- 14 ต.ค. 2561
หนุ่มแชร์ประสบการณ์ บอกหมดหลังป่วยซึมเศร้านานนับปี ต้องเจออะไรมาบ้าง เริ่มรักษายังไง?
หลายคนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับโรคซึมเศร้า ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่บางครั้ง คนเป็นโรคนี้อาจจะไม่รู้ตัว ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อมันเกิดขึ้นมาแล้ว ต้องเร่งหาทางแก้ไข และรับการรักษา บางคนรักษาไม่ทันท่วงที อาจจะต้องสูญเสียชีวิตก็เคยปรากฎเป็นข่าวมาแล้ว
ล่าสุดได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Warawoot Watookjai ได้เล่าเรื่องราวของตนเองที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามานานถึง 1 ปี ยอมรับและแก้ไขปัญหาด้วยการพบแพทย์ และรักษามาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีบางครั้งที่เจอเรื่องราวต่างๆ มากระทบจิตใจและทำให้อาการกลับมาแย่อีก โดยเจ้าตัวเล่าว่า
"1 ปีกับโรคซึมเศร้าของฉัน หมอบอกว่าโรคซึมเศร้าเกิดจากสารเคมีในสมองหลั่งสารไม่เท่ากัน อาจเกิดจากนิสัย กรรมพันธุ์ สภาพแวดล้อมด้วย นี่ว่าที่ตัวเองเป็นเกิดจากนิสัยตัวเองแล้วก็เรื่องที่ผิดหวังหลายๆ อย่างทั้งเรื่องความรัก เรียน งาน บลาๆ มันจะอยู่แต่กับเรื่องด้านลบๆ เป็นแบบนี้มาเรื่อยๆ จนค่อยๆหนักขึ้น
คือพอมันมีอาการมันจะคอนโทรลความคิดของเราไม่ได้นะว่าต้องหยุดอย่าไปคิดมันหรือห้ามดาวน์ คนที่เป็นไม่ใช่เพราะเค้าอ่อนแอหรือปล่อยวางอะไรไม่ได้ เวลามันมีอาการไอความคิดเรื่องเศร้าๆ เรื่องลบๆ คืออยู่ดีๆ ก็ผุดขึ้นมาให้เราคิดเอง เหนื่อยที่สุดก็ตอนที่ต้องมาสู้กับตัวเองทุกครั้งเวลาดาวน์ ดาวน์ละยังไง คือทุกอย่างจะแบบน่าเบื่อ รู้สึกแย่ไม่โอเคสักอย่าง อยากนอนอย่างเดียว ไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น เคยคิดจนปวดหัวมากๆ ละนอนไม่ได้ พยายามนอนหลับตา แต่สมองก็ยังทำงานยังคิดเหมือนเดิม ความรู้สึกตอนนั้นมันหนักหัวมาก อารมณ์เหมือนมีหินทับหัวจริงๆ เวลาที่ดาวน์มากๆ ทำไงดี บางคนทำร้ายตัวเองใช่ปะ
เราเข้าใจว่าการที่ทำร้ายตัวเองมันก็ช่วยให้เราเจ็บที่อื่นแทนสิ่งที่เรากำลังเจ็บอยู่ตอนนั้น เคยแค่เอาเล็บจิกที่แขนที่ขาตัวเองแรงๆ แค่นั้นให้มันเจ็บที่สุด มันก็ช่วยได้นิดหน่อย เคยคิดเรื่องอยากตายไหม คนที่เป็นโรคซึมเศร้าความคิดนี้ปกติ มันจะผุดมาให้คิดเป็นครั้งๆ ทุกวันนี้ก็ยังคิดอยู่แต่ไม่กล้าทำ ทำไม? คือมันเบื่อตัวเองเบื่อการที่เป็นเรา รู้สึกว่าตีค่าตัวเองต่ำ เวลามองตัวเองในกระจกความรู้สึกแบบทำไมเราไม่ดีพอ โทษตัวเองนั่นนี่
นอยอยู่กับเรื่องเดิมๆ เอาแต่เก็บตัวอยู่แต่ห้องอย่างเดียว ถามว่าทำไมไม่ออกไปนั่นไปนี่จะได้ไม่เศร้า เราไปมาแล้ว แต่เดินสวนกับคนอื่นกลับรู้สึกว่าตัวเองล่องลอย เรามาทำอะไรตรงนี้ รู้สึกตัวเองไร้ค่ามาเฉยๆ คิดว่าเราเคยมีความสุขมากกว่านี้ แต่ตอนนี้มันตรงข้ามกัน ทุกอย่างมันน่าเบื่อไปหมด ตอนที่มีอาการช่วงแรกก็เอาแต่เก็บตัวนอนอย่างเดียว ไม่อยากออกไปเจอใคร คุยกับใคร ไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น คิดว่าการที่เรานอนทำให้เวลาผ่านไปเร็วขึ้น เก็บตัวไม่อยากยุ่งกับใคร อยากอยู่กับตัวเอง แต่ไม่เบื่ออาหารเหมือนคนอื่นนะแต่กลับกินเยอะเฉย เพราะเวลาเบื่อเซ็งๆก็ไปลงที่อาหาร กินๆ ละก็นอน น้ำหนักตอนนั้นจาก 63 ขึ้นไป 76 โลจ้า
คือจนรู้ตัวเองแล้วว่าตัวเองเป็นซึมเศร้าชัวร์เลยไปหาหมอ หมอก็จ่ายยามากิน ตอนนั้นครั้งแรกได้ sertraline กับยานอนหลับ ละก็ปรับยาขึ้นเป็น setraline กับ remeron หมอสั่งต้องกินยาให้สม่ำเสมอเพราะยาคือตัวช่วยปรับสารเคมีในสมองนั่นนี่ นี่กินมาปีหนึ่งแล้ว ไปหาหมอทุกเดือนเวลาหมอนัด ก็ทำตามที่หมอบอก จนช่วงนึงที่ดีขึ้นจนคิดว่าตัวเองดีขึ้นแล้ว อยากหยุดยาเลยหยุดยาเองไปสองเดือนละไม่ไปหาหมอ สุดท้ายอาการดาวน์กลับมาอีกครั้ง ต้องกลับไปหาหมอใหม่แล้วก็เริ่มเทคใหม่อีกครั้งตอนนี้ก็ยังมีอาการอยู่เรื่อยๆ"
ภาพจากเฟซบุ๊ก : Warawoot Watookjai
ซึ่งหลังจากเรื่องราวดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ลงบนโลกออนไลน์ ต่างก็มีผู้คนเข้ามาให้กำลังใจและแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก หลายคนไม่แน่ใจ ว่าตนเองจะเป็นโรคดังกล่าวหรือไม่ ต่างก็ขอคำแนะนำในการหาหมอ และถือเป็นอุทาหรณ์ที่เตือนสติหลายๆ คนได้ว่า โรคซึมเศร้าไม่ใช่ว่าบังคับให้เข้มแข็งแล้วจะหาย ต้องมีการพบแพยท์ รักษาจริงจัง ทานยาต่อเนื่อง ถือเป็นเรื่องใกล้ตัว เพราะทุกวันนี้คนเรามักเจอแต่เรื่องเครียดๆ จนบางครั้งไม่ทันได้ให้เวลากับตัวเอง พอรู้ตัวอีกที อาการอาจจะหนัก จนแก้ไขไม่ทัน
ขอบคุณเฟซบุ๊ก : Warawoot Watookjai