“บิ๊กตู่" สั่งแก้ราคายางตกต่ำใน 7 วัน ขณะ ครม.ไฟเขียว 4 มาตรการช่วยราคาปาล์ม 

 

“บิ๊กตู่" สั่งกระทรวงเกษตรฯ แก้ราคายางตกต่ำใน 7 วัน ขณะ ครม.ไฟเขียวเข็น 4 มาตรการอุ้มราคาปาล์ม 

 

วันนี้ (13 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ผ่านมา ที่ทำเนียบรัฐบาล "นายพุทธิพงษ์ ปุณณกัณต์" รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า  กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานในที่ประชุม ครม. ถึงกรณีการแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมัน  ซึ่งปกติแล้วการเก็บสต็อกปาล์มจะต้องอยู่ที่ 3 แสนตัน แต่ปัจจุบันมีในสต็อก 4.5 แสนตัน โดยมี 4 ขั้นตอนหลักในการแก้ไขปัญหา ได้แก่ 

1.การปรับการเก็บสต็อกปาล์มน้ำมัน โดยประสานงานกับกระทรวงพลังงานให้นำน้ำมันปาล์มดิบไปผลิตกระแสไฟฟ้าในโรงงานไฟฟ้าที่มีศักยภาพ ที่ใช้ปาล์มมากถึง 160,000 ตัน โดยจะเป็นการลดสต็อกปาล์มภายในประเทศ  

 

2.ขยายเวลาส่งออกปาล์มออกไปอีก 6 เดือนจากที่สิ้นสุดในเดือน พ.ย. 2561 จะไปสิ้นสุดในเดือน พ.ค. 2562  

3. จะเพิ่มอัตราส่วนปาล์มจาก 6.5 เปอร์เซ็นต์ เป็น 7.0 เปอร์เซ็นต์ ในการผลิตน้ำมันดีเซล นอกจากนี้ ยังให้กระทรวงพลังงานผลักดันให้รถบรรทุก ใช้น้ำมันดีเซลบี 20 มากยิ่งขึ้น จากที่เคยตั้งเป้าใช้ประมาณ10 ล้านลิตรต่อปี แต่มีการใช้เพียง 4 ล้านลิตรเท่านั้น 

และ 4.พยายามเร่งเจรจา ส่งออกปาล์มไปยังประเทศสเปน ให้เสร็จสิ้นภายใน 2 เดือนนี้

 

 

 

นายพุทธิพงษ์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนยางพารานั้น นายกรัฐมนตรี ยังได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หามาตรการเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ก่อนส่งเรื่องกลับมายังที่ประชุม ครม. ภายใน 7 วัน เพื่อผลักดันให้ราคายางสูงขึ้น พร้อมกับเร่งประชาสัมพันธ์เกษตรกรที่ปลูกยางให้รับทราบ 

ขณะที่มาตรการอุ้มราคาปาล์ม  คาดว่านโยบายดังกล่าวจะทำให้ราคาปาล์มปรับขึ้นถึง 3.10 บาท ต่อกิโลกรัม จากเดิมอยู่ที่ราคา  2.60 บาทต่อกิโลกรัม

เมื่อถามว่า การช่วยเหลือชาวสวนยาง และปาล์มในช่วงนี้ เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งในเร็วๆ นี้ใช่หรือไม่ นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่าราคายางไม่ได้เพิ่งมาตกในช่วงนี้ แต่เนื่องจากเกษตรกรภาคใต้มีสต็อกยางจำนวนมาก และการช่วยเหลือไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมือง และไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้งใดๆ ทั้งสิ้น