หรือมองว่าเป็นเกมกีฬา เปิดไทม์ไลน์ 5 คดีลักลอบฆ่าสัตว์ป่าสงวนจากน้ำมือพรานบรรดาศักดิ์ ชนวนสำคัญสู่เหตุการณ์ใหญ่

 

 

     กำลังเป็นประเด็นกันอยู่ในตอนนี้กับเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2561 ที่ผ่านมาหลัง ชุดเฉพาะกิจพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้รายงานว่า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค เข้าตรวจสอบบริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติไทรโยค ที่ ทย.6 (เขาพูล) อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เนื่องจากเห็นความผิดปกติของคณะรถออฟโรด คณะหนึ่ง จึงรีบเดินทางเข้าในพื้นที่เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2561 จากการตรวจสอบ พบกลุ่มรถออฟโรด จำนวน 6 คัน เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบค้นในรถออฟโรด พบอาวุธปืนไรเฟิล ติดกล้องกับอุปกรณ์เก็บเสียง นอกจากนั้นยังพบกระสุนปืนอีกจำนวนมาก พร้อมอาวุธปืน 2 กระบอก พร้อมกับพบซากเท้าหมีขอ อีกจำนวน 4 เท้า อยู่ในรถออฟโรดคันที่ 5  และอุปกรณ์ทำครัว พบผู้ร่วมทำผิด 11 ราย หนึ่งในนั้นคือ นายวัชรชัย สมีรักษ์ ปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี และ เจ้าหน้าที่ อส. อีก 2 นาย คือนายสกานต์ แก่งหลวง และ นายอนุสรณ์ เรือนงาม ในตอนนี้ให้ทั้งหมดพักจากราชการชั่วคราวเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป 

 

 

 

 

    เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ได้สอบถามชายที่ชื่อนายออย ซึ่งเคยมาเที่ยวอุทยานแห่งชาติไทรโยคอยู่บ่อยครั้งและเป็นคนพาคณะรถออฟโรดมา ในครั้งนี้ โดยนายออย ให้การว่ากรณีที่มีเท้าหมีขอ อยู่ในครอบครองนั้นเป็นเพราะชาวบ้านในพื้นที่เป็นผู้มาขายให้คณะรถออฟโรด ในราคา 100 บาท ทั้งนี้เจ้าหน้าที่พบพิรุธหลายอย่างจากคณะรถออฟโรด เบื้องต้นทราบว่าในวันเกิดเหตุคณะรถออฟโรดเดินทางเข้าไปในพื้นที่ เพื่อจะไปสำนักสงฆ์เจ้าหน้าที่เห็นถึงความผิดปกติจึงได้รีบโทรหาหัวหน้าอุทยาน เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง เมื่อทราบว่าคณะออฟโรดมีพฤติกรรมคล้ายกับเข้ามาล่าสัตว์ จึงได้รวมตัวกันและดักรอคณะด้านล่าง ในตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บหลักฐานทุกอย่างไว้ก่อนสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป

 

 

 

 

    คดีการจับกุมนักล่าสัตว์ป่าสงวนในปัจจุบันมีให้เห็นกันอยู่บ่อยครั้ง แต่ที่โด่งดังจนเป็นข่าวออกมาถือเป็นส่วนน้อยเพราะผู้ที่กล้าเข้าไปล่าสัตว์ป่าสงวนส่วนใหญ่นั้นจัดอยู่ในหมวดของผู้มีอำนาจ การล่าสัตว์ในความคิดจึงถือเป็นกีฬาชนิดหนึ่งในยามว่างเท่านั้น ทั้งนี้ยังถือเป็นการเสริมอำนาจและบารมีในความคิดของผู้ล่าเอง โดยไม่สนใจว่าผู้ถูกล่าจะเจ็บปวดเพียงใด  วันนี้ทางสำนักข่าวทีนิวส์จะพาทุกท่านไปย้อนเหตุการณ์ล่าสัตว์ป่าสงวนในอดีตที่ยังอยู่ในความทรงจำของใครหลายคน ว่าแต่ละครั้งที่มีการล่านั้นจะมีการสูญเสียมากน้อยเพียงใด

 

 

       ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2516  เกิดคดีใหญ่ที่กลายมาเป็นอีกหน้าประวัติศาสตร์ของไทย หลังเจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุเฮลิคอปเตอร์ของทางราชการตก ในพื้นที่ อ.บางเลน จ.นครปฐม หลังเข้าตรวจสอบพบร่างผู้เสียชีวิต 6 ราย ติดอยู่ในซากเฮลิคอปเตอร์ ทั้งนี้ยังพบซากสัตว์ป่าอีกหลายชนิด โดยเฉพาะซากของกระทิงป่า สัตว์สงวนหายากในตอนนั้น เจ้าหน้าที่จึงสันนิษฐานว่าอาจเป็นกลุ่มของพรานป่าที่แอบเข้ามาล่าสัตว์ จนนำไปสู่การออกหนังสือ "บันทึกลับจากทุ่งใหญ่" จัดทำขึ้นโดยนักศึกษา เพื่อเปิดโปงขบวนการล่าสัตว์ในเขตพื้นที่ทุ่งใหญ่นเรศวร จ. กาญจนบุรี  

 

      ทั้งยังมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่เข้าไปเกี่ยวข้อง แต่แล้วทางจอมพลถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรี ในตอนนั้น ได้ออกมากล่าวถึงเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตก ว่าเฮลิคอปเตอร์ ลำดังกล่าวไม่ได้เข้ามาล่าสัตว์แต่บินมาทำภารกิจลับทางราชการ เพื่อรักษาความปลอดภัยให้นายพลเนวิน ประธานสภาปฎิวัติแห่งประเทศพม่า ขณะเดินทางมาเยือนประเทศไทย จากเหตุของคำชี้แจ้งนี้เองเป็นแรงผลักดันให้เกิดเหตุการณ์ครั้งใหญ่ 14 ตุลาคม จากชนวนความไม่พอใจของประชาชน

 

 

     ถัดมากับอีกเหตุการณ์เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2538 เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าได้รับแจ้งเหตุมีขบวนการล่าสัตว์ลักลอบเข้าไปในเขตพื้นที่ทุ่งใหญ่นเรศวร บริเวณห้วยเซซาโว่ จากการบุกเข้าไปตรวจสอบพบนายพรานป่า 14 คน พร้อมอุปกรณ์ทำครัวอีกจำนวนหนึ่ง ทั้งยังมีหลักฐานเป็นต้มยำเครื่องในสัตว์ เนื้อเก้ง และอาวุธปืนอีก 2 กระบอก ถูกชำแหละอยู่ในถังน้ำแข็งขนาดใหญ่ นอกจากนี้เมื่อตรวจสอบประวัติของนายพรานทั้ง 14 คน พบว่ามีข้าราชการครู ระดับซี 8 เข้ามาเกี่ยวข้องในเหตุการณ์นี้ด้วย ทั้งยังอยู่ในโรงเรียนดัง จ.กาญจนบุรี เป็นผู้นำขบวนล่าสัตว์ป่าสงวนในครั้งนี้

 

 

 

     ต่อมาเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2552 หลังหัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติทับลานที่ 11 (ไทยสามัคคี) อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา พร้อมกำลังของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า บุกเข้าจับกุมแก๊งนายพรานลักลอบเข้าล่าสัตว์ป่าสงวน 2 คน คือนายสุขะชัย  ศุภศิริ หัวหน้ากลุ่มงานสาระการเรียนรู้สุขศึกษา และพลศึกษา ร.ร.สวนกุหลาบวิทยาลัย และนายศินพ บุตรเนียน ผู้รับเหมาก่อสร้าง ในพื้นที่ป่าโป่งเกต แนวรอยต่อ อ.ครบุรี - อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา พร้อมหลักฐานเป็นซากเลียงผาเพศผู้ ซากไก่ป่า และอาวุธปืน พร้อมกระสุนอีกจำนวนหนึ่ง  

     ทั้งนี้นายสุขะชัย นั้นยอมรับว่าได้เข้าป่าจริง แต่ไม่ได้มาเพื่อล่าสัตว์แต่อย่างใด  เพียงแต่มาตั้งแคมป์กับศิษย์เก่าที่จบไปนานแล้วแค่นั้น โดยยืนยันว่าไม่ทราบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าสงวนและซากสัตว์ที่เจอนั้นเป็นเพียงซากที่เก็บมาระหว่างทาง

 

     อีกหนึ่งกรณีย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2555  เจ้าหน้าที่จับกุมขบวนการล่าสัตว์ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี พบผู้ล่าสัตว์จำนวน 9 คน โดยหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการครั้งนี้มี พ.ต.ท.อดีตสารวัตรสืบสวน สภ.ปราณบุรี (ไม่เปิดเผยชื่อ) รวมอยู่ด้วย จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบซากสัตว์ป่าสงวนได้แก่ ซากตะพาบน้ำ จำนวน 2 ขา บริเวณใกล้เคียงพบซากสัตว์ - ขนเม่น - ขนกระจง พร้อมเนื้อ-ขากบทูด (กบภูเขา) กว่า 100 ตัว  รอบกองไฟมีซากเม่นและขนกระจงและกบทูดอีกจำนวนหนึ่งและยังพบหลักฐานเป็นรูปถ่ายขณะกำลังตั้งแคมป์พร้อมนำสัตว์มาปรุงอาหาร 

      ในตอนแรกนั้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สั่งฟ้อง พ.ต.ท.อดีตสารวัตรสืบสวน จนต้องมีการเปลี่ยนพนักงานสอบสวน สุดท้ายที่ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก พ.ต.ท. จำนวน 10 เดือน ส่วนผู้ร่วมขบวนการได้รับโทษลดหลั่นกันไปในคดีนี้

 

 

     อีกหนึ่งคดีหากไม่เอ่ยถึงคงไม่ได้กับเหตุการณ์เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 หลังเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์สัตว์ป่ามหาราช เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ณเรศวรด้านตะวันตก นำกำลังเข้าจับกุม CEO บริษัทก่อสร้างยักษ์ใหญ่ บริษัท อิตาเลียน ไทยดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวกรวม 4 คน ลักลอบเข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสงวนทุ่งใหญ่ณเรศวรด้านตะวันตก จ.กาญจนบุรี เมื่อคืนวันที่ 3 กุมภาพันธ์  2561 หลังการจับกุมนายเปรมชัยปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าตนพร้อมพวกอีก 4 คน เพียงแค่เดินทางมาท่องเที่ยวในเส้นทางเขตทุ่งใหญ่เท่านั้น 

     ด้านหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบในจุดเกิดเหตุพบซากไก่ฟ้าหลังเทาและเนื้อเก้งอีกจำนวนหนึ่ง ทั้งซากของเสือดำถูกชำแหละเนื้อ หนัง ถือเป็นหลักฐานสำคัญในคดีนี้ ในแคมป์ยังพบกระสุนปืน พร้อมอาวุธอีกจำนวนมากซุกซ่อนไว้ โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายเปรมชัยและพวกส่งดำเนินคดี ยังสภ.ทองผาภูมิ และอยู่ในกระบวนการยุติธรรมต่อไป 

 

 

     คดีของนายเปรมชัย ถือเป็นคดีที่หลายฝ่ายจับตามองเป็นอย่างมากโดยเฉพาะชาวเน็ตที่ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้เสือดำ จนเกิดเป็นวลีฮิต "เสือดำต้องไม่ตายฟรี" ขึ้นมาและเป็นกระแสอย่างต่อเนื่องจนเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมากระแสเริ่มจางหายไปจนเรื่องเงียบไปพักใหญ่ จนมาเกิดเหตุขบวนรถออฟโรดลักลอบล่าหมีขอ ขึ้น จึงกลายเป็นประเด็นที่ต้องจับตามองกันอีกครั้งกับกระบวนการยุติธรรมในประเทศว่าจะเอาผิด นักล่าในคราบผู้มีอิทธิพลได้หรือไม่เป็นเรื่องที่หลายฝ่ายจับจ้องอยู่ส่วนในกระแสตอนนี้ชาวเน็ตได้ตั้งวลีฮิตขึ้นใหม่หลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้นโดยกล่าวว่า "เสือดำต้องไม่ตายฟรี หมีขอต้องไม่ตายเปล่า" จนติดเป็นกระแสของชาวเน็ตในตอนนี้ ยังคงต้องจับตาต่อไปว่าทั้ง 2 คดีล่าสัตว์ใหญ่จะเป็นไปในทิศทางใด เป็นเรื่องที่หลายฝ่ายให้ความสนใจและจับตามอง

 

ขอคุณข้อมูล js100 ,  พันทิป