- 02 พ.ย. 2561
ฟ้าหลังฝน "ยิ่งยง" นักร้องลูกทุ่งดัง เปิดใจ..ชีวิตผ่านมรสุมใหญ่ สู้คดีฉ้อโกงจนรอดคุก 20 ปี
กลายเป็นข่าวโด่งดังเมื่อช่วงต้นปี 2561 ที่ผ่านมา เมื่อนักร้องลูกทุ่ง ยิ่งยง ยอดบัวงาม ถูกศาลจังหวัดมีนบุรี พิพากษาตัดสินลงโทษจำคุก พร้อมพวก คนละ 20 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในคดีทำธุรกิจฉ้อโกงประชาชน ภายใต้ชื่อบริษัท แทนคุณแผ่นดินสยาม ซึ่งก่อนหน้านี้ศาลอนุญาตให้ประกันตัวแล้ว พร้อมยื่นเงื่อนไขสั่งห้ามออกนอกประเทศ และต้องรายงานตัวต่อศาลตามที่กำหนด
โดยในครั้งนั้นลูกสาวของยิ่งยง ก็ได้โพสต์รูปที่ถ่ายคู่กับยิ่งยงผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว พร้อมกับข้อความให้กำลังใจว่า สู้ ๆ นะคะปาป๊า วันนี้มันอาจจะไม่ใช่วันของเรา หนูรู้ว่าป๊าคงเหนื่อย แต่หนูเชื่อว่าป๊าจะผ่านมันไปได้ ป๊าหนูเก่งที่สุด หนูและทุกคนเป็นกำลังใจให้อยู่ตรงนี้ รักนะคะ ซึ่งก็มีแฟนคลับเข้ามาให้กำลังใจ เพราะเข้าใจความรู้สึกของลูกที่เป็นห่วงพ่อ และบางส่วนมองว่า เป็นห่วงพ่อตัวเองไม่ผิด แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง หากทำผิดกฎหมาย ก็ต้องให้กฎหมายตัดสินต่อไป
ก่อนหน้านี้ยิ่งยง พร้อมภรรยา ได้ออกมาเปิดใจเป็นครั้งแรกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังถูกพิพากษาจำคุก 20 ปีในคดีฉ้อโกง ผ่านรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง one31 ว่าตนเองนั้นเครียดมาก ถึงขั้นจะหนีไปบวช
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : บีบหัวใจเหลือเกิน!! ลูกสาว "ยิ่งยง" ฝากข้อความซึ้งถึงคนเป็นพ่อ หลังเจอมรสุมใหญ่ปมธุรกิจฉ้อโกง งานนี้สะอื้นน้ำตาแตก พ่อใคร..ใครก็รัก!?
ล่าสุดยิ่งยง ยอดบัวงาม ได้ควงภรรยาคนสวย ทิพย์ มณฑาทิพย์ มาเปิดใจถึงเรื่องนี้อีกครั้งผ่านทาง รายการคุยแซ่บ Show ทางช่องone31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์, ธัญญ่า ธัญญาเรศ และเป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกร ซึ่งตอนนี้เจ้าตัวรอดจากการตัดสินจำคุก 20 ปีแล้ว
รอดคุก 20 ปี หลังสู้คดีฉ้อโกง เรื่องราวเป็นยังไง เล่าให้ฟังหน่อย?
ยิ่งยง : "โอ้โห ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่เราคิดไม่ถึง คือจริงๆ แล้วในเรื่องของการทำงานที่บริษัทปุ๋ยเนี่ย ตอนแรกเลยคือทางบริษัทนำเสนอให้เราเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อที่จะนำสินค้าของเขามาขายให้ ทำไปทำมาทางบริษัทเองมองในอีกมุมหนึ่งว่า ถ้าเกิดพี่ยิ่งยงเป็นพรีเซนเตอร์มันได้เงินแค่นี้ ถ้าอย่างนั้นมารับหุ้นดีกว่า แล้วก็เป็นประธานบริษัท จริงๆ ในส่วนของการทำงานคือเราก็อยากได้เงินเพิ่ม ดังนั้นเราก็เลยตกลงไป คือต้องบอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราเอาความอยากเป็นที่ตั้ง หลังจากนั้นก็เกิดเป็นประเด็นต่างๆ ขึ้นมาที่เกี่ยวกับคดีปุ๋ยครับ"
หลังจากที่เราเซ็นสัญญาไป จนมีเรื่องเกิดขึ้น ใช้เวลานานไหม?
ยิ่งยง : "ประมาณปีครึ่ง ซึ่งเราก็ทำงานมาเรื่อยๆ นะ หลังจากนั้นก็มีเรื่องราวเกิดขึ้น"
ทิพย์ : "แต่จริงๆ แล้ว บริษัทที่เกิดเรื่องไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรา เป็นบริษัทตัวแทนขายปุ๋ยอีกที่นึงที่ถึงเวลากำหนดไม่ได้คืนเงินเขา เขาก็เลยฟ้องร้อง แต่พอศาลตัดสิน ก็เลยกลายเป็นว่าเราร่วมกันฉ้อโกงจริงๆ แล้วเราไม่ได้เกี่ยวข้อง คือเป็นการร่วมกันโดยใช้ชื่อเสียงของพี่ยิ่งยง เหมือนกับว่าคนมาซื้อปุ๋ยจากเราเพราะเชื่อถือพี่ยิ่งยงอะไรประมาณนี้"
ค่าตัวในส่วนของพรีเซ็นเตอร์ตอนนี้ได้ครบแล้วหรือยัง?
ทิพย์ : "เราได้รับมาแค่ค่าพรีเซ็นเตอร์ 800,000 บาท แล้วที่เหลือก็จะเป็นหุ้นไป ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ของพี่ทิพย์จะเป็น 5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งยังไม่ได้รับเงิน พอดีว่ามันเกิดเรื่องซะก่อนเงินก็เลยไม่ได้"
ครั้งแรกที่เกิดเรื่องขึ้น รู้สึกยังไงบ้าง?
ยิ่งยง : "หลังจากฟังคำตัดสิน ก็รู้สึกช็อกไปเลยครับ พอคำตัดสินเสร็จเรียบร้อยเราก็ไปนั่งอยู่ข้างล่าง น้องๆ สองคนก็ถามว่า โกรธผมไหม? ผมก็บอกว่า "ไม่ พี่ไม่ได้โกรธน้องหรือว่าโกรธใครทั้งนั้น เราแค่โกรธตัวเอง" แล้วอีกอย่างนึงที่เครียดมาก เหมือนกับเราไปหาหมอไปตรวจเช็คร่างกายแล้วหมอบอกว่ารอสักครู่นะเดี๋ยวจะเช็คให้ แล้วหมอบอกเป็นมะเร็ง ความรู้สึกมันเหมือนเป็นแบบนั้นเลย เราก็เครียดไม่รู้จะทำยังไงต่อไป แต่ว่าหลังจากนั้นก็ได้รับการประกันตัวออกมา เราก็กลับมาคิด แล้วก็พยายามอยู่กับมันให้ได้ ถ้าเกิดว่าเราเอาความทุกข์เข้ามาอยู่ในใจ เราก็จะทำอะไรไม่ได้ มันจะเครียดตลอดเวลา ทำงานก็ไม่ได้ ถ่ายละครก็ไม่ได้ ช่างมันเถอะอะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดไป คือต้องปล่อยวางครับ"
เคยคิดไหมว่าตัวเองจะต้องมาเจอเรื่องแบบนี้?
ยิ่งยง : "ไม่เคยคิดเลยครับ ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องเจอมามรสุมชีวิต ในเรื่องการโกง คือจากเด็กคนหนึ่งที่มาอยู่กรุงเทพฯ หวังที่จะเป็นศิลปิน ได้เป็นศิลปินดัง แต่อยู่ๆ เรื่องราวก็มาพลิก แต่ก็ไม่เป็นไรนะ ก่อนอื่นก็ต้องขอขอบคุณศาลนะครับ ที่ได้เมตตาให้โอกาสเรา ลดโทษให้ คิดว่าเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับเราในวันนี้ แล้วก็ขอโทษพี่น้องแฟนเพลงที่ทำให้เครียดไปด้วย แล้วก็ขอบคุณด้วยที่อยู่เคียงข้างกันมา"
ทิพย์ : "จริงๆ เรื่องทุกอย่างมันเกิดขึ้นจากพี่นะ เพราะพี่เป็นผู้จัดการ เป็นคนรับงานเข้ามา พี่เป็นคนวางงานให้เขา คือคุณยิ่งยงจะมีหน้าที่แค่ร้องเพลงแล้วก็พูดเรื่องปุ๋ยดียังไงแค่นั้นเอง ทุกสิ่งทุกอย่างพี่จะเป็นคนทำตลอด อยากจะบอกว่า พี่ยิ่งยงบริสุทธิ์ คนไม่ดีคือพี่เอง แต่คือพี่ก็ทำเพื่อครอบครัวนะ แล้วก็นำสิ่งไม่ดีเข้ามาในครอบครัว"
จากประสบการณ์ตรงนี้ทำให้เราได้ข้อคิดอะไรบ้างในการใช้ชีวิต?
ยิ่งยง : "พี่ว่านะทุกคนมีความอยากเกิดขึ้น แต่ถ้าเกิดว่ามีความพอ พอในสิ่งที่เราคิดว่าเราทำได้ดีที่สุด ดังนั้น วันนี้มันเป็นบทเรียนที่มีค่าที่สุดในชีวิตผมว่า การจะทำอะไรแต่ละครั้ง เราต้องรู้ด้วยตัวเอง เราต้องทำด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะทำอะไรก็แล้วแต่ ถ้าไม่ลงมือทำด้วยตัวเอง ความผิดพลาดมันมีโอกาสเกิดขึ้นได้แน่นอน เหมือนกับเรื่องนี้ ถ้าเราได้ลงมือทำด้วยตัวเอง ผมว่าความผิดพลาดมันอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ มันเป็นประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่มากๆ อยากจะบอกทุกๆคนว่า ทำแล้วต้องตึกตรอง มีสติ ว่าเราทำได้ขนาดไหน ความรู้เรามีขนาดไหนอะไรประมาณนี้"
เห็นว่าถึงกับต้องบวชล้างซวยเลยจริงไหม?
ยิ่งยง : "ใช่ครับ ก็บวช 15 วัน ตอนที่บวชไม่ได้คิดอะไรในเรื่องของคดีความเลยไม่ได้มองตรงนั้น บวชเพราะตั้งใจบวช แล้วก็ได้ในสิ่งที่เราเห็นก็คือ ความรู้สึกสบายตัวเบาตัว ความรู้สึกมีพลัง แล้วเราก็ได้ให้โอกาสคนที่กำลังทุกข์เข้ามาหาเรา ตอนนั้นเราเป็นพระใหม่ บางท่านมีปัญหาครอบครัวหรืออะไร มาหาเรา เราก็ให้ความสุขเขาไป ปลดทุกข์ให้เขา ช่วยเขา แล้วก็ได้ช่วยคนเยอะแยะมากมาย ได้ทำตู้รับบริจาค สร้างโรงครัวทำประโยชน์ให้วัด"
ทิพย์ : "คือสมัยก่อนตอนที่เขาร้องเพลงอยู่บนเวที เวลาไปที่วัดเราก็จะไปบริจาคอยู่เรื่อยๆ เขาเป็นคนให้เงินไปนะยกมือสาธุ แล้วก็ให้เราไป แต่ไม่เคยลงไปเอง ทุกวันนี้เราก็ดีใจนะที่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมา บอกด้วยผลดี เขาจะลงไปทุกที่เลย ลงไปแปะทองหรือขับรถหาวัดทำบุญหรืออะไร มันก็ทำให้มีความสุขไปอีกแบบนะ"
มีข่าวว่าเข้าพิธีกรรมบังสกุลเป็น บังสกุลตายด้วยจริงไหม?
ยิ่งยง : "จริงครับ คือเป็นพิธีกรรมหนึ่ง ที่ท่านพระอาจารย์ท่านหนึ่งแนะนำ ซึ่งเราก็เคารพศรัทธา แล้วก็ทำตาม เป็นการสวดมนต์แบบยาวๆ เหมือนเป็นการต่ออายุ ต่อชีวิตให้ดีขึ้น พิธีอันนี้จะทำก่อนที่จะบวชครับ หลังจากบวชเสร็จก็ทำบังสกุลตาย คือการนอนพนมมือหลับตาแล้วก็เอาผ้าขาวคลุม แล้วพระท่านก็สวด เหมือนเป็นการตายแล้วเกิดใหม่อะไรประมาณนี้ ก็จะทำทุกๆ 3 เดือนเป็นการเสริมบุญครับ ตอนนี้ผมก็เลยกลายเป็นสายบุญไปเลยครับ"
เหตุการณ์นี้ลูกๆ ให้กำลังใจยังไงบ้าง?
ยิ่งยง : "ลูกสาวลูกชายก็โพสต์ให้กำลังใจผ่านไอจีแล้วก็บอกว่าดีใจมากที่คุณพ่อได้พ้นจากบ่วงกรรมตรงนี้ครับ มาจนถึงวันนี้ก็ต้องขอขอบคุณทุกกำลังใจนะครับ ขอบคุณคุณทิพย์ที่เป็นพลังให้ตลอดเวลา ขอบคุณพี่ๆ น้องๆ ทุกรายการ นักร้องนักแสดงทุกๆ คน โดยเฉพาะแฟนเพลงนะครับ แล้วก็ขอบคุณศาลอีกครั้งหนึ่งนะครับที่ได้เมตตา วิเคราะห์ ให้ความยุติธรรมกับพวกเราด้วย"
ขอบคุณรายการ : คุยแซ่บโชว์ ช่อง one 31
ขอบคุณ : sanook.com