หนุ่มช่างเชื่อมถูกเรือเหล็กทับเจ็บสาหัส ขณะมุดเข้าไปเก็บเครื่องมือใต้เรือที่จอดซ่อมบนฝั่ง

เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2561 ร.ต.อ.อมรเทพ  สุขันธ์ รองสารวัตรเวร สภ.เมือง สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุชายถูกเรือทับได้รับบาดเจ็บที่ภายในบริษัท มงคลฮาร์เบอร์ จำกัด เลขที่ 549 หมู่ 6 ซอยสะพานปลา ถนนท้ายบ้าน ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ และรถกู้ชีพโรงพยาบาลสมุทรปราการเดินทางเข้าตรวจสอบ

 

 

ในที่เกิดเหตุพบว่าบริษัทดังกล่าวปิดกิจการไปนานแล้ว แต่ยังมีการใช้พื้นที่บางส่วนของบริษัทนำเรือท่องเที่ยวที่ทำด้วยเหล็กขึ้นมาจอดซ่อม ที่บริเวณพื้นที่ว่างด้านข้างภายในรั้วของบริษัท ซึ่งเป็นเรื่อท่องเที่ยวที่ทำด้วยเหล็กยาวประมาณ 50 เมตร น้ำหนักหลายสิบตัน ที่ตัวเรือตกจากไม้หมอนที่ว่างรองอยู่ด้านล่างลงมาทับร่างของนายโอฬาร  ขันธคีรี อายุ 33 ปี ถูกตัวเรือเหล็กลำดังกล่าวทับอยู่ด้านล่าง เจ้าหน้าที่มูลนิธิได้ช่วยกันนำเครื่องตัดถ่างมาทำการดันตำเรือให้สูงขึ้นก่อนนำร่างของนายโอฬาร  ออกมาได้ก่อนรีบนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ 

 

 

จากการสอบถามนายเอกพงษ์ เนินพล อายุ 34 ปี เพื่อของผู้บาดเจ็บ ได้เล่าว่า ผู้บาดเจ็บเป็นช่างเชื่อมที่มารับเหมาซ่อมแซมเรือท่องเที่ยงลำนี้ หลังจากที่ได้ซ่อมแซมเรือลำดังกล่าวแล้วเสร็จ นายโอฬาร จึงได้นำตู้เชื่อมและอุปกรณ์ต่าง ๆ ไว้ใต้เรือด้านนอกซึ่งเรือลำดังกล่าววางอยู่บนไม้หมอนที่ซ้อนกัน 2 ชั้น จึงมีช่องว่างที่ใต้เรือ เพื่อหลบฝน และทำการทาสีเรือลำดังกล่าวจนแล้วเสร็จ ในช่วงเย็นของวันนี้นายโอฬาร ผู้บาดเจ็บได้ชักชวนตนให้มาเก็บเครื่องมือและอุปกรณ์การเชื่อมที่เก็บไว้ใต้เรือเพื่อที่จะนำกลับไปเก็บที่บ้าน โดยนายโอฬาร ได้มุดเข้าไปใต้เรือเพื่อดึกอุปกรณ์และเครื่องเชื่อมที่เก็บไว้ออกมาส่งให้ตน  แต่ระหว่างที่นายโอฬาร มุดเข้าไปหยิบอุปกรณ์ใต้เรือ อยู่เรือลำดังกล่าวได้เกิดทรุดตัวลงมาทำให้เรือทั้งลำเคลื่อนตัวไปด้านหลังทำให้เหล็กค้ำยันประครองท้ายเรือทั้งสองข้างบิดงอ และไม้หมอนที่ลองอยู่ด้านล่างตกจากตัวบนลงมานั่งอยู่ไม้หมอนตัวล่างทำให้เรือทั้งลำทรุดตัวลงมาทับร่างของนายโอฬาร ติดอยู่ใต้เรือไม่สามารถออกมาได้ ตนจึงวิ่งไปตามชาวบ้านมาช่วยเหลือ แต่ก็ไม่สามารถนำร่างของนายโอฬาร ออกมาได้จึงได้รีบโทรศัพท์แจ้องขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ

 

 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิฐานว่า ขณะที่ผู้บาดเจ็บมุดลงไปใต้เรือที่มีไม้หมอนวางซ้อนลองอยู่ 2 อัน แต่ด้วยสภาพพื้นดินที่น้ำทะเลท่วมถึงทุกวันยามน้ำทะเลหนุน พื้นดินเกิดการยุบตัวจึงทำให้ตัวเรือขยับถอยหลังตกจากไม้หมอนลงมาทับร่างของผู้บาดเจ็บ โชคดีที่ไม้หมอนตัวล่างยังรับน้ำหนักเรืออยู่มิเช่นนั้นอาจเสียชีวิตได้ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 

 

 

 

ภาพ/ข่าว  สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ   ผู้สื่อข่าวภูมิภาค   สำนักข่าวทีนิวส์   จ.สมุทรปราการ