- 21 พ.ย. 2561
"นายอภิสิทธิ์" แถลงภายหลังประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคฯ ในกรณี นายถาวร และ"นายแพทย์วรงค์ เปิดบ้านต้อนรับ "สุเทพ"
สืบเนื่องจาก"นายสุเทพ เทือกสุบรรณ" ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค รปช. ในฐานะประธานคณะกรรมการรณรงค์เชิญชวนประชาชนให้มาร่วมเป็นผู้ก่อตั้งและสมาชิกพรรครวมรปช. เดินคารวะแผ่นดินจังหวัดภาตใต้ ได้เดินทางถึง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่ง "นายถาวร เสนเนียม" อดีตส.ส.สงขลา พรรค ปชป. ได้เปิดบ้านพักของตนเองให้การรับนายสุเทพและคณะเพื่อพักผ่อนและใช้เป็นสถานที่พักค้างคืน เรื่องนี้ร้อนถึงหู"นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้สั่งการด่วนจี้มอบให้"นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ" รองหัวหน้าพรรคสอบสวนข้อเท็จจริง
กรณีดังกล่าวว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อข้อบังคับพรรคในฐานะสมาชิกพรรคหรือไม่ ...
นอกเหนือไปจากนั้น เมื่อช่วงเช้าของเมื่อวันที่ 19 พ.ย. 61 ได้ปรากฏภาพ"นายวิทยา"ร่วมเดินเคียงข้างกับ"นายสุเทพ" โดยเพจเฟซบุ๊กพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ได้โพสต์ข้อความและภาพความเคลื่อนไหวของปฏิบัติการเดินคารวะแผ่นดิน วันที่ 24 ที่ จ.นครศรีธรรมราช
โดยช่วงเช้า "นายสุเทพ" ได้นำทีมงานสักการะศาลหลักเมือง จากนั้นเริ่มเดินที่ตลาดแขกและบริเวณย่านท่าวัง โดยมี "นายวิทยา แก้วภราดัย" อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตแกนนำ กปปส. ร่วมปฏิบัติการเดินคารวะแผ่นดินด้วย
จนกระทั่ง ช่วงเช้าวันนี้ (21 พฤศจิกาฯ) เมื่อเวลา 7 นาฬิกา 30 นาที "นายถาวร และ"นายแพทย์วรงค์ ได้เข้าพบ"นายอภิสิทธิ์ เพื่อชี้แจงกรณีที่นายถาวร เปิดบ้านพักที่จังหวัดสงขลา ให้"นายสุเทพ เทือกสุบรรณ" ผู้ร่วมก่อตั้ง"พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.)" รับสมัครสมาชิกพรรค รปช. เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกาฯ ที่ผ่านมา ครั้นเป็นเหตุให้สมาชิกพรรคฯร้องเรียนผ่าน"นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ" รองหัวหน้าพรรคฯที่ดูแลพื้นที่ภาคใต้ นำไปสู่การสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว รวมทั้งท่าที ของ "น.พ.วรงค์" ที่ประกาศว่า "ถ้าลุงกำนันผ่านมาพิษณุโลก ขออนุญาตเปิดบ้าน เลี้ยงข้าวสักมื้อครับ"
ทั้งนี้ "นายพิฏฐ์" ได้อยู่ร่วมหารือในครั้งนี้ด้วย ซึ่งภายหลังการหารือเกือบ 1 ชั่วโมง "นายถาวร"และ"นายแพทย์วรงค์" เดินลงจากชั้น 2 อาคารควง อภัยวงศ์ ซึ่งเป็นห้องทำงานของ"นายอภิสิทธิ์" ด้วยสีหน้าท่าทางเคร่งเครียด โดย"นายถาวร" โบกมือให้สื่อในทำนองไม่ให้สัมภาษณ์ ก่อนจะพากันเดินเข้าร้านกาแฟบริเวณที่ทำการพรรคฯ
ในเวลาต่อมาของวันเดียวกัน ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) "นายอภิสิทธิ์" แถลงภายหลังประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค กรณีดังกล่าวว่า "ตั้งแต่ทราบเรื่องไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะการเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ลักษณะนั้นอาจก่อให้เกิดความสับสนในหมู่สมาชิก และประชาชนอาจสงสัยว่าเหตุใดทั้งสองท่านจึงไปอยู่ในกิจกรรมของพรรคการเมืองอื่น เพราะโดยพื้นฐานการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด ก็ต้องสนับสนุนทุ่มเทให้กับพรรคนั้น
การไปอยู่ในกิจกรรมพรรคการเมืองอื่นๆ ย่อมกระทบต่อพรรคปชป. จึงได้ให้"นายนิพิฏฐ์" ตรวจสอบเรื่องนี้ โดย"นายนิพิฏฐ์" ได้รายงานว่า ทั้ง 2 กรณี เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ตนได้พูดคุยกับทั้งสองคนแล้ว และได้อธิบายว่าปชป.มีจุดยืนชัดเจน ไม่มีแนวคิดไปฮั้วพรรคการเมืองใด ดังนั้นการกระทำใดที่จะทำให้สับสน ไขว้เขว ก็ไม่ควรกระทำ ซึ่งทั้งสองท่านยอมรับจุดยืนของพรรคฯ แต่การกระทำที่เกิดขึ้นอาจจะไม่ได้ระมัดระวังเท่าที่ควร...
"เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นอีก ดังนั้น ทางกก.บห.จึงมีมติว่า "หากมีสมาชิกพรรคฯไปทำกิจกรรมใดๆร่วมพรรคฯอื่น ก่อให้เกิดผลกระทบกับการแข่งขันทางการเมืองต่อพรรคปชป. จะมีการดำเนินการลงโทษตามข้อบังคับพรรคฯ คือ ไม่ส่งลงสมัครรับเลือกตั้ง และถ้ากรณีร้ายแรงก็ให้สิ้นสมาชิกภาพ ดังนั้นถือว่ากรณีของ"นายถาวร"และ"นายวิทยา"ได้จบลงแล้ว ต่อไปสมาชิกจะต้องปฏิบัติตามมติกก.บห.อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ทั้งสองท่านก็ยังคงมีสิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้งได้ เพราะได้คุยกันและเรื่องนี้ยุติแล้ว แต่หากมีการทำอีกครั้งก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง"
"นายอภิสิทธ์" กล่าว