- 01 มี.ค. 2561
ติดตามรายละเอียด FB : DEEPS NEWS
หลังนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ยิ่งยง ยอดบัวงาม ถูกศาลจังหวัดมีนบุรีพิพากษาตัดสินลงโทษจำคุก คนละ 20 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในคดีทำธุรกิจฉ้อโกงประชาชน ก่อนที่จะได้ประกันตัวชั่วคราวในวงเงินคนละ 5 แสนบาท และขณะนี้กำลังอยู่ในชั้นอุทรณ์นั้น และล่าสุด ยิ่งยง พร้อมภรรยา ก็ได้จูงมือมาเปิดใจเป็นครั้งแรกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง one31 ที่มีธัญญ่า ธัญญาเรศ กับ หนิง ปณิตา เป็นพิธีกร ซึ่งงานนี้เจ้าตัวก็ขอเคลียร์ข่าวลือที่ว่าจะเตรียมตัวบวชเพื่อหนีคดีอีกด้วย
ซึ่งยิ่งยงก็เล่าหมดเปลือกว่า ทางโรงงานเจ้าของปุ๋ยเสนอให้เราเป็นพรีเซ็นเตอร์ เราก็รับปากไป แล้วเค้าก็มาบอกว่า ถ้าเป็นพรีเซ็นเตอร์มันได้น้อย เดี๋ยวทางบริษัทจะให้เราเป็นหุ้นส่วน 10 เปอร์เซ็นต์ โดยไม่ต้องลงเงิน ใช้แต่ชื่อเสียง ทางเราก็มีหน้าที่เป็นพีอาร์ให้กับบริษัท ร้องเพลง แต่มันมีอีกบริษัทหนึ่งที่มีหน้าที่รับฝากขายปุ๋ย คือเค้าซื้อปุ๋ยจากบริษัทของเราไปเพื่อไปขายให้กับเกษตรกร พอเค้าซื้อปุ๋ยเราไป บริษัทนั้นก็ครบสัญญาปีหนึ่ง มีคืนเงินบ้าง ไม่คืนบ้าง เค้าก็ทำธุรกิจของเค้าไป เอาเงินไปให้เกษตรกรกู้ แล้วเค้าก็ไม่ได้คืนเงินขายฝากทางนี้ เค้าก็มาฟ้อง จริงๆ แล้วเรื่องนี้มันมีมาตั้งแต่ปี 57 แล้ว มาฟ้องโดยการที่ว่าซื้อปุ๋ยมาจากของเรา
แต่จริงๆ แล้วสัญญาขายฝากไม่เกี่ยวกับทางเราเลย แล้วราก็โดนลากเอี่ยวไปกับคดี เพราะเค้าถือว่าเรามีชื่อเสียง ซื้อปุ๋ยมาเพราะเรา เราเป็นพรีเซ็นเตอร์ พอเค้าเสียหาย เค้าก็ต้องฟ้องเรา เพราะเราเป็นคนที่ทำให้เค้าเชื่อถือมาซื้อปุ๋ยของเรา แต่จริง ๆ แล้วมาขายฝากบริษัทนั้น ก็มีสัญญาถูกต้องทุกอย่าง ถามว่ารู้มั้ยว่าอีกบริษัทเค้ามีการรับขายฝาก เราก็รู้นะ แต่เราบอกไปแล้วว่าเราไม่ยุ่งนะ แต่เราขายปุ๋ยจริง ๆ ตอนที่เราไปขึ้นศาลกัน ตอนนั้นเราไม่คิดไง เราคิดแค่ว่าไม่ต้องกลัว เราไม่ผิด เพราะเราอยู่ในบริษัทขายปุ๋ย แล้วที่เค้าฟ้องนั่นคือบริษัทที่รับฝากขายปุ๋ย เป็นสัญญาขายฝากของอีกบริษัทหนึ่ง แต่มุมมองของศาลเค้ามองว่าเป็นการเชื่อมโยงกัน จริง ๆ แล้วบริษัทของเราไม่ผิดเลย อาจจะผิดตรงนี้ พ.ร.บ.ขายปุ๋ยไม่ให้ขายตรง น่าจะผิดตรงนั้น วันที่ศาลตัดสินผมก็ยืนนิ่งสงบเลย ไม่ได้คิดอะไรนะ เราไม่ได้คิดว่าเรื่องจะใหญ่
ทั้งนี้พิธีกรจึงถามว่า แต่มันตัดสินว่า 20 ปี ไม่รอลงอาญามันหนักมาก ?
ยิ่งยง : หนักมากครับ แต่ในใจเราไม่ได้คิดอะไรเลย แต่คิดแค่ว่าเราจะไปยังไงต่อ
ถ้าเรายื่นอุทรณ์ แต่ไม่เป็นดังที่ใจเราคิด เราจะทำยังไง ?
ยิ่งยง : ศาลคงไม่ยืนเหมือนเดิมในความคิดเรา เพราะตอนนี้ทางบริษัทออกมารับผิดชอบ ตอนนี้จ่ายไปแล้ว 2 ส่วน แล้วอีกสิ้นเดือนมีนาคม จะจ่ายอีกส่วนตามที่ตกลงกันไว้
ทำไมเราไม่ได้ผิด แต่เราต้องจ่าย ?
พี่ทิพย์ (ภรรยา) : คือตามที่เราคิดคือ เงินเดือนที่เราได้รับคือ 3 หมื่น แล้วพี่ยิ่งยงได้ 5 หมื่น กับคอนเสิร์ตที่เราไปทัวร์ประมาณ 2 ปี ก็ให้เค้าไปเถอะ เพราะพี่มีความคิดว่า เงินตรงนั้นมันไม่ใช่ พี่มีความรู้สึกอย่างนั้น อีกอย่างทางผู้เสียหายเค้าก็ต่อสู้มาโดยตลอด พี่มีความสุขที่เค้าได้เงินคืน เราอยากให้เค้าได้เงินคืน เพราะเราคุยกับผู้เสียหายตลอดว่า พี่ฟ้องเถอะ เพราะเราจ่ายเองไม่ไหว อีกอย่างบริษัทเราไม่ผิด
พอเกิดเรื่องราวแบบนี้มา มันเกิดผลกระทบกับครอบครัวมั้ย ?
ยิ่งยง : ในความรู้สึกของพี่เอง พี่ยอมรับทุกสิ่งอย่างที่มันเกิดขึ้น แต่เรื่องของคนรอบข้างเราก็ห้ามความคิดไม่ได้ เราก็น้อมรับ อย่างลูกสาวก็ไปโพสต์ข้อความให้กำลังใจ ก็มีคนไปโพสต์ด่าลูกเราว่า ใช้เงินเกินตัว ไปเอาเงินมาจากไหน แต่จริงๆ แล้วเงินนั้นมันไม่ถึงล้าน แต่ถ้าเป็นปีมันถึงล้านแน่ ผมไม่ได้สปอยลูกเลย และมันไม่ใช่ความจริงที่ผมต้องให้เงินลูกเดือนละเป็นล้าน แต่จริงๆ เราให้เงินลูกแค่ค่าเรียนเท่านั้น ส่วนค่ากินเค้าทำงานเสิร์ฟ
แบ่งค่าใช้จ่ายให้ลูกยังไง ?
ยิ่งยง : ลูกสาวคนโตพี่ทิพย์เค้าก็ดูแล ให้เงินเดือน เพราะเค้าก็พิการตั้งแต่มีลูก ส่วนลูกชายเค้าก็ไปร้องเพลงหาเงินเอง ถ้ามีปัญหาอะไรเค้าก็มาหาเรา ส่วนลูกสาวน้องโย่เค้าก็หาเองของเค้า
ล่าสุดถูกเม้าท์ว่าจะบวชหนีคุก?
ยิ่งยง : ไม่ใช่ การบวชมันหนีไม่ได้เลย แต่เราบวชเพื่อความสบายใจมากกว่า ยอมรับว่าก็มีความเครียดกับข่าวที่เกิดขึ้นเหมือนกันครับ คนที่เค้าคอมเมนต์ว่าเราอาจจะแค่ทำเพื่อถูกใจตัวเอง แต่ลืมความถูกต้อง แต่ก็ไม่เป็นไร เราน้อมรับ น่าจะบวชประมาณ 7 เมษายน บวชไปจนได้วันสึก น่าจะประมาณ 20 กว่าวัน
และสุดท้ายยิ่งยงก็ได้กล่าวขอบคุณแฟนๆ ทุกท่านด้วยว่า ขอบคุณที่เข้าใจและไม่เข้าใจ ผมเชื่อว่าคนเราเกิดมาไม่ได้มีเจตนาที่จะทำผิดตลอดเวลา บางครั้งการผิดอาจจะผิดด้วยการที่ไม่ได้เจตนาเลยก็มี ผมเชื่อว่าสักวันแฟนๆ อาจจะเข้าใจในเจตนาของผม อะไรที่เกิดขึ้นถ้าเรามีสติ เราตั้งรับกับมัน ผมเชื่อว่ามันจะผ่านไปได้
ขอบคุณรายการ : คุยแซ่บShow