- 15 ก.ค. 2562
"ตรีศูล" ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ส่งไปเป็นของทูลพระขวัญตอบแทนที่พระจักรพรรดิฟรันซ์ โจเซฟ แห่งออสเตรีย ส่งของทูลพระขวัญมาถวาย ปัจจุบันจัดแสดงที่ Weltmuseum Wien กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย
เป็นที่ทราบกันดีว่า ประเทศไทยของเรามีความสัมพันธ์กับนานาประเทศมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และเมื่อสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็ทรงมีสัมพันธไมตรีต่อชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก ด้วยสายพระเนตรอันกว้างไกลของพระองค์ ที่ทำให้ประเทศไทยเรา มีความสัมพันธ์อันดีเป็นมิตรกับต่างประเทศมาจนถึงปัจจุบัน
ทั้งนี้ ทางผู้ใช้เฟสบุ๊ค Danny Karn ได้โพสต์ข้อความและรูปภาพถึงกรณีของ ตรีศูล ของทูลพระขวัญรัชกาลที่ 5 ถวายพระจักรพรรดิฟรันซ์ โจเซฟ แห่งออสเตรีย ซึ่งเป็นตรีศูลที่งดงามและล้ำค่ามาก โดยระบุข้อความว่า
"ตรีศูล" ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ส่งไปเป็นของทูลพระขวัญตอบแทนที่พระจักรพรรดิฟรันซ์ โจเซฟ แห่งออสเตรีย ส่งของทูลพระขวัญมาถวาย ปัจจุบันจัดแสดงที่ Weltmuseum Wien กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย
"ตรีศูล" ลักษณะเป็นหลาวสามง่าม เรียกสั้นๆ ว่า "ตรี" ด้ามเป็นทองคำลงยาสี ตรงง่ามเป็นตราแผ่นดินในสมัยรัชกาลที่ 5 มีมกรคายง่ามออกซ้าย ขวา ใบมีดเป็นงานคร่ำทอง พิพิธภัณฑ์ Weltmuseum Wien แห่งนี้ปิดปรับปรุงไปหลายปี เพิ่งเปิดให้เข้าชมได้เมื่อปลายปี 2560
ตรีศูล ลักษณะเป็นหลาวสามง่าม เรียกสั้นๆ ว่า "ตรี" ด้ามเป็นทองคำลงยาสี ตรงง่ามเป็นตราแผ่นดินในสมัยรัชกาลที่ 5 มีมกรคายง่ามออกซ้าย ขวา ใบมีดเป็นงานคร่ำทอง
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย ออสเตรียเริ่มต้นเมื่อปี ค.ศ. 1865 สมัยรัชกาลที่ 4 และกษัตริย์ ฟรานซ์ โจเซฟ ที่ 1 แต่ความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการเริ่มเมื่อ 1 ก.พ. 1883 เมื่อมีการแต่งตั้งตัวแทนทางการทูตสยามประจำออสเตรียคนแรกในสมัยรัชกาลที่ 5 ต่อมาในวันที่ 17-26 มิ.ย. 1897 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จประพาสยุโรป และเยือนออสเตรียอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของกษัตริย์ ฟรานซ์ โจเซฟ ที่ 1
จักรพรรดิฟรันทซ์ โยเซ็ฟที่ 1 แห่งออสเตรีย ทรงเป็นจักรพรรดิแห่งออสเตรีย และ กษัตริย์แห่งฮังการี และทรงเป็นจักรพรรดิและพระราชาธิบดีพระองค์แรกในจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีตั้งแต่ปีพ.ศ. 2410 พระองค์ทรงเป็นองค์พระประมุขที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดเป็นอันดับที่สามในยุโรป รองจากเจ้าชายโจฮันน์ที่ 2 แห่งลิกเตนสไตน์และพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส ซึ่งทั้งสองพระองค์นี้ทรงครองราชย์เป็นเวลา 70 กว่าปีเท่ากัน
ขอบคุณข้อมูลจาก : Danny Karn
ขอบคุณภาพจาก : Pakorn Kittitharo