- 18 ก.ค. 2561
ถือเป็นการสร้างอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์วงการสื่อสารมวลชนไทย ในยุคที่มีความเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่าง โดยเฉพาะกับก้าวใหม่ของโลกข่าวสารดิจิตอลที่มีความล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยี ทั้งอุปกรณ์เครื่องมือและรูปแบบการนำเสนอข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดีย
ถือเป็นการสร้างอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์วงการสื่อสารมวลชนไทย ในยุคที่มีความเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่าง โดยเฉพาะกับก้าวใหม่ของโลกข่าวสารดิจิตอลที่มีความล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยี ทั้งอุปกรณ์เครื่องมือและรูปแบบการนำเสนอข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดีย ท่ามกลางข้อกังขาเมื่อผู้บริหารใหม่ "เนชั่น" กล้าประกาศว่าจะทำให้ "เนชั่น" กลับมาคุ้มทุน ทั้ง ๆ ที่ 2 ปีที่ผ่านมามีผลประกอบการขาดทุนมากถึง 3,500 ล้านบาท ไม่นับรวมหนี้สินก้อนโตเป็นพันๆล้าน จากรูปแบบการทำงานของทีมผู้บริหารในอดีตทิ้งภาระและปัญหาใหญ่ๆให้ต้องแก้ไขหลายเรื่อง..
ล่าสุดจากบทสัมภาษณ์ของ "ฐานเศรษฐกิจ" กับผลสำเร็จที่เกิดขึ้นทั้งค่าเรตติ้งและรายได้ ทำให้ 2 บุคคลสำคัญผู้อยู่เบื้องหลัง อย่าง “สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม” ประธานกรรมการ และ “ฉัตรชัย ภู่โคกหวาย” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NBC กลายเป็น 2 ขุนพลที่ถูกจับตามองและถูกตั้งคำถามมากที่สุด ถึงวิธีการทำให้แบรนด์ "เนชั่น" กลับมาผงาดอีกครั้งในวงการสื่อโทรทัศน์เมืองไทย และมุมมองก้าวต่อไปในอนาคต อะไรจะเกิดขึ้นกับ "เนชั่น" เพราะต้องไม่ลืมว่าทั้ง 2 คน ก็คือผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ "สำนักข่าวทีนิวส์" ในอดีตที่วันนี้ถือเป็นสื่อออนไลน์ชั้่นนำแห่งหนึ่งของประเทศ
@4 เดือนในบ้านหลังใหม่เป็นอย่างไรบ้าง?
“สนธิญาณ” บอกว่า ถามว่าหนักใจหรือไม่ ต้องมาดูก่อนว่าตั้งแต่เดือนมกราคม เรตติ้งของเนชั่นทีวีอยู่ที่ 0.098 กุมภาพันธ์ 0.116 มีนาคม 0.113 อาการแบบนี้ยากแน่นอน เมื่อเปรียบเทียบกับทีวีดิจิตอลที่อยู่ใน 10 อันดับแรก ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นคือการแลกเปลี่ยนกันอย่างหนักก่อนที่จะเข้ามา เพราะว่าโดยข้อเท็จจริง เราไม่รู้สภาพและบรรยากาศการทำงานในเนชั่นทีวีเลยว่าเป็นอย่างไร
แต่เป้าหมายคือ การมาเพื่อ “ทำงาน” ให้เนชั่นทีวีดีขึ้น มี “เรตติ้ง”เพิ่มขึ้น มี “รายได้” สูงขึ้น และสำคัญคือต้องคุ้มทุนในปีนี้ ซึ่งตั้งแต่เดือนแรกที่ก้าวเข้ามา (มีนาคม) ก็เริ่มลุยกันเลยทั้ง 2 คน ทั้งปรับกระบวนยุทธ์ ปรับฐานการทำงาน ปรับผังรายการเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด
“หลักการคือ ต้องทำให้ทุกรายการโดดเด่นและมีจุดขาย ต้องบริหารให้รายการเข้มแข็ง ไม่ใช่ช่อง การจัดเรียงต้องสอดคล้องกับผู้ชมในแต่ละช่วงเวลา การเชื่อมโยงจากรายการหนึ่งไปสู่อีกรายการหนึ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ชมกดรีโมตหนี และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นหลังการเข้ามาทำงานนี้ 4 เดือนก็คือ เรตติ้งที่สูงขึ้นเท่าตัว รวมถึงรายได้ที่กระโดดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด”
โดยเรตติ้งในเดือนเมษายนที่มี 0.108 เพิ่มขึ้นเป็น 0.148 ในเดือนพฤษภาคม 0.234 ในเดือนมิถุนายน และตั้งแต่วันที่ 1- 11 กรกฎาคมมีเรตติ้ง 0.439 ขณะที่รายได้ช่วงต้นปีที่เฉลี่ยเดือนละ 20-21 ล้านบาทเพิ่มขึ้นเป็น 35-36 ล้านบาทในเดือนพฤษภาคม และเดือนมิถุนายนจบได้ที่ 38 ล้านบาทเลยทีเดียว
@ภารกิจแรกที่เนชั่นทีวีสำเร็จหรือยัง?
ทางด้าน “ฉัตรชัย” บอกว่า 4 เดือนแรกถือเป็นเฟสแรกของการทำงาน ผลงานที่เกิดขึ้นเป็นความสำเร็จของทุกฝ่าย แต่ทิศทางของเนชั่นทีวีจากนี้ไปคือ การมุ่งนำเสนอรูปแบบที่แตกต่าง เมื่อมีแบรนด์ที่แข็งแรง + คนมืออาชีพ + มัลติ แพลตฟอร์ม+ รูปแบบการนำเสนอที่ครอบคลุมและลงลึกในรายละเอียดเชื่อว่าจะช่วยสร้างให้เรตติ้งดีขึ้น 100-150% ยอดขายดีขึ้น และเป้าหมายคือ 50 ล้านบาทต่อเดือนในอีก 3 เดือนข้างหน้า ทำให้อันดับของเนชั่นทีวีก้าวขึ้นมาอยู่ในแรงกิ้งที่ดีขึ้น จากเดิมที่เคยอยู่ในอันดับ 15 ในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ล่าสุดกรกฎาคม เนชั่น ทีวีอยู่อันดับ 12 ถือว่ายากมาก แต่พวกเราก็ทำได้ ชาเลนจ์ต่อไปคือ การรั้งให้อยู่ในอันดับ 11-12 จนถึงสิ้นปีนี้
“สิ่งที่จะเห็นในเดือนกันยายนนี้คือ การนำเสนอในรูปแบบที่แตกต่าง การบอกเล่าเรื่องราวให้เห็นแบบชัดเจน ถ่ายทอดโดยผู้สื่อข่าวที่รู้จริง พร้อมคอมพิวเตอร์กราฟิกที่จะช่วยสื่อสาร เมื่อพูดถึงพายุ ฝนต้องมี ลมต้องมา แต่แม้คอมพิวเตอร์กราฟิกจะช่วยดึงผู้ชมได้ แต่สิ่งสำคัญคือเรื่องของ ประเด็นข่าว”
@ เส้นทางของเนชั่นทีวีนับจากนี้จะเป็นอย่างไร?
“ฉัตรชัย” บอกว่า เมื่อบริบทของผู้บริโภคสื่อเปลี่ยนแปลงไป การรับชมทีวีที่ลดลง สมาร์ทโฟนเข้ามาแทนที่ สื่อทีวีไม่ใช่อุตสาหกรรมที่สอดคล้องกับความเป็นจริง ย่อมต้องปรับตัว “เนชั่น ทีวี” จะไม่ใช่คนทำสื่อทีวีแต่เพียงอย่างเดียว แต่จะเป็น “Content Provider”
ก้าวต่อไปคือการทรานส์ฟอร์ม ธุรกิจเต็มรูปแบบโดยเฉพาะการสร้างรายได้จาก New Media ซึ่งเป็นความท้าทายที่จะพิสูจน์ฝีมือของผู้บริหารหนุ่มคนนี้ที่เคยปั้น TNEWS จนสร้างรายได้จากนิวมีเดียทะลุหลัก 100 ล้านบาทในเวลาอันรวดเร็ว
การออกสตาร์ตในแพลต ฟอร์มนิวมีเดียช่วงสั้นๆ แต่วันนี้เนชั่นทีวีเริ่มมีรายได้แล้ว 1 ล้านบาทต่อเดือน และจะเพิ่มเป็น 2-3 ล้านบาทในอีก 2 เดือนข้างหน้า “ฉัตรชัย” บอกว่า ในโลกของนิวมีเดีย สิ่งที่ได้มาไม่ใช่เพียงรายได้จากโฆษณาที่ไหลเข้ามาในแต่ละเดือน แต่ผู้คนจะเห็นแบรนด์ “เนชั่น” มากขึ้นในแพลตฟอร์มนี้ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่วัดผลผู้ชมได้ว่าเป็นใคร ซึ่งถือเป็น Big Data ที่จะมีประโยชน์ในอนาคต
ความสำเร็จที่เกิดขึ้นมาจาก “ชาวเนชั่นทีวี” ผมแค่มาจัดวางให้ลงตัว หากเดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป เนชั่นทีวีมีรายได้แตะ 50 ล้านบาทขึ้นไปทุกๆ เดือน เชื่อว่าในปี 2562 เนชั่นทีวีจะมีกำไรแน่นอน
เช่นเดียวกับ “สนธิญาณ” ที่บอกว่า ผลงานที่ผ่านมาต้องขอบคุณทีมเนชั่นทีวีทุกคน ที่ช่วยกันทำงานจนบรรลุเป้าหมาย จากอาการที่เรียกว่า “สาหัส” วันนี้น่าจะอยู่ในจุดที่สบายใจ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ “สิ่งมหัศจรรย์” ที่เรานำประสบการณ์มาปรับใช้ และได้ผลลัพธ์ดังกล่าว ซึ่งก้าวย่างต่อไป แน่นอนว่าเราไม่หยุดนิ่ง รายได้ของ NBC จะต้องมาจากการโฆษณา 70% การเช่า/ร่วมผลิต 15% และนิวมีเดีย 15%
ช่วงท้าย “สนธิญาณ” สรุปใจความให้ต้องเกาะติดอนาคตสื่อยักษ์ใหญ่ ภายใต้แบรนด์เนชั่น "ต้องจับตามองต่อไป เพราะสนามแข่งขันของทีวีดิจิตอลวันนี้ต้องดุเดือด ร้อนแรงเพื่อช่วงชิงทั้งเรตติ้ง และรายได้"