- 23 เม.ย. 2560
ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th
เหตุการณ์ประท้วงขับไล่ประธานาธิบดีนิโคลา มาดูโร ของเวเนซุเอลา ตลอด 3 สัปดาห์ ทวีความรุนแรงต่อเนื่อง ล่าสุดทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 20 คน หลังการปะทะกันระหว่างตำรวจปราบจลาจลกับกลุ่มผู้ประท้วงเมื่อคืนนี้ และการปล้นสะดมร้านค้าต่างๆ ในกรุงคารากัส โดยตำรวจปราบจลาจล ได้ยิงแก๊สน้ำตา ขณะที่กลุ่มพลเรือนส่วนหนึ่ง ซึ่งมีอาวุธปืนได้ยิงสวนไปตามตึกต่างๆ ซึ่งคนงานก่อสร้างที่อยู่ในพื้นที่เล่าว่า เป็นภาพน่ากลัวเสมือนสงคราม
ขณะที่ ภาพจากกล้องวิดีโอแสดงให้เห็นผู้คนกำลังขว้างปาขวดและวัตถุสิ่งของใส่กลุ่มมือปืนบนท้องถนน พร้อมตะโกนด่าทอด้วยถ้อยคำว่า “ฆาตกร” ขณะที่กลุ่มผู้ประท้วงบางกลุ่มขว้างปาระเบิดขวดและจุดไฟเผารถบรรทุกหุ้มเกราะของตำรวจ นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า เหตุรุนแรงยังทำให้เจ้าหน้าที่ต้องอพยพคนไข้และทารกแรกคลอดออกจากโรงพยาบาลในพื้นที่ใกล้เคียง โดยรัฐบาลเวเนซุเอลา อ้างว่า ฝ่ายค้านได้จ้างกลุ่มผู้ประท้วงติดอาวุธโจมตีโรงพยาบาล แต่พรรคฝ่ายค้านปฏิเสธ โดยตอบโต้ว่า เป็นเพราะการยิงแก๊สน้ำตาของเจ้าหน้าที่ แต่ ผอ.ของโรงพยาบาล ระบุว่า เป็นเพราะกลุ่มผู้ประท้วงจุดไฟเผา
เหตุการณ์ชุมนุมครั้งนี้ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ว่ายืดเยื้อบานปลายจนกลายเป็นเหตุรุนแรงยากจะยุติ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้นในตัวเมืองหลวง เนื่องจาก แกนนำฝ่ายค้านเรียกชุมนุมประท้วงอีกครั้งในวันนี้และวันจันทร์ พร้อมกับวางแผนสร้างสิ่งกีดขวาง ขณะที่ ประธานาธิบดีมาดูโร กล่าวว่า การประท้วงขับไล่เป็นความพยายามก่อรัฐประหาร ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ทางเดียวเท่านั้นที่จะขับเคลื่อนสถานการณ์ไปข้างหน้าคือจัดการเลือกตั้ง แต่นายเฮนริก แค็พไรส์ ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน โจมตีประธานาธิบดีมาดูโรว่า เป็นผู้นำเผด็จการ
ขณะที่ กลุ่มประท้วงกล่าวโทษผู้นำเวเนซุเอลาเกี่ยวกับวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้เกิดภาวะขาดแคลนอาหาร เวชภัณฑ์ และสิ่งจำเป็นขั้นพื้นฐานอย่างรุนแรง ทั้งนี้ ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน 1 ใน 7 ไม่พอใจต่อการบริหารของประธานาธิบดีมาดูโร ซึ่งมีกำหนดพ้นวาระในปี 2562