาวใช้ปลอมลายเซ็น ฮุบมรดกเศรษฐีนี

และก็เป็นอย่างที่คิด เมื่อค้นหาเอกสารจนเจอ จึงพบว่าเอกสารการจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมดังกล่าว "เป็นเท็จ" แน่นอน เนื่องจากตนพบว่า ในเอกสารการรับบุตรบุญธรรม มีชื่อตน ลงชื่อเป็นพยาน  ทั้งที่ในข้อเท็จจริงตนมีหน้าที่ในการจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรม ตนจะลงชื่อในฐานะ "เจ้าหน้าที่" ที่รับจดทะเบียน  จะต้องไม่ไปลงชื่อในฐานะพยาน  ตนจึงได้เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร  เรื่องการลงลายมือชื่อเป็นเท็จ 


ต่อมาหลังจากมีการแจ้งความ ได้มี จนท.ฝ่ายทะเบียนของอำเภอ 3 คน มาพูดคุยกับตนพร้อมกับขอร้องให้ตนถอนแจ้งความ แต่ตนไม่ยอมเพราะเป็นการทุจริตต่อหน้าที่  ต่อมาศาลเยาวชนและครอบครัว จ.สมุทรสาคร ได้มีหมายเรียกตนไปเป็นพยานเรื่องการลงลายมือชื่อเป็นพยานในเอกสาร  ซึ่งตนได้เบิกความยืนยันไปว่าการลงลายมือชื่อในเอกสารดังกล่าวเท็จ  ต่อมา ต้นปี 2567 ศาลได้มีคำพิพากษา ให้เพิกถอนการจดรับบุตรบุญธรรมดังกล่าว ทำให้สาวใช้ไม่มีสิทธิรับมรดกกว่า 500 ล้าน  

มรดก500ล้านวุ่น ทำ ขรก.สาวตกงาน หลังแฉสาวใช้ปลอมลายเซ็น ฮุบมรดกเศรษฐีนี

หลังจากนั้นตนคิดว่าจบเรื่องแล้ว จึงกลับมาทำงานตามปกติ ต่อมาปลายปี 2567 ตนถูกประเมินจากเพื่อนร่วมงานว่าขาดจริยธรรมในการทำงานกับเพื่อนร่วมงาน จึงถูกให้ออกจากราชการ  

 

ซึ่งตนเชื่อว่าการประเมินดังกล่าวเป็นผลมาจากที่ตนเองไปให้การเป็นพยานในคดีปลอมเอกสารรับมรดกกว่า 500 ล้าน อย่างแน่นอน ซึ่งอาจจะทำให้มีผู้ใหญ่บางคนเสียผลประโยชน์  ที่สำคัญ คนที่ปลอมลายมือชื่อของตน ได้ไปยอมรับในชั้นศาลว่าเป็นคนปลอมลายมือชื่อ แต่ปัจจุบันยังคงทำงานที่อำเภอตามปกติ ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ  ตนจึงได้นำเรื่องดังกล่าวไปปรึกษากับเพื่อนร่วมงาน เพื่อนร่วมงานจึงแนะนำให้มาร้องขอความช่วยเหลือกับ เพจสายไหมต้องรอด ดังกล่าว 

 


ด้าน นายเอกภพ  เหลืองประเสริฐ  ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด  ภายหลังได้รับเรื่อง กล่าวว่า ขณะนี้ผู้เสียหายได้ทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมไปที่ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดแล้ว จึงต้องรอผลการพิจารณาก่อนว่าผลจะออกมาอย่างไร หากยังไม่ได้รับความเป็นธรรมอีก คงต้องประสานผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ให้ช่วยลงมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทุกฝ่ายต่อไป