- 18 ต.ค. 2561
น้ำตาจากชุดขาว ชาตินี้เลยได้ไหม 3 ข้อขอให้"น้องดา"พยายาบาลสาวบุรีรัมย์ โดน"ผู้กอง"เมาขับรถชนเสียชีวิต
จากกรณี ร.ต.อ.เดชา เปรียบสม รองสารวัตรปราบปราม สภ. ประโคนชัย ขับรถรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ชนเข้ากับรถพยาบาล ของโรงพยาบาลประโคนชัย พลิกคว่ำจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 คน และเสียชีวิต 1 ราย คือ น.ส.สุดารัตน์ เชื้อมาก อายุ 25 ปี ขณะที่ ร.ต.อ. ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
ทางด้านพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวเบื้องต้น 3 ข้อหา ประกอบด้วย ฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และทำให้ทรัพย์สินเสียหาย , ขับรถโดยไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และขับรถขณะมึนเมาสุรา พร้อมกำลังดำเนินการสอบปากคำผู้ต้องหาเพิ่มเติม
ต่อมาครอบครัว น.ส.สุดารัตน์ เชื่อมาก หรือน้องดา ได้นำร่างน้องดากลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านมะขามเจรอะ ต.จันดุม อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว โดยเฉพาะนายเจีย เชื่อมาก ผู้เป็นพ่อยังทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียลูกสาวอันเป็นที่รักไปอย่างกะทันหัน และไม่คาดคิดว่าลูกสาวจะมาจากไปรวดเร็วขนาดนี้
ขณะที่บรรยากาศภายในงานก็ได้มีญาติพี่น้อง และเพื่อนร่วมวิชาชีพ ทยอยเดินทางมาเคารพศพและแสดงความอาลัยอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ผู้บริหารในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ก็ได้ส่งพวงหรีดมาร่วมแสดงความอาลัยด้วยเช่นกัน
ล่าสุดเฟซบุ๊กผู้ใช้ชื่อว่า Mali Narak ซึ่งเป็นเฟซบุ๊กส่วนตัวของพยาบาลประจำโรงพยาบาลบ้านกรวด ได้ออกมาโพสต์ชื่นชมการทำงานของน้องดา พร้อมเรียกร้องสวัสดิการที่น้องดาควรได้รับ โดยระบุข้อความดังนี้ "
ขอพูดในฐานะที่เป็นพยาบาลประจำการห้องอุบัติเหตุ ที่มีภาระหน้าที่ เสี่ยงมากถึงมากที่สุดค่ะยังไงER ก็ด่านหน้า เจ็บป่วยฉุกเฉิน อุบัติเหตุ เข้าERทะเลาวิวาท ไล่ตี ไล่ฟัน เอาคืนคู่ อริ ก็ที่ER นอกเวลา ราชการ คือจุดรวมพล ของผู้ป่วยที่เข้ามารอรักษา ทุกประเภทออกรับผู้ป่วยฉุกเฉินและอุบัติเหตุ ด้วยระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน เสี่ยงที่โดยสารและเดินทางบนท้องถนน มืดดึกดืนแค่ไหน ก็ต้องไปเพราะหน้าที่ ส่งต่อผู้ป่วย ตลอด 24 ชม เพราะเขาให้ยึด ผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง ไม่มีเจ้าหน้าที่พยาบาลไป ส่งต่อแต่ต้องหาให้ได้ เครียดไหม เสี่ยงไหม ในการเดินทางต้องดูแล แก้ไขอาการเพื่อให้ถึงเป้าหมายคือปลอดภัยแล้วตัวเจ้าหน้าที่ พยาบาลละ ความปลอดภัยอยู่ที่ไหน
มาตรการขับรถไม่เกิน 90km เป็นเพียงส่วนหนึ่งในการแก้ที่เราต้องระวัง แต่สภาพรถAmbulanceที่ประเทศไทยใช้อยู่มันเหมาะสมไหมในการทำงาน งานวิจัยวิเคราะห์แล้วว่าไม่เหมาะทำไหมยัง สั่งมาใช้อยู่เรื่อยๆ ระบบภายในวิเคราะห์จัง แต่ไม่ปรับใช้ให้เกิดความปลอดภัยเสียที จะให้พยาบาลนั่งคาดเบลล์แล้วตอนที่ลุกวัดสัญญานชีพ CPR อื่นๆอีกละ จะให้ฉันระวังอย่างไร ถ้าฉันปฏิเสธไม่ไปรีเฟอร์ ฉันมีความผิดไหม เหตุผลเพราะ ฉันเสี่ยงเหลือเกิน กลัวตาย กลัวพิการ พูดได้ไหม คำพวกนี่นะ
"เสียงเพรียกจากสวรรค์"
กรณีน้องพยาบาล จาก รพสต.เขาคอก อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ชื่นชมน้องจากการมีโอกาสได้เห็นลักษณะการทำงานของน้อง เขียนใบส่งต่อ ผู้ป่วยมารักษาต่อ ที่รพ. ลายมือสวยอ่านง่ายที่สำคัญเขามีความรู้ ทักษะวิชาชีพที่ดีมากจนอยากให้มาตัวอย่างที่ดี ในการเขียน และการทำงาน
จบมาทำงานได้เพียงปี เศษๆ ยังไม่ได้บรรจุ สวัสดิการก็ยังไม่มี ขวนขวยหางานพิเศษ เพื่อสร้างรายได้ สร้างฐานะ ทดแทนพระคุณบิดาที่ส่งเล่าเรียน และดูแลครอบครัว ต้องมายุติชีวิตด้วยเหตุการณ์สะเทือนใจ กราบเลยค่ะขอแค่
3 ข้อนี้ให้เกิดในชาตินี้เลยได้ไหม
1.น้องตายในหน้าที่ ขอปูนบำเน็จเป็นชำนาญการพิเศษเลยได้ไหม (ถึงพวกพี่ๆจะรอขึ้นชำนาญการนานเป็นพิเศษ มาน้าน นานแล้วก็ตาม)
2.เงินทดแทน เป็นสวัสดิการ คือ เงินเดือนสุดท้ายที่ได้รับ× อายุราชการที่จะเกษียร มอบให้เป็นก้อนไปเลยค่ะ
3.ธงชาติคลุม เป็นเกียรติประวัติแก่วงตระกูล เชิดชูคุณงามความดี เหรียญกล้าหาญขอได้ไหม (เขาจิตอาสามาดูแลผู้ป่วย กล้าหาญ นั่งโดยสารและเดินทางมากับผู้ป่วยเป้าหมายคือส่งผู้ป่วยถึง รพ.ต้นทางอย่างปลอดภัย ทุ่มเท เสียสละขนาดนี้ จิตใจงดงามนะคะ)
ขอเพียงเท่านี้ได้ไหม กับหนึ่งชีวิตที่ต้องสูญเสีย แต่ความเป็นจริงที่ทำณ.ตอนนี้ คือการร่วมอนุโมทนาบุญที่คอยไหลมา แบบรวยระรินของ สมาชิกในวิชาชีพคนอยู่ข้างหลังเขาจะดำเนินชีวิตไปแบบไหนเมื่อขาดสมาชิกครอบครัวที่กำลังก่อร่างสร้างตัว สร้างฐานะหวังการมีชีวิตครอบครัวที่ดีขึ้น ความสุข อบอุ่น กลับต้องมลายหายวับไปกับเหตุการณ์สะเทือนใจ จากความประมาทของคนที่ไม่มีจิตสำนึก.. ใครจะมาเรียกร้องสิทธิให้น้องละ ถ้าไม่ใช้กลุ่มพวกเราๆวิชาชีพเดียวกัน ต้องทำในขณะที่ยังมีลมหายใจละค่ะ เพราะเราไม่รู้ว่า หากวันหนึ่งเราไม่หายใจ จะมีใครมาเรียกร้องสิทธิ ตรงนี้ให้เราไหม.... รักและอาลัย #สุดารัตน์ เชื่อมาก #เศร้านะ
ขอบคุณที่มาเฟซบุ๊ก Mali Narak