- 13 ธ.ค. 2561
ส่อเค้าทวีรุนแรงมากยิ่งขึ้นกับความสัมพันธ์ระหว่าง สหรัฐและจีนซึ่งมีแคนาดาเป็นตัวแสดงที่สาม สืบเนื่องจากกรณีการจับกุมตัว เมิ่ง เวินโจว (Meng Wanzhou) ผู้บริหาร ฝ่ายการเงิน บริษัทหัวเหว่ย เทคโนโลยีของจีน ในประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2561 ที่ผ่านมา
ส่อเค้าทวีรุนแรงมากยิ่งขึ้นกับความสัมพันธ์ระหว่าง สหรัฐและจีนซึ่งมีแคนาดาเป็นตัวแสดงที่สาม สืบเนื่องจากกรณีการจับกุมตัว เมิ่ง เวินโจว (Meng Wanzhou) ผู้บริหาร ฝ่ายการเงิน บริษัทหัวเหว่ย เทคโนโลยีของจีน ในประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2561 ที่ผ่านมา ข้อหาการละเมิดการคว่ำบาตรอิหร่าน ฐานแอบทำธุรกิจค้าขายร่วมด้วย ถึงแม้ล่าสุดจะมีรายงานว่า เมิ่ง เวินโจว ได้รับการประกันตัวด้วยทรัพย์สินมูลค่า 7 ล้าน 5 แสนดอลลาร์พร้อมถูกยึดหนังสือเดินทาง และจะต้องใส่เครื่องรัดข้อเท้าติดจีพีเอส เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ทราบหากเธอหนีออกจากนครเเวนคูเวอร์ประเทศเเคนาดา นอกจากนี้เธอถูกกักบริเวณให้อยู่ที่บ้านพักของเธอในนครเเวนคูเวอร์ ช่วงเวลา 5 ทุ่มถึง 6 โมงเช้า
บานปลายมากยิ่งขึ้นเมื่อนายเล่อ หยูเจิง รมช.ต่างประเทศจีน เรียกตัวนายเทอร์รี แบรนสตัด เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศจีน เข้าพบแสดงจุดยืนคัดค้านต่อการควบคุมตัวนางว่านโจว พร้อมเตือนให้สหรัฐฯ แก้ไขความผิดครั้งนี้โดยทันที เพราะถือเป็นการกระทำที่สร้างความอับอายแก่ประเทศจีน พร้อมกันนั้นยังมีการเตือนถึงผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นต่อเอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศจีนอีกด้วย
ล่าสุด 13 ธ.ค. 2561 กับเหตุการณ์ที่ทำเอาหลายคนหายใจไม่ทั่วท้อง เกรงว่าจะนำมาซึ่งความรุนแรง เมื่อนาง คริสเทีย ฟรีแลนด์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของแคนาดา เปิดเผยว่า หลังจากที่ ไมเคิล คอฟริง (Michael Kovrig) อดีตนักการทูตแคนาดา จีนควบคุมตัวไปก่อนหน้านี้ขณะเดินทางไปยังกรุงปักกิ่ง ตอนนี้ทางการจีนได้ทำการควบคุมตัวพลเมืองแคนาดาเพิ่มอีกราย ทราบชื่อนาย ไมเคิล สเปเวอร์ (Michael Spavor) เป็นนักธุรกิจ ที่ทำงานอยู่ในเมืองตานตง ทางภาคเหนือของจีน ติดกับพรมแดนเกาหลีเหนือ รวมถึงยังทำงานด้านการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมด้วย
โดยไม่มีคำชี้แจงถึงสาเหตุที่จับกุมตัวทั้ง 2 คนไปอย่างแน่ชัด แต่ส่วนใหญ่คาดว่าเป็นมาตรการโต้กลับจากกรณีจับกุมตัว เมิ่ง เวินโจว ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้รัฐบาลแคนาดายังไม่สามารถติดต่อนักธุรกิจคนดังกล่าวได้ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศกำลังพยายามหาข้อมูลว่าอยู่ที่ใด พร้อมทั้งได้แสดงความห่วงใยในเรื่องนี้ต่อทางการจีนแล้ว
ทางด้านอดีตเอกอัครราชทูตแคนาดาประจำกรุงปักกิ่ง แสดงความเห็นว่า รัฐบาลจีนต้องการเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาลแคนาดา พร้อมกับที่ผู้เชี่ยวชาญ เชื่อว่านายคอฟริง และนายสเปเวอร์ กำลังตกเป็นตัวประกันของความขัดแย้งระหว่าง 3 ชาติ คือ สหรัฐฯ จีน และแคนาดา โดยรัฐบาลแคนาดายืนยันว่าจะพยายามติดต่อและให้การช่วยเหลือแก่พลเมืองทั้งสองที่ถูกจับกุมตัวอย่างสุดความสามารถ
ตรงกันข้ามกับเสียงของหลายฝ่าย เพราะรัฐบาลแคนาดากลับมองว่า ไม่ควรหยิบยกกรณีการจับกุมตัว เมิ่ง เวินโจว ฐานละเมิดทำการค้ากับอิหร่าน มาเป็นหนึ่งในเงื่อนไขทางการเมือง เพราะด้วยความสุดโต่งของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ออกมากร้าวว่า ตนอาจเข้ามาแทรกแซงเรื่องนี้ หากนำมาซึ่งผลประโยชน์ทางการค้า จนกลายเป็นเสียงวิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม อย่างไรก็ตามเหตุการณ์การจับกุมตัว เมิ่ง เวินโจว เกิดขึ้นวันเดียวกับการประชุมที่อาร์เจนติน่าของกลุ่ม จี-20 ที่ สี จิ้นผิง และ โดนัลด์ ทรัมป์ เจรจาสงบศึกสงครามการค้าชั่วคราวเป็นเวลา 90 วัน ในตอนนี้ก็เป็นอันรู้กันแล้วว่า การเจรจาดังกล่าวต้องมีอันสะดุดลงอย่างแน่นอน
และกับความเคลื่อนไหวของทางการจีน เมื่อ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีนออกแถลงว่า "ความปลอดภัยของพลเมืองจีนทุกคนที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศ เป็นสิ่งที่รัฐบาลจีนให้ความสำคัญในระดับสูงสุด จีนพร้อมปกป้องพลเมืองจีนทุกคนในต่างประเทศ และจะไม่เพิกเฉยต่อการที่รัฐบาลของประเทศใดก็ตาม คุกคามและล่วงละเมิดสิทธิพลเมืองจีน" พร้อมทิ้งท้ายว่า "ท่ามกลางสถานการณ์โลกปัจจุบัน ไม่มีความจำเป็นที่ประเทศใดจะต้องสร้างศัตรูเพิ่ม" แต่จะเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่ เมื่ออนาคตไม่สามารถคาดเดาได้ คงต้องติดตามต่อไปอย่างใกล้ชิดว่าทางออกของความขัดแย้งในครั้งนี้จะเป็นไปในทิศทางใด