- 23 พ.ย. 2561
จากกรณีที่น้องแนทโดนลูกค้ารายใหญ่ตบหน้าอย่างเเรง เพราะไม่อนุญาตให้ห้ามบุหรี่ในพื้นที่ของโรงเเรม
จากกรณีที่พนักงานเสิร์ฟอาหารในโรงแรมแห่งหนึ่ง พื้นที่จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกลูกค้ารายใหญ่ที่มาใช้บริการตบหน้าอย่างแรง เนื่องจากตนเองได้กล่าวเตือนว่าไม่สามารถจะสูบบุหรี่ในพื้นที่ของโรงแรมได้ และพนักงานรายนี้อยากได้รับความเป็นธรรม เมื่อตนเองทำตามกฎ รักษาความถูกต้อง แต่กลับถูกรังแกนั้น
ต่อมาในเพจเฟซบุ๊ก Red Skull ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ระบุว่า "ไอ้เสี่ยบอกว่า ตอนนี้เรื่องที่เกิดขึ้นไม่มีอะไร เข้าใจแล้วว่าสูบบุหรี่ไม่ได้ แต่ว่าเด็กพูดจาไม่ดีกับลูกค้าที่ไปใช้บริการ จนเกิดเรื่องขึ้น อีกทั้งยังมีคลิปเสียงสัมภาษณ์ของพนักงานเสิร์ฟที่โดนตบหน้าด้วย ระบุว่า "อันนี้เป็นเสียงสัมภาษณ์น้องที่โดนตบ สายข่าวบอกว่าไอ้คนตบวิ่งเคลียร์ตำรวจอยู่ จริงๆมันก็แค่ออกมายอมรับผิดก็จบละ อย่าทำเรื่องให้ยุ่งยาก"
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : "เสี่ยนิคมอุตฯ"แจงตบหน้าพนง.เสิร์ฟ โบ้ยเด็กผิดพูดจาไม่ดี เพิ่งรู้ห้ามสูบบุหรี่
ล่าสุดนายปนิตา อายุ 25 ปี สาวประเภทสอง หรือ "น้องแนท" พนักงานเสิร์ฟ ได้เปิดใจเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยว่า ตนเองได้ทำหน้าที่ต้อนรับและดูแลจำนวน 30 คน ระหว่างนั้น มีหนึ่งในลูกค้า บอกว่า นายสุรสีห์ จะสูบบุหรี่ ซึ่งตนก็ได้ชี้แจงไปว่า ท่านขาไม่สามารถสูบบุหรี่ภายในห้องของโรงแรมได้นะคะ
เนื่องจากภายในห้องไม่มีตัวดูดอากาศ เพราะสัญญาณเตือนไฟไหม้จะดังได้ และอีกอย่างผิดกฎโรงแรมด้วย จากนั้นนายสุรสีห์ ก็ถามหนูว่า ให้ไปสูบได้ที่ไหน จึงตอบไปว่าถ้าจะสูบต้องไปสูบบริเวณหน้าโรงแรม ซึ่งตนก็พูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส จากนั้นนายสุรสีห์ ก็ได้ถามอีกว่า ห้องข้างๆ เป็นห้องอะไร
ก็ตอบกลับไปว่า เป็นห้องลักษณะเดียวกัน ไม่สามารถสูบบุหรี่ได้ นายสุรสีห์ ก็ตอบกลับมาด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิด ว่า กูรู้ กูไม่ได้โง่ ตอนได้ยินดังนั้นจึงตกใจ จนผู้จัดการ ในห้องอาหาร เห็นท่าไม่ดีจึง บอกให้ตนออกไปด้านนอก
โดยช่วงเย็นวันที่ 6 พ.ย. ที่ผ่านมา มีลูกค้าซึ่งเป็นผู้บริหารของนิคมอุตสาหกรรมชื่อดัง พร้อมด้วยข้าราชระดับสูงและนักธุรกิจใน จ.พระนครศรีอยุธยา มารับประทานอาหาร ตนเองได้เข้าไปให้บริการตามปกติ จากนั้นลูกค้าจะสูบบุหรี่ในห้องอาหาร ตนได้เข้าไปห้ามและบอกไปว่าผิดกฎหมายและผิดกฎของโรงแรมด้วย เนื่องจากในห้องอาหารมีระบบเตือนภัยหากมีการดูดบุหรี่ จะเกิดควันระบบเซ็นเซอร์จะทำงาน ลูกค้าคนดังกล่าวไม่พอใจ เดินตามออกมาจากห้องอาหารมาต่อว่าตน และตบหน้าอย่างแรง ตนเจ็บมากจนหูอื้อและรู้สึกอายเพื่อนพนักงานด้วยกัน
หลังจากนั้นตนได้ออกมาจากห้องอาหารมาบอกกับทางผู้จัดการและผู้บริหารของโรงแรม ซึ่งมีการเข้าไปพูดคุย แต่เหตุการณ์หลังจากนั้นตนเองไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง หลังจากที่ลูกค้ากลับไปแล้วตนกลับเข้าไปทำความสะอาดในห้องอาหาร ก็พบว่าข้าวของในห้องอาหารกระจัดกระจายจานแก้วแตก
ขณะนี้ตนเองและทางโรงแรมได้เข้ามาแจ้งความไว้เป็นหลักฐานแล้ว แต่เรื่องเงียบหายไปจนล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกมาเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม ตนเองยืนยันในวันนั้นตนเองพูดจาสุภาพและให้บริการแขกตามมารยาท และกฎระเบียบของโรงแรม ไม่ได้มีการพูดจาไม่ดี ทำหน้าที่นี้มา 9 ปี ตนเองไม่อยากให้ผู้ที่มีอำนาจหรือมีตำแหน่งใหญ่โตรังแกคนอื่น ถึงจะเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟคนหนึ่งพ่อแม่ตนเองยังไม่เคยทำกับตนขนาดนี้ ขอยืนยันที่จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด