ถึงตายก็ยอม!!! พ่อ"ผอ.อ้อย" ลุยป่าฝ่าดงระเบิด ตามหาชิ้นส่วนกระดูกสันหลังลูก ญาติเล่าวินาทีเจอร่าง...มีสิ่งลึกลับมาดลใจให้หาเจอ!?!

จากกรณีที่มีการค้นหาร่างของนางจุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน หรือ “ผอ.อ้อย” อายุ 37 ปี ผู้อำนวยการกองการศึกษาและวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนตำบลชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ที่คาดว่าถูกอุ้มฆ่า ภายหลังครอบครัวได้ออกตามหาเป็นระยะเวลายาวนาน จนเมื่อวันที่ 23 ต.ค. 2560 นางแหลม อุ่นอ่อน แม่ของผอ.อ้อย ฝันว่าได้ยินเสียงคนบอกว่าศพของลูกสาวอยู่ใกล้กับทางไปฐานทหารที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี 

 

และทำให้ครอบครัวได้พบกะโหลกศีรษะมนุษย์ เส้นผม เข้มขัดข้าราชการ และนาฬิกาข้อมือ กระโปรงข้าราชการสีกากี 1 ตัว และพบกระดูกมนุษย์ส่วนขา 1 ชิ้น กระดูกต้นขาท่อนบน 1 ชิ้น จนทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บไปเพื่อส่งตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ และต่อมาผลการตรวจได้ระบุชัดเจนว่าดีเอ็นเอในกะโหลกมนุษย์ตรงกับผอ.อ้อย ซึ่งเมื่อวานนี้ (29 ต.ค.) ทางครอบครัวได้ทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ และทำบุญบำเพ็ญกุศลให้กับผอ.อ้อย ก่อนที่แม่จะเห็นภาพวิญญาณลูกสาว ว่าได้กลับมาที่บ้านแล้วนั้น 

 

 

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ขนลุกซู่!!! วิญญาณ "ผอ.อ้อย" กลับบ้านมาแล้ว เห็นภาพชัดสวมชุดข้าราชการ ขณะแม่เชิญพราหมณ์ทำพิธี!!! (มีคลิป)

ล่าสุดนายบุญเลิศ อุ่นอ่อน และนางแหลม อุ่นอ่อน พ่อและแม่ของ น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน หรือ “ผอ.อ้อย” ได้ทำบุญเลี้ยงพระ จำนวน 6 รูป เพื่อทำพิธีขึ้นบ้านใหม่ที่ “ผอ.อ้อย” สร้างไว้ มีญาติและชาวบ้านกว่า 20 คน เดินทางมาร่วมงาน

 

ทั้งนี้นายบุญเลิศ และนายบัวกัน อุ่นอ่อน อาของ ผอ.อ้อย พร้อมญาติกว่า 10 คน ได้เดินทางไปบริเวณทางขึ้นเนินห้าร้อย ห่างจากฐานอนุพงษ์ บ้านโนนสูง ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี จุดที่พบกะโหลกศีรษะและกระดูกของ “ผอ.อ้อย” โดยจุดดังกล่าว เป็นพื้นที่ป่ารกทึบ อยู่ฝั่งตรงข้ามลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ที่มีทางเดินรถเป็นถนนลูกรังเข้าไปด้านใน อยู่ห่างจากถนนใหญ่ ประมาณ 500 เมตร

 

 

ญาติของ “ผอ.อ้อย” ได้ลงพื้นที่เพื่อค้นหากระดูกส่วนที่เหลือ ทางเจ้าหน้าที่ ระบุว่า จุดที่พบกระดูกของ “ผอ.อ้อย” ได้ปักไม้เอาไว้ ภายในพื้นที่กั้นด้วยเชือกสีแดง และได้มีการสแกนวัตถุระเบิด ทางญาติของผอ.อ้อย ได้เดินสอดส่องตามพงหญ้าในรัศมีประมาณ 500 เมตร ซึ่งใช้เวลาค้นหากว่า 1 ชั่วโมง แต่ไม่พบกระดูกส่วนที่เหลือแต่อย่างใด

 

 

(พ่อผอ.อ้อย)
 

 

(นายบัวกัน อาผอ.อ้อย)

 

ขณะที่นายบัวกัน เปิดเผยว่า วันที่พบกระดูก ตนเป็นคนขับรถนำพ่อและแม่ของ “ผอ.อ้อย” เข้ามาในบริเวณดังกล่าว ตั้งใจจะขึ้นไปค้นหาที่เนินห้าร้อย ซึ่งเมื่อขับเลยจุดพบกระดูก ประมาณ 4 เมตร เหมือนมีสิ่งดลใจจึงถอยรถกลับมา ก่อนจะพบกับกะโหลกศีรษะ เข็มขัดข้าราชการ พร้อมกับเห็นรอยคล้ายร่างคนถูกนำมาทิ้งไว้ข้างจุดที่พบกะโหลก ซึ่งตอนแรกคาดว่าอาจจะเป็นจุดฝังร่าง “ผอ.อ้อย” จึงช่วยกันขุด แต่กลับไม่พบกระดูก ตนจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้เข้ามาตรวจสอบพื้นที่

 

ส่วนทาง นายบุญเลิศ ระบุว่า วันนี้ตนมาตามหาชิ้นส่วนที่เหลือ เพื่อนำกลับไปทำพิธีทางศาสนา อยากหากระดูกของ “ผอ.อ้อย” ให้ครบทุกชิ้นส่วน และจะค้นหาไปจนกว่าจะเจอส่วนที่เหลือ อย่างไรก็ตามช่วงนี้ญาติกำลังรอกระดูก ส่วนที่เจ้าหน้าที่นำไปตรวจดีเอ็นเอ เพื่อนำชิ้นส่วนดังกล่าวมาทำพิธีทางศาสนา

 

 

 

นายบุญเลิศ ยังบอกอีกว่า ตอนที่ตนเข้ามาค้นหากระดูกของลูกสาว แล้วพบกระดูกลูกทีละชิ้น ยอมรับว่ารู้สึกเสียใจมากที่ลูกสาวถูกกระทำอย่างโหดร้าย และแม้ทุกวันนี้จะเริ่มทำใจได้ แต่หากเห็นผู้หญิงใส่ชุดสีกากี ก็จะคิดถึงลูกและร้องไห้ออกมาทุกครั้ง ซึ่งหลังจากนี้ตนรอทางเจ้าหน้าที่มาตรวจสแกนพื้นที่อีกครั้ง เพื่อขยายพื้นที่การค้นหาออกไป

 

 

 

 

 

 

 

ขอบคุณรายการ : ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34