- 11 มี.ค. 2562
หมดตัวเพราะใจบุญ!!วอนช่วยครอบครัวใจบุญหาทุ่มสุดชีวิตเลี้ยงหมาแมวจรจัดกว่า 300 ตัวเดือนละกว่า 2 หมื่นจนบ้าน,ที่ดินถูกฟ้องบังคับคดีขายทอดตลาด
(11 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนขอคามช่วยเหลือจาก น.ส.วรรณพร ริยาพันธ์อายุ 31 ที่บ้านเลขที่ 163/2 บ้านหนองยาง หมู่ 6 ต.แก้วแสน อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช สาวใจบุญและครอบครัวที่ต้องรับภาระเลี้ยงดูสุนัข และแมว จรจัดจำนวนกว่า 300 ตัว โดยแบ่งเป็นสุนัขหลากหลายสายพันธุ์ จำนวนประมาณกว่า 200 ตัว และแมวประมาณ 100 ตัว ต้องเงินรายได้ในครอบครัวที่หามาได้เดือนละกว่า 20,000 บาท ต้องนำมาซื้ออาหาร ยารักษาโรคและอื่น ๆ ในการเลี้ยงสุนัขและแมวจนจัด จนไม่มีเงินผ่อนบ้านที่จำนองไว้กับธนาคาร จนล่าสุดทางธนาคารได้ยื่นฟ้องบ้านและที่ดินเนื้อที่กว่า 2 งานและศาลได้พิพากษาตัดสินให้จ่ายหนี้ให้กับธนาคาร 1,5 ล้านบาทเมื่อไม่มีเงินจ่ายจึงบังคับคดียึดบ้านและที่ดินขายทอดตลาด ทำให้ครอบครัวของ น.ส.วรรณพร ได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสไม่มีที่อยู่อาศัยที่สำคัญสุนัขและแมวจรจัดที่เลี้ยงไว้กว่า 300 ตัวก็เริ่มอดอาหารและไม่รู้นำนำไปเลี้ยงที่ไหน
น.ส.วรรณพร ริยาพันธ์ บ้านของตนอาศัยอยู่ 3 คน ประกอบด้วยนางมณฑา จันร์แจ่มศรี (นามสกุลเดิม ริยาพันธ์) อายุ 50 ปี นายสมพร จันทร์แจ่มศรี อายุ 51 ปี พ่อเลี้ยงของตนและตน โดยนายสมพร และแม่เลี้ยงตนมาตั้งแต่ตนอายุ 2 ขวบ และได้ไปกู้เงินจากธนาคารมาสร้างบ้านในเนื้อที่ 2 งานเศษ โดยใช้ล้นและที่ดินจำนองเงินกู้เอาไว้และผ่อนจ่ายเป็นรายเดือน ๆ ละเกือบ 15,000 บาท แต่ในช่วงเกือบ 10 ปีได้มีคนนำสุนัข และแมวมาปล่อยทิ้งไว้ที่บนถนนหน้าบ้านของตนอย่างต่อเนื่อง ด้วยความสงสารและคนในบ้านต่างรักสัตว์ จึงนำมาเลี้ยงเอาไว้จำนวนมาก แต่ก็มีคนนำแมวหมามาทิ้งที่หน้าบ้านของตนอย่างต่อเนื่อง โดยสุนัขและแมวที่ถูกนำมาทิ้งมีทุกขนาด และบางตัวก็ตั้งท้องอยู่ด้วย ตนจึงนำมาเลี้ยงด้วยความสงสาร และเอเวลาผ่านไปหลายปีสุนัขและแมวทั้งที่คนนำมาทิ้งและที่เกิดใหม่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ในปัจจุบันสัตว์ทั้ง 2 ชนิดน่าจะมีมากกว่า 300 ตัวอยู่เต็มบริเวณบ้าน
“พ่อเลี้ยงของตนและแม่ทำงานหารายได้เลี้ยงครอบครัวมีรายได้เดือนละกว่า 20,000 บาทโดยเงินส่วนใหญ่นำมาให้เป็นค่าใช้จ่าย ค่ายา ค่าอาหารสุนัขและแมวตกเดือนละประมาณ 20,000 บาท จนไม่มีเงินจ่ายหนี้เงินกู้เพราะนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงสุนัขและแมวเกือบหมด หากนำไปผ่อนชำระหนี้ค่าบ้านและที่ดินที่จำนิงไว้กับธนาคารสุนัขและแมวจรจัดทั้ง 300 ตัวก็อดอดตายจึงเลือกที่จะให้สุนัขและแมวมีชีวิตรอด ในช่วงเกือบ 10 ปีได้จ่ายค่าเลี้ยงสุนัขและแมวจรจัดไปแล้วกว่า 1 ล้านบาท ล่าสุดทางธนาคารได้ฟ้องบังคับให้ครอบครัวตนชำระหนี้รวม 1,5 ล้านบาทเศษ แต่ครอบครัวตนไม่มีเงินจ่ายหนี้จึงถูกบังคับคดียึดบ้านและที่ดินประกาศขายทอดตลาด ทำให้คนในบ้านเครียดหนัก เนื่องจากหากบ้านถูกขายทอดตลาดไปครอบครัวตนพร้อมน้องหมา แมว ก็ไม่รู้จะไปอาศัยอยู่ที่ไหน ที่สำคัญวันนี้ครอบครัวของตนหมดเนื้อหมดตัวแล้ว สุนับและแมวที่เลี้ยงเริ่มอดอาหาร จึงอยากวิงวอนขอคามช่วยเหลือจากผู้ใจบุญทั้งหลายให้ช่วยบริจาคอาหารสุนัขและแมวด้วย อย่างน้อยเพื่อจะได้ช่วยประทังชีวิตสัตว์ทั้ง 2 ชนิดให้มีชีวิรอดต่อไป”
น.ส.วรรณพร ริยาพันธ์ กล่าวต่อไปอีกว่า หากผู้ใจบุญจะช่วยบริจาคเงินช่วยไถ่บ้านและที่ดินที่กำลังจะถูกขายทอดตลาด ตนและครอบครัวจะไม่ลืมบุญคุณเลย โดยหาดบ้านและที่ดินถูกขายทอดตลาดคนในครอบครัวตนยังพอกระเสือกกระสุนหาเช่าบ้านราคาถูก ๆอยู่อาศัยได้ แต่เป็นห่วงสุนัขและแมวไม่รู้จะให้มันอยู่ที่ไหน จะปล่อยตามยถากรรมก็สงสารเพราะเชื่อว่าหากไม่ได้รับการช่วยเหลือสุนขและแมวกวา 300 ตัวจะต้องหิวโซอดตายไปในที่สุดอย่างแน่นอน จึงขอกราบวิงวอนผู้ใจบุญ ได้โปรดเมตตาสงสารครอบครัวตนพร้อมสุนัขและแมวทั้งหมดด้วย โดยติดต่อมาสอบถามรายละเอียดข้อมูล บัญชีธนาคารเพื่อบริจาคช่วยเหลือได้ที่นายสมพร จันทร์แจ่มศรี พ่อเลี้ยงตนหมายเลขโทรศัพท์ 081-742-8031 ครอบครัวไม่มีใครหรือหนทางไดที่พึ่งพิงอีกแล้ว.
ภาพ/ข่าว ยุทธนะ เตมะศิริ สนัำช่าวทีนิวส์นครศรีธรรมราช