- 12 ม.ค. 2561
เสียงสะท้อนจากชาวบ้าน อ่านรายละเอียดเพจRichman can do
ดึงเอกชน ร่วมลงทุน เพื่อหารายได้ส่วนอื่นเพิ่มทดแทนที่ขาดทุนดีมั้ย..?
หลังจากที่ทีมงานได้ำนเสนอข่าวไปเรื่องรถเมล์ขสมก.ขอขึ้นราคาอีก 2 บาท หรือ 30% ก็มีผู้อ่านเข้ามาแสดงความเห็นมากมายในเพจ มีทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย และมีทั้งว่าทีมงาน ซึ่งเราขอข้อมรับทุกความคิดเห็น อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นอีกไม่นานผู้บริหาร ขสมก.ก็รีบออกมาชี้แจง เช่นกัน
ก่อนอื่นทีมงานขอสรุปในส่วนมุมมองที่ไม่เห็นด้วย เพื่อจะเป็นส่วนหนึ่งในการสะท้อนความคิดเหล่านี้ไปยัง รมว.คมนาคม และ ผุ้บริหารขสมก. มากกว่าจะมีเจตนาอย่างอื่น โดยสรุปมุมมองที่คัดค้านต่างร้องขอว่า การขึ้นค่าโดยสารเช่นนี้เหมือน ซ้ำเติมคนจน เพราะทุกวันนี้รายรับก็ไม่พอกับรายจ่ายอยู่แล้ว แม้ค่าแรงอาจจะมีการปรับขึ้นอีก และการเดินทางไม่ใช่นั่งรถเมล์สายเดียวเดียวแล้วถึงเลย ยังต้องนั่งรถต่ออีกหลาย และถ้ารถเมล์ขึ้นราคา ค่ามอเตอร์ไซค์ และ ค่าอาหาร อื่น ๆ อีก จะขยับขึ้นตามมาด้วย
ซึ่งถ้ารัฐบาลปล่อยให้ ขสมก.ขึ้นราคา เพื่อแก้ปัญหาการขาดทุน และแม้จะเป็นหนึ่งในแผนฟื้นฟู ขสมก. แต่ก็อยากให้ชะลอออกไปก่อน ขสมก.ควรหาทางอื่นมาแก้ปัญหาขาดทุน แทนการขึ้นค่ารถเมล์ได้มั้ย ทั้งยังมีบางเสียงที่สะท้อนออกมาในมุมมองกระแทกว่า ก็คนไทยจะหายจนแล้ว จึงต้องจ่ายค่ารถแพงขึ้น
ส่วนมุมมองที่สนับสนุนให้ ขสมก.ขึ้นราคาจะ บอกว่า ไม่ใช่ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาก และเสนอว่า ให้เอกชน มาร่วมทำด้วย
ด้าน ขสมก.ที่ออกมาชี้แจงมีเนื้อหาดังนี้
ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าว กรณีองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เตรียมปรับขึ้นค่าโดยสาร ทั้งรถโดยสารธรรมดาและรถโดยสารปรับอากาศ เพื่อให้มีอัตราค่าโดยสารที่เท่าเทียมกับรถเอกชนร่วมบริการ และเพื่อสะท้อนต้นทุนค่าโดยสารที่แท้จริง นั้น
ประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เปิดเผยว่า ขสมก.มีภารกิจหลักในการรับส่งประชาชนด้วย รถโดยสารประจำทาง ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งการดำเนินงานที่ผ่านมา ขสมก.จัดเก็บค่าโดยสารตามอัตราที่คณะกรรมการขนส่งทางบกกลางกำหนด ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำกว่าต้นทุนที่แท้จริง ส่งผลให้ ขสมก.มีผลประกอบการขาดทุนต่อเนื่องมาโดยตลอด
และในอดีตที่ประชุมคณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2558 เคยมีมติให้ ขสมก.ปรับขึ้นราคารถโดยสารธรรมดา และรถโดยสารปรับอากาศเพิ่มอีก 1 บาท ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2558 เพื่อให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับราคาก๊าซธรรมชาติ (CNG) ที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ ขสมก.ได้ชะลอการปรับขึ้นราคา เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมที่ให้ชะลอการปรับอัตราค่าโดยสารออกไปก่อน เนื่องจากไม่ต้องการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายด้านการเดินทางแก่ประชาชน ซึ่งอัตราค่าโดยสารดังกล่าว ยังต่ำกว่าอัตราค่าโดยสารรถเอกชนร่วมบริการธรรมดา 1.50 บาทและรถเอกชนร่วมบริการปรับอากาศระยะละ 2 บาท
ขสมก.จึงได้จัดทำแผนฟื้นฟูกิจการองค์การ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพบริการ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับความสะดวก รวดเร็วและปลอดภัย อีกทั้งยังสามารถเลี้ยงตัวเองได้โดยไม่เป็นภาระของภาครัฐ ซึ่งแผนการขอปรับขึ้นอัตราค่าโดยสาร อยู่ในแผนฟื้นฟูกิจการดังกล่าว โดยในระยะแรกจะขอปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารตามมติคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง กล่าวคือ รถโดยสารธรรมดาปรับเพิ่มอีก 1.50 บาท และรถโดยสารปรับอากาศปรับเพิ่มขึ้นอีกระยะละ 2 บาท
อย่างไรก็ตาม การขอปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารในครั้งนี้ ขสมก.จะต้องนำเสนอแผนฟื้นฟูกิจการ เข้าสู่ที่ประชุมสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เพื่อขอความเห็นชอบก่อน หลังจากนั้นจะต้องนำเสนอแผนฟื้นฟู ต่อกระทรวงคมนาคม เพื่อนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขอความเห็นชอบต่อไป ซึ่งหากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแล้ว ขสมก.ก็พร้อมที่จะปรับอัตราค่าโดยสารภายในปี 2561 แต่ทั้งนี้ การขอปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารดังกล่าว ขสมก.จะดำเนินการภายหลังจากที่ได้มีการนำรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 489 คัน เข้ามาให้บริการประชาชนแล้ว