- 03 พ.ย. 2560
ราคาหุ้น SAWAD ที่เหมาะสม ควรอยู่ระดับใด ติดตาม เพจRichman can do........
ราคาหุ้น SAWAD ที่เหมาะสม ควรอยู่ระดับใด ติดตาม เพจRichman can do........
หุ้น SAWAD ถือเป็นหุ้นขวัญใจ มหาชน อีกตัวที่ไม่สร้างความผิดหวังให้นักลงทุน เพราะราคายังทำ All Time High ได้เรื่อย ๆ
บริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ จำกัด(มหาชน) หรือ SAWAD ฉายาเงินติดล้อ หรือ เงินสดทันใจ เป็นกลุ่มบริษัทประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อรายย่อย
ภายใต้เครื่องหมายบริการ ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ ซึ่งประกอบด้วย 5 ธุรกิจหลัก ได้แก่
1) สินเชื่อรายย่อยแบบมีหลักประกันประเภท ทะเบียนรถเก่าทุกประเภท บ้านและโฉนดที่ดิน
2) สินเชื่อรายย่อยแบบไม่มีหลักประกันภายใต้การกำกับ
3) บริหารสินทรัพย์
4) รับจ้างติดตามหนี้
5) บริการที่ปรึกษาและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการทำธุรกิจสินเชื่อ
มาดูมุมมองของนักวิเคราะห์.............
บล.เอเชีย พลัส หรือ ASPS คาดกำไรสุทธิงวดไตรมาส 3 ปีนี้เท่ากับ 681 ล้านบาท เติบโต 8.1% เทียบไตรมาสต่อไตรมาส (qoq) และ 25.4% เทียบงวดเดียวกันปีที่แล้ว (yoy) แม้เป็นช่วงฤดูกาล ซึ่งโดยปกติแล้วอัตราการเติบโตจะเร่งตัวขึ้นมากกว่านี้และทำระดับสูงสุดของปี แต่เนื่องจากเป็นช่วงการปรับกลยุทธ์ธุรกิจร่วมกับ BFIT ทำให้เห็นการชะลอตัวของสินเชื่อไปบ้างบางจุด ซึ่งปัจจุบันสามารถคลี่คลายไปแล้วเป็นส่วนมาก
โดยการเติบโตของกำไรสุทธิงวดนี้ ผลักดันด้วยรายได้จากธุรกิจหลัก โดยเฉพาะรายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิ ซึ่งเริ่มเห็นการเติบโตของสินเชื่อทะเบียนรถภายใต้สัญญาเงินให้กู้ยืมที่ BFIT กว่า 3.8 พันล้านบาทในงวดนี้ ส่วนสินเชื่อทะเบียนรถที่ดำเนินการโดย SAWAD ภายใต้สัญญาเช่าซื้อ (yield ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับสัญญาเงินให้กู้ยืมกว่า 3-4%) เริ่มหดตัวลง ซึ่งเป็นเจตนาของบริษัทฯ ไม่ได้น่ากังวล
ด้าน spread ซึ่งอาจจะไม่ได้สะท้อนภาพรวมส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยได้ชัดเจนนัก เนื่องจากการบันทึกรายได้ดอกเบี้ยรับของ BFIT นั้น เป็นยอดสุทธิจากค่านายหน้าที่จ่ายให้กับ SAWAD ตามข้อตกลงกัน แต่ทิศทางโดยรวมยังลดลงอยู่ เนื่องจากเป็นช่วงเริ่มต้นของการทยอยโอนสินเชื่อ high yield ไปเติบโตที่ BFIT แทน แต่คาดจะทยอยเพิ่มขึ้นในระยะถัดไป
อย่าไรก็ตาม ASPS กังวลราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นเร็วมาก ตอบรับมูลค่าพื้นฐานใหม่ปี 2561 ที่ 80 บาท แต่ก็แนะนำซื้อ เมื่อราคาอ่อนตัว
ส่วน บล.ทิสโก้ มองอนาคต SAWAD ว่า สินเชื่อขยายตัวดีในปี 2018
ด้านผลดำเนินงานไตรมาส 3 ปีนี้คาดว่า เพิ่มขึ้น 32% เทียบงวดเดียวกันปีที่แล้ว ( YoY) และโต 13% เทียบไตรมาสต่อไตรมาส(QoQ) เป็น 715 ล้านบาท
ผลประกอบการเพิ่มขึ้นมาจาก 1) สินเชื่อที่เพิ่มขึ้น 41% YoY เป็น 2.2 หมื่นล้านบาท 2) สินเชื่อของ BFIT ที่โต 20% QoQ เป็น 5.5 พันล้านบาท
และ 3) ผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (รวมค่าธรรมเนียม) อยู่ที่ 31.6% คงที่จากช่วงก่อนหน้า โดยคาดผลประกอบการไตรมาส 4 ปีนี้ที่ 758 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% YoY และ 6% QoQ ส่วนผลประกอบการ 2017 ทิสโก้คาดว่า เพิ่มขึ้น 34% เป็น 2.7 พันล้านบาท และเพิ่มขึ้น 33-23% ในปี 2018-19
บล.ทิสโก้ จึงให้ราคาเหมาะสม ที่ 74 บาท
Richman can do มีความเห็นว่า คนที่รักจะลงทุนหุ้น SAWAD ต้องเสี่ยงกล้าซื้ออนาคต เพราะราคาในกระดานขณะนี้ที่ 70 บาทกว่า ก็ใกล้เคียงกับราคาพื้นฐานที่โบรกเกอร์ต่างให้ไว้แล้ว เนื่องจากน่าจะรับข่าวดีไปแล้วถ้วนหน้า แต่ถ้ามองว่า ถ้าอนาคตสัดส่วนถือ หุ้น BFIT มีมากขึ้น ก็จะทำกำไรได้ดีขึ้น ซึ่งอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ชั่งน้ำหนักให้ดีก็แล้วกัน........................