เปิดประวัติ "จั๊ด ธีมะ" ย้อนเส้นทางจุดเริ่มต้นสู่ผู้ประกาศข่าวแห่งยุค แรงกระเพื่อมของสังคม

 

    จากกรณีเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2561 นายธีมะ กาญจนไพริน หรือ จั๊ด ประกาศยุติการจัดรายการข่าวเช้าตรู่ และข่าวเช้าช่องวัน ทางช่องวัน นับตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย. เป็นต้นไป โดยจั๊ด ได้ให้เหตุผลระบุว่า 

 

    เหตุที่ต้องเปลี่ยนแปลงเวลาอ่านข่าวนั้น เนื่องจากช่องวันกำลังจะเปลี่ยนผังออกอากาศ ตนจึงขอยุติการจัดรายการข่าวเช้าตรู่และข่าวเช้าช่องวัน และรายการนี้ถือเป็นรายการข่าวบนทีวีดิจิตัลรายการแรกของตน พร้อมทิ้งท้ายแสดงความขอบคุณต่อผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้ที่มอบโอกาสรวมถึงผู้ชม อีกทั้งแสดงความเสียใจต่อความผิดพลาดทุกประการ
 

 

ก่อนหน้านี้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่อผู้ประกาศข่าวชื่อดัง จากปมการแสดงความคิดเห็นเรื่องเพลง “ประเทศกูมี” ในรายการฟ้าทะลายโจร และรายการข่าวทางช่องวัน ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะในรายการฟ้าทลายโจรที่แสดงความเห็นว่า ประเทศกูมีไม่ใช่การทำเพลงของเด็กธรรมดา เพราะมีทุนหนุนหลัง และไม่สามารถลบคลิปนี้ออกได้ เพราะมีการใส่ในระบบเทคโนโลยีบล็อกเชน คลิปนี้จะอยู่ในระบบถาวร ทางการไทยลบออกไม่ได้ และมีคนช่วยจากต่างประเทศ และสิ่งที่ตนพูดเป็นเรื่องจริง มีเป็นขบวนการ แตกต่างจากช่องวันที่ดูจะเห็นดีเห็นงามกับเพลงแรพขบถตัวปัญหาเสียอย่างนั้น 

 

    ซึ่งประเด็นเหล่านี้เองทำให้สังคมหันมาให้ความสนใจกับผู้ประกาศข่าวคนนี้อีกครั้ง ด้วยผลงานที่เตะตานำเสนอข่าวสารแบบสอดแทรกมุกตลกทำให้เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์สำหรับผู้ที่ได้เสพข่าวสาร แต่หลายคนคงยังไม่รู้ถึงประวัติเบื้องลึกของหนุ่มคนนี้ที่อยู่ดีๆ กลายมาเป็นผู้ประกาศข่าวได้อย่างไร

 

 

สำหรับ จั๊ด ธีมะ เกิดเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2525 ที่ย่านพรานนก เขตบางกอกน้อย จบการศึกษาจาก โรงเรียนมารดานุเคราะห์, โรงเรียนโฆษิตสโมสร, โรงเรียนทวีธาภิเศก, โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา (ศิลป์-ภาษาฝรั่งเศส) และคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (เอกสื่อสารการแสดง)

 

เป็นดีเจ พิธีกรรายการโทรทัศน์ และนักแสดงชาวไทย โด่งดังจากตำแหน่งพิธีกรข่าวช่องวัน 31 โดยยึดหลักการทำงาน "เล่าเรื่องยากให้เข้าใจง่าย เล่าเรื่องง่ายให้มีมุมคิด เล่าเรื่องไกลชีวิตให้ใกล้ตัว เรื่องชั่วต้องโจมตี เรื่องคนดีต้องสรรเสริญ" แรกเริ่มชื่อเสียงของเขาเป็นที่รู้จักจากการวิพากษ์วิจารณ์การบริหารจัดการน้ำท่วมของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในเหตุการณ์มหาอุทกภัย ปี 2554 ผ่านรายการเล่าข่าวทาง 90 สบาย เอฟเอ็ม ในสังกัด พีดี เรดิโอ จนได้รับฉายาว่า "จั๊ด จัดหนัก" แต่ด้วยเอกลักษณ์การนำเสนออย่างตรงไปตรงมาทำให้มีอันต้องถูกปลดออกจากรายการ ต่อมาด้วยความสามารถอย่างหาตัวจับได้ยาก จึงได้รับการทาบทาม ให้มาเป็นผู้ดำเนินรายการ ฟ้าทะลายโจร ควบคู่กับรายการ เศรษฐกิจ เศรษฐกรณ์  ทางช่องวันฟ้าใหม่
 

    ต่อมาในปี 2556 จั๊ดเริ่มเข้าสู่เส้นทางการเมืองครั้งแรกด้วยตำแหน่งโฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร จนเข้าสู่ช่วงวิกฤติการณ์การเมืองในม็อบ กปปส. จั๊ดได้ขึ้นกล่าวปราศรัยตามเวที ไม่เพียงเท่านั้นจั๊ดได้ทำรายการบันเทิง GANG'MENT ทางช่องจีทีเอชออนแอร์ จากการชักชวนของรุ่นพี่มหาวิทยาลัย ภายหลังช่องจีทีเอชออนแอร์ปิดตัวลง แต่จั๊ดก็ยังคงทำหน้าที่เป็นพิธีกรรายการ 7 วันทันข่าวต่อไป จนปิดตัวลงในปี 2559 
 

    เดือน มิ.ย. 2559 จั๊ดเป็นผู้ช่วยฟื้นฟูรายการข่าวภาคเช้าทาง ช่องวัน 31 ในชื่อรายการ ตื่นแต่เช้า เป็นพิธีกรคู่กับ เอกพร ศรีสุขทวีรัตน์ ต่อมารายการได้เปลี่ยนชื่อเป็น ข่าวเช้าช่องวัน และยังได้จัดรายการข่าวเย็นร่วมกับ พีระวัฒน์ อัฐนาค รวมไปถึงผู้ประกาศเพียงคนเดียวในข่าววันศุกร์ และในปี พ.ศ. 2560 ธีมะได้เข้าร่วมเป็นพิธีกรรายการข่าว HEADLINE TODAY บนเว็บไซต์ไลน์ทีวี จัดรายการร่วมกับ เอกพร ศรีสุขทวีรัตน์ และ พิชาพัฒน์ รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ นอกจากนี้ด้านผลงานโทรทัศน์ จั๊ดเคยแสดงละครเรื่อง ชายไม่จริง หญิงแท้ ,ล่า ,เลือดข้น คนจาง และสุภาพบุรุษมงกุฎเพชร ในบทดารารับเชิญ และภาพยนตร์ล่าสุดเรื่อง รักสุดทีน ปี 2555

 

 

    เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2561 หลังจั๊ด ประกาศอำลา "ฟ้าทะลายโจร" ด้วยการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่าเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต พร้อมรำลึกความหลัง จากเคยเป็นเพียงคนตกงานสั่งสมประสบการณ์ทั้งการวิเคราะห์และประกาศข่าวไต่เต้ามาอยู่บนจุดที่ได้รับการยอมรับ พร้อมข้อความชวนขบคิดที่กล่าวว่า ไม่มีความเป็นกลางในวงการสื่อสารมวลชน บรรณาธิการ ผู้ประกาศ รวมไปถึงทีมข่าวทุกคนต่างก็มีฝั่งฟากทางการเมืองที่รักในใจ และพร้อมจะใช้ทุกโอกาสที่มีในการสอดแทรกข่าวที่ส่งผลบวกต่อขั้วที่ตัวชอบ และข่าวที่ส่งผลลบต่อขั้วที่ตัวเกลียด
 

    ซึ่งตนนั้นไม่ได้นิยมพรรคการเมืองหรือระบอบการปกครองแบบใดแบบหนึ่ง หากแต่นิยมในตัวปัจเจกบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ มีนโยบายที่เน้นการสร้างวินัยไม่ใช่ตามใจฐานเสียง มีจิตสาธารณะ ทำงานเพื่อชาติตลอดเวลาแม้ในยามที่ไม่มีอำนาจหรืองบประมาณ ที่สำคัญคือไม่ทุจริต เป็นการแสดงจุดยืนและอุดมการณ์ของจั๊ด ต่อสถานการณ์การเมืองไทย  

 

    อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าการนำเสนอข่าวของจั๊ดที่กลายเป็นประเด็นร้อนแรงจะมีนัยยะหรือเป็นเพราะเหตุใด คงไม่มีใครทราบได้ดีไปกว่าเจ้าตัว แต่ผลงานของชายผู้หนึ่งที่ประสบความสำเร็จในเส้นทางของสื่อมวลชนก็ถือควรนำมาเป็นแบบอย่าง พร้อมกับความผิดพลาดที่ควรนำมาเรียนรู้เพื่อใช้เป็นบทเรียนต่อไป